รีวิวหนัง I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน
เรื่องราวก็อย่างว่าไปในย่อหน้าแรก หมอธนา คือผู้ชายที่ยังคงคิดถึงหมอนกที่เสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุ สองปีผ่านไป เขาก็ยังคงทำกิจวัตรหลายอย่างประหนึ่งว่าหมอนกยังคงมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวก็มักจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับหญิงสาวทุกคนที่เข้ามาจีบหมอธนา รีวิวหนัง I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ดูหนังออนไลน์
ตัวอย่างภาพยนตร์ ‘I MISS U’ [Trailer] (Official)
กระนั้น ก็ยังมีคนกล้าจีบอีกนะ และรายล่าสุดก็คือ หมอบี หมอน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา เธอไม่ได้จีบโดยตรง แต่ก็แอบมีใจให้กับหมอธนาอยู่ไม่น้อยและเธอก็คือคนที่ต้องเผชิญกับผีหมอนกอย่างไม่ต้องสงสัย รีวิวหนังไทย
เรื่องความสวยคงไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะหมอบีหรือหมอนก ก็สวยด้วยกันทั้งคู่ ดูแล้วเพลินดี (แม้ว่าจะหมอนกจะเป็นผีก็ตาม) ขณะที่ในส่วนของไดอะล็อกคำคมๆ ก็นับว่ามีอยู่หลายประโยคที่ได้ฟังแล้วก็อึ้งๆ อยู่ แต่ฉากแรกที่หมอสองคนเจอกัน ผมว่าคำพูดมันดูขัดๆ กันอยู่ยังไงไม่รู้อะ ดูหนังฟรี
ถ้าเรื่องมุมกล้อง ก็ถือได้ว่า ทำออกมาได้ดี ถ่ายมุมมองน่าสนใจ แต่ก็พบว่าบางฉากหน้านักแสดงค่อนข้างมืดเกินไปทั้งที่ไม่ใช่ฉากที่ผีจะออกมา สำหรับบทบาทการแสดง ถือได้ว่า นักแสดงหญิงค่อนข้างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี โดยเฉพาะสายป่าน ขณะที่แขกรับเชิญอย่าง ทราย ก็ทำตัวเป็นสีสันได้อย่างดีทีเดียว ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

รอบที่ผมเข้าไปดูนั้นเป็นตอนจบแบบที่ 2 ซึ่งเป็นการรับชมในรอบแรกของผม จึงไม่อาจจะเปรียบเทียบกับการจบแบบอื่นๆ ได้
ถ้าจะพูดถึงหนังผีไทย หลังๆ ผมเริ่มไม่ค่อยจะอินอะไรกับผีตุ้งแช่นักแล้ว ได้แต่สนุกกับการลุ้นและเดาว่า ผีจะมาอีกตอนไหน ตรงหรือไม่ก็เท่านั้น เรื่องการแต่งหน้าให้ดูน่ากลัวจึงไม่มีผลอะไรนัก
สิ่งที่สำคัญในการดูหนังผีสำหรับผมจึงกลายเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือของตัวละคร มูลเหตุจูงใจและสิ่งที่ตัวละครกระทำ ถ้ามันเข้ากันไปได้ดีก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ถ้ามันดูงงๆ หรือแรงจูงใจมันดูไม่เข้ากันกับการกระทำ ผมก็คงไม่ประทับใจกับหนังสักเท่าไหร่ และหนังเรื่องนี้ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ผมยังข้องใจในการเหตุจูงใจและการกระทำของผีอยู่ เพราะสิ่งที่เธอบอกว่าต้องการ กับสิ่งที่เธอกระทำนั้นดูไม่ใคร่จะไปด้วยกันนั่นเอง

ขณะที่การดำเนินเรื่อง เหมือนจะน่าสนใจในช่วงแรก แต่กลับน่าแปลกที่ช่วงหลังเริ่มใส่เพลงเข้ามาบ่อยครั้งและต่อเนื่อง จนดูคล้ายเป็น MV ประกอบหนังไป ขณะที่การสรุปเรื่องก็ค่อนข้างเยิ่นเย้อจนดูเหมือนไม่ค่อยเน้นไปกับจังหวะหนัง
ส่วนตัวไม่ได้ติดตามหนังของพี่อ๊อฟ(มลฑล อารยางกูล) อย่างสม่ำเสมอ หรืออีกนัยหนึ่งคือแทบจะไม่ได้ติดตามเลย หนังของพี่อ๊อฟเรื่องสุดท้ายที่ได้ดูต้องนับย้อนกลับไปโน่นเลย ปักษาวายุ เมื่อหลายปีมาแล้วซึ่งเป็นหนังแอ๊คชั่น/ไซไฟที่ดูได้แค่พอเพลินๆ หลังจากนั้นมาพี่อ๊อฟก็เปลี่ยนทางของตัวเองไปทำหนังผีอีกสองสามเรื่อง และอย่างที่บอก ข้าพเจ้าไม่ได้ดูหนังผีสองสามเรื่องนั้น จนกระทั่งหนังเรื่องล่าสุดนี้ซึ่งก็เป็นหนังผีอีกนั่นแหละ I Miss You…รักฉันอย่าคิดถึงฉัน เหตุผลก็เนื่องจากหนังตัวอย่างและเรื่องย่อที่ทำให้ต่อมอยากดูทำงานทันที และเสริมความมั่นใจด้วยความคิดที่ว่า พี่อ๊อฟคืออีกหนึ่งผู้กำกับหนังไทยที่โชกโชนในการทำหนังผีมาค่อนข้างมาก ยังไงๆ หนังเรื่องล่าสุดนี้จะต้องไม่ขี้ริ้วขี้เหร่หรือเอาแค่ไปวัดไปวาได้คงไม่ใช่เรื่องยาก
หากว่ากันตามท้องเรื่องที่ไม่ขอบอกใบ้เรื่องย่อ แต่อยากกล่าวแค่สั้นๆว่า นี่คือหนังที่เป็นส่วนผสมที่กระท่อนกระแท่นและขาดความลงตัวระหว่างหนังสยองขวัญกับงานโรแมนติคดราม่า มาพร้อมการเดินเรื่องแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ เคล้าคลอไปกับดนตรีเบาๆ ที่อาจจะทำให้คนอ่อนไหวรู้สึกเหงาและอินไปกับตัวละคร หมอพันธนา(พี่ติ๊ก)ได้มากขึ้น พี่ติ๊กทำได้ดีกับการแสดงในมาดของชายผู้ยังโหยหาในรักอมตะที่จากไป ดูเหงา และโดดเดี่ยวในขณะเดียวกันก็เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีปมในใจปิดซ่อนไว้ แบบที่เรียกกันง่ายๆว่า แข็งนอกอ่อนใน ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ในฐานะคนรักคือหน้าที่ในฐานะหมอ บอกตรงๆว่าพี่ติ๊กสอบไม่ผ่านกับการับบทหมอทั้งๆที่คุณสมบัติทางหน้าตาและรูปร่างล้วนเอื้อให้พี่ติ๊กรับบทหมอได้อย่างไม่มีใครสงสัย แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อยู่บนจอพี่ติ๊กกลับขาดราศีของหมออย่างไม่น่าจะเป็น และยิ่งฉากในห้องผ่าตัดที่แม้บทหนังจะยัดศัพท์เฉพาะทางลงมามากเท่าไหร่ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อให้หนังดูมีรายละเอียด แต่เมื่อมันไม่ได้ถูกพ่นออกจากปากหมอจริงๆ ฉากเหล่านั้นดูเก้ๆกังๆ และไม่น่าเชื่อถือ กับการพยายามใช้ศัพท์สูง(ที่คนดูมากมายคงได้แต่นั่ง งง) ได้อย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น
รักฉัน…อย่าคิดถึงฉัน เป็นเจ้าของนักแสดงสมทบหญิงชั้นดี เด่นและกินขาดทุกๆครั้งที่ขึ้นจอ คือ คุณจ๋า (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) ในขณะเดียวกันคุณทราย (อินทิรา เจริญปุระ) แม้บทจะน้อยกว่าใครเพื่อนแต่ก็มีเสน่ห์ในแบบนางอิจฉาตามสไตล์ละครหลังข่าวที่เป็นสีสันให้กับหนังที่ขาดสีสันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนนางเอกของเรื่อง สายป่าน (อภิญญา สกุลเจริญสุข) ทำได้อย่างที่ควรเป็นเมื่ออยู่ในฉากแค่คนเดียว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่วมจอกับสามรายข้างต้น คุณน้องสายป่านจะหายไปจากจอทันที

นำเสนอตัวเองตั้งแต่ต้นว่าเป็นหนังผี แต่หนังก็ไม่ได้มีอะไรที่ สดใหม่หรือแปลกไปจากหนังผีทั่วๆไป เดาทางได้ไม่ยากและลูกเล่นจังหวะในการช๊อคคนดู ว่ากันตรงๆแรงๆครับ งานนี้ยังขาดสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า…รสนิยม ซึ่งพร้อมที่จะกลายเป็นความน่าเบื่อทันทีเมื่อหนังมีการเดินเรื่องที่เนิบช้า และบทหนังที่ขาดความสมเหตุสมผลในหลายๆด้าน ทั้งด้านของเนื้อเรื่องและตัวละคร อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าค้นพบในขณะที่กำลังนั่งชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า หนังได้สอดแทรกแก่นของเรื่องซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ใส่ไว้ได้อย่างแยบคาย ว่าด้วยการพยายามลืมจุดด่างพร้อยและความเสียใจในอดีต คนทุกคนย่อมมีช่วงเวลาของความพลั้งพลาดในอดีตด้วยกันทั้งนั้น ในขณะที่หลายๆคนพยายามจะลืมหรือทิ้งมันไป อีกหลายคนนำอดีตของตัวเองมาเป็นพลังในการนำชีวิตปัจจุบันเพื่อมุ่งสู่อนาคต แตกต่างจากหมอพันธนาที่เป็นเหมือนตัวแทนของคนอีกหลายคนผู้ยังคงจมอยู่กับความเศร้า ความคิดถึงคนรักที่ไม่มีวันกลับมาเหมือนนาฬิกาชีวิตได้หยุดเดินลงตั้งแต่หมอนกตายไปและหลังจากนั้นมันก็ไม่เดินอีกเลย
เมื่อบทและการเดินเรื่องของหนังไม่ได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็ยังดีที่หนังมีงานโปรดักชั่นที่แข็งแรง I miss you มีงานกำกับศิลป์ชั้นเยี่ยม ฉาก เสื้อผ้า ถูกสร้างออกมาอย่างพิถีพิถัน ในขณะที่ดนตรีและเพลงประกอบได้รับการเลือกเฟ้นเพื่อสอดประสานกับโทนเรื่องได้ค่อนข้างดี(หลังจากดูหนังจบ ข้าพเจ้ากลับบ้านมาเปิดฟังเพลง รักเธอทั้งหมดของหัวใจ อีกหลายๆรอบเลย) รวมถึงการมีงานถ่ายภาพที่สวยงาม สรุปก็คือ หนังเรื่องนี้มีงานด้านเทคนิคในระดับของมืออาชีพครับ
อีกหนึ่งหนังไทยที่ถูกจัดเข้ากลุ่มหนังที่มีหีบห่อแพ็กเกจที่ดี หากแต่เนื้อในกลับให้ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง ซึ่งหมายถึง โปสเตอร์ ตัวอย่างรวมไปถึงพล๊อตเรื่องที่ใช้โปรโมต(หรือที่เขาเรียกกันว่า…หน้าหนัง)ออกมาสวยงามน่าลิ้มลอง และจริงอยู่ที่อาจจะดึงคนดูได้มากมายจากการมีนักแสดงระดับแม่เหล็กร่วมแสดงอยู่ในเรื่อง แน่นอนหนังอาจจะทำรายได้ในสัปดาห์แรกได้ดีทีเดียว แต่เมื่อกระแสปากต่อปากเป็นไปในทางลบเสียส่วนใหญ่พิจารณาจากตัวหนังที่ไม่ได้สร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้มากพอ รายรับสัปดาห์ถัดไปคงลดลงอย่างฮวบฮาบ
เมื่อวานไปดูหนังเรื่อง “I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” มาครับ เป็นหนังของค่าย M39 ซึ่งช่วงหลังๆพอจะไว้ใจได้ถึงความสนุก หนังมีจุดขายเด่นเป็นเรื่องรักสามเส้า ชายหนึ่งหญิงสอง แต่หญิงอีกฝ่ายคือคนที่ตายแล้ว จากข่าวที่ออกมาก่อนเปิดฉายเพียงไม่กี่วัน ว่าตอนจบของหนังจะมีถึง 3 แบบ (เฉยๆกับข่าวนี้นะ!) หนังเรื่อง I MISS YOU นั้นผมมองว่าเป็นการตามรอยหนังดราม่าเข้มข้นที่มีผีเป็นฉากหลังอย่างหนังเรื่อง “ลัดดาแลนด์” (GTH) แต่เรื่องนี้คือหนังรักโรแมนติกที่มีเรื่องผีเป็นฉากหลัง ส่วนหนังตลกที่รวมอยู่กับหนังผีเราเห็นกันเกลื่อนแล้ว
ตอนแรกลังเลอยู่ว่าจะเขียนถึงดีไหม แต่พอมาคิดดูอีกทีมีฉากหนึ่งที่ติดตาเรามาก เป็นฉากธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดาเลย นั้นคือ ฉากสนทนากันระหว่างหมอธนา(พี่ติ๊ก) กับหมอบี(สายป่าน) ในร้านอาหารหรือร้านกาแฟเนี้ยแหละ รีวิวหนัง I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน
ขณะที่หมอธนากำลังเล่าเรื่องต่างๆในอดีตให้หมอบีฟัง เธอตอบกลับไปว่า
“ถ้าเราพยายามจำแต่ความสุข มันจะทำให้เราลืมความทุกข์ได้ยากขึ้นไม่ใช่หรอ…?”
ประโยคนี้ทำให้หมอธนาเกิดอาการซาโตริขึ้นทันที พี่ติ๊กแสดงอาการนี้ได้สุดยอดมาก ทั้งแววตา ท่าทาง การแสดงท่าทางอาการฉุกคิดนั้น เยี่ยมสุดๆเลย ทำให้เราเชื่ออยากสนิทใจเลยว่า ว่าเขากำลังวนอยู่ในอ่างของความทุกข์แล้วมีคนมาชี้ทางให้ เป็นช่วงสั้นๆเพียงไม่กี่วินาที แต่ติดตาเอามากๆเลย
อีกคนที่แสดงได้เยี่ยมมากคือ ทราย เจริญปุระ แม้จะมีแค่ไม่กี่ฉาก โดยเฉพาะฉากที่ปะทะคารมกันกับหมอบี บทสนทนานั้นแสดงให้เห็นเบื้องหลังของความรักที่หลายคนมองว่าสวยงาม แต่ความจริงแล้วไม่สวยงามอะไรเลย มีแต่การแย่ชิงกันไม่เว้นแม้แต่ผีก็หนีเรื่องนี้ไม่พ้น เป็นอีกหนึ่งมุมมองของตัวละครตัวนี้ (สรุปว่าเป็นสี่เส้านะไม่ใช่สาม ชายหนึ่ง หญิงสอง ผีอีกหนึ่ง!)
หนังปูเรื่องมาอย่างดีว่า หมอนก(จ๋า) พยายามจะไปแล้วแต่หมอธนาไม่ให้ไป แต่ตอนจบกับปิดลงไม่สมบูรณ์ซะงั้น อย่างน้อยฉากจบที่ผมได้ดูก็ไม่ตรงกับที่คิดไว้ คิดว่าถ้าเป็นอีกแบบทุกอย่างจะสอดคล้องและสมบูรณ์ว่า เนื้อเรื่องบางอันยังขัดๆกันเองอยู่นะ ฉากผี และฉากน่ากลัวต่างๆ คนที่ไปดูด้วยบอกว่าน่ากลัวมาก ผมกลับไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้น(สงสัยดูหนังผีคนเดียวบ่อยเกินไป)

ตอนจบของหนังแสดงให้เห็นว่าคนรอบตัวของคนตายต่างหากที่ไม่ยอมให้เขาไปสู่สุขคติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเหตุกาณ์ในลักษณะนี้ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ทุกคนในครอบครัวพยายามบอกให้หมอยือชีวิตคนที่รักเอาไว้ให้นานที่สุด การอ้อนวอนให้เขากลับมา การเศ้าโศกเสียใจ ฯลฯ เหตุการณ์เล่านี้เห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อฉากหลังเป็นโรงพยาบาล
“I Miss U” หรือ “รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” หนังรักปนสยองขวัญของผู้กำกับมลฑล อารยางกูร (บิ๊กบอย, ผีคนเป็น, ปักษาวายุ) ที่นำแสดงโดยเจษฎาภรณ์ ผลดี, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, อภิญญา สกุลเจริญสุข และ ทราย เจริญปุระ มีแผนจะเข้าฉายในบ้านเราสุดสัปดาห์นี้ครับ ผู้กำกับและนักแสดงทั้ง 4 ได้ไปร่วมออกรายการ “ทูไนท์โชว์” ของช่อง 3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะพูดคุยเกี่ยวกับที่มาของหนังและการรับบทของนักแสดงแล้ว หนึ่งในข้อมูลใหม่ของหนังที่สร้างกระแสฮือฮาขึ้นมาเลยก็คือการที่ได้มีการเปิดเผยในรายการว่า หนังเรื่องนี้จะมีตอนจบ 3 แบบครับ โดยแบบแรกที่เป็นฉบับดั้งเดิมแท้ๆ จะถูกนำออกมาฉายก่อน ส่วนตอนจบแบบที่ 2 และ 3 นั้น จะถูกนำมาอกมาฉายในสัปดาห์ต่อๆมาครับ
ผู้กำกับมลฑลให้เหตุผลของการที่ให้หนังเรื่องนี้มีตอนจบ 3 แบบ ว่า “บางอย่างมันเป็นเรื่องของความรัก มันก็เหมือนผู้หญิงสามคน สามแบบ คำตอบของความรักก็ย่อมไม่เหมือนกัน บางคนร้ายก็จะตอบยังงี้ บางคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีหน่อยก็จะชอบคำตอบแบบนี้ ส่วนคนที่ชอบกลางๆก็ชอบคำตอบแบบกลางๆ ผมจึงรู้สึกว่าถ้าเราทำหนังรัก โดยเฉพาะถ้าเป็นหนังรักสามเส้า เราไม่ควรฟังธงว่าอะไรถูกอะไรผิด หรือว่าผู้ชายคนนี้เขาเลือกถูกหรือเลือกผิด เราควร อ้า มีแบบที่ 1 แล้วคุณไปคิดเอาเองนะว่าคุณจะชอบแบบไหน”
ทั้งหมดนี้แปลว่าคุณต้องไปชมหนังถึงอย่างน้อยสามรอบถึงจะพบตอนจบสามแบบที่แตกต่างกันไป มันอาจทำให้คุณกลับมาพิจารณาว่าคุณชอบแบบไหน และการที่หนังเปลี่ยนตอนจบไป จะทำให้คุณชอบหนังมากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่ แต่นั่นแปลว่าตอนจบของหนังในแบบแรกต้องมีศักยภาพมากพอให้คุณอยากกลับเข้าไปดูหนังมากกว่าหนึ่งรอบครับ