รีวิวหนัง coffee please แก้วนี้หัวใจสั่น
ภาพยนตร์เรื่อง Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่นเป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของเจนไวยย์ ทองดีนอก รีวิวหนัง coffee please แก้วนี้หัวใจสั่น และประกาศิต ภัทรธีรานนท์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวเป็นเรื่องราวของความรักของคน 2 คู่คือ หนุ่ม ชายหนุ่มผู้มีความฝันจะเป็นบาริสต้ากับ เจน สถาปนิกสาว และ โต กับ เฟย์ ที่บุกเบิกทำไร่กาแฟที่เชียงราย ทั้ง 4 คนพบกัน ใกล้กัน ตกหลุมรักกันเพราะกาแฟ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นอ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ มารับบทเป็น หนุ่ม ชายหนุ่มผู้มีความฝันจะเป็นบาริสต้าที่เดินทางไปเชียงราย เพื่อตามหาเมล็ดกาแฟชั้นยอด
คนต่อมาคือมอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ รับบทเป็น โฟร์ค เพื่อนรักของหนุ่ม คนต่อมาคือเจนนี่ วรรณิการ์ พุดชั่ง รับบทเป็น เจน สถาปนิกสาวที่ยังแยกไม่ออกว่า บาริสต้า กับคนชงกาแฟ มันต่างกันตรงไหน โดยภาพยนตร์เรื่อง Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น รีวิวหนัง เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2556ภาพยนตร์เรื่อง Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น เปิดเรื่องราวมาที่หนุ่ม ชายหนุ่มผู้มีความฝันจะเป็นบาริสต้าที่เดินทางไปเชียงราย เพื่อตามหาเมล็ดกาแฟชั้นยอด พร้อมด้วย โฟล์ค เพื่อนรักที่ดึงเอาตัว เจน สถาปนิกสาวที่ยังแยกไม่ออกว่า บาริสต้า กับ คนชงกาแฟ มันต่างกันตรงไหนไปด้วย
หนุ่มกับเจนพวกเขาไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่ จึงมักจะจิกกัดกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เจนถูกส่งไปออกแบบบ้านให้กับไร่ Green Bean ไร่กาแฟของโต กับ เฟย์ พวกเขาคือคนที่ร่วมกันก่อสร้างไร่ Green Bean รีวิวหนังไทย ขึ้นมาและกำลังจะส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดระดับนานาชาติ นี่เองที่ทำให้ อมร เจ้าของไร่ข้างๆ ซึ่งเป็นอดีตแชมป์เมล็ดกาแฟสี่ปีซ้อนรู้สึกขัดหูขัดตาเป็นอย่างมาก ในส่วนของความสัมพันธ์ของ หนุ่มกับโตนั้นไม่ได้ดีขึ้นกว่าอดีต กลับกันความสัมพันธ์ของ หนุ่ม กับ เจน กลับเริ่มพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ภาพยนตร์เรื่อง Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นหนังรักที่เราสามารถดูได้แบบสบายๆ เนื้อเรื่องไม่ได้มีความซับซ้อน เน้นดูแล้วอารมณ์ดี โดยใช้เรื่องราวของกาแฟมาเป็นตัวบอกเล่าความรัก ซึ่งก็เป็นความรักที่น่ารักเอามากๆของคู่พระเอกนางเอก และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือภาพวิวของเชียงรายที่หนังไปถ่ายทำ เป็นวิวที่สวย ดูสบายตา เหมาะกับโทนของภาพยนตร์เรื่องนี้มากๆ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่เคยดูลองหามาดูกันนะคะ กับภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่อง Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น
ต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นคนชอบกาแฟครับ (ใช้ชื่อ Mr. Coffee คนเค้าก็รู้อยู่แล้ว หยอกเย้า) ศึกษามาหลายเรื่องพอสมควร ทั้งแหล่งปลูกกาแฟ สายพันธุ์ ขั้นตอนการผลิต การคั่ว การชง ดังนั้น ผมน่าจะบ้ากาแฟมากกว่าคนปกติอยู่บ้างเป็นแน่หนังเรื่องนี้ตัวอย่างหลอกพาให้งงครับ ขายหน้าหนังเป็นรอมคอม (ชื่อเล่นของ Romantic Comedy) แต่พอดูจบ ผมว่ามันไม่ใช่รอมคอมแน่ๆ แต่ะจะเป็นอะไร เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกที แต่ตัวอย่างก็ไม่ดึงดูดให้อยากเข้าไปดูมากนัก
ดูหนังออนไลน์ หนังเปิดเรื่องมาแนวดราม่าครอบครัว อุดมการณ์ ความฝัน เป้าหมาย และไร่กาแฟ พอดำเนินเรื่องไป คอกาแฟอย่างผมถูกใจมากๆครับ เพราะผมรอมานานมากกับหนังไทยที่เอาเรื่องการปลูกกาแฟทางภาคเหนือของไทยมาเป็นส่วนหลักของเนื้อเรื่อง กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าของไทย คุณภาพสูงติดอันดับต้นๆของโลกเลยนะครับ (แต่คนไทยไม่ค่อยรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับคอกาแฟอย่างผม)
รีวิวหนัง coffee please แก้วนี้หัวใจสั่น
ภาพของหนังที่นำเสนอในส่วนของกาแฟและวิวนั้น เยี่ยมมากครับ สวยงาม น่าไปเที่ยว บรรยากาศดี เล่นเอาอยากไปแอ่วเชียงรายบุกดอยช้าง (แหล่งปลูกกาแฟดังติดอันดับโลกของไทย) กันเลย แต่…หนังมีองค์ประกอบที่แปลกประหลาดบางอย่างที่เข้ามาปนครับ คือ ตลกคาเฟ่สไตล์เจ้าพ่อ????? มาแบบจัดเต็ม ถ้าปรับภาพสีอีกนิดผมคงนึกว่าเลียบแบบหนังไทย ฟ้าทะลายโจร เป็นแน่ เห็นครั้งแรกถึงกับงงว่านี่เราดูหนังเรื่องเดิมอยู่หรือเปล่า หรือดูละครตลกทางทีวี เพราะภาพเป็นหนัง แต่บทมันละครมากๆ

ดูหนังฟรี ที่จริง น้ากล้วยกับน้าแอนนา ทำให้หนังตลกได้โดยยังคงไม่หลุดโทน แต่เจ้าพ่อที่เล่นโดยน้าสมชาย (ที่เล่นเป็นหมอผีบ่อยๆ และเป็นนักพากย์เทนนิส) รวมถึงลูกน้อง และน้าค่อม มันตลกล้นจนแทบจะเกินละครปกติไปเป็นซิตคอม (แต่ผมมาดูหนัง ร้องไห้ )
part ตลกกลายเป็นหนังตลกเน้นๆไปเลยดูเหมือนว่าหนังจะมีพล็อตเรื่องที่ดี น่าสนใจ แต่การแปลงพล็อตมาเป็นบท ไม่ได้แปลงมาบนพื้นฐานของหนังครับ ค่อนข้างไปทางละครมากกว่า และน่าจะรวมถึงการแสดงและการกำกับด้วย ทำให้แทบทุกคนมีการแสดงที่ล้นมากกว่าหนังโดยทั่วไป ล้นกันทั่วแบบนี้น่าจะมากจากการกำกับมากกว่าปัญหาจากการแสดงของนักแสดงนะครับ
สิ่งดูจะน้อยไปในหนังเรื่องนี้ คือการนำเสนอด้านโรแมนติก อาจด้วยบทที่ออกไปทางละคร การดึงอารมณ์ให้อินทำได้ไม่ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้น อ๋อม กับ เจนนี่ ก็ดูมีเคมีที่เข้ากันได้ดี ชอบที่หนังจงใจเอาความที่เจนนี่พูดไทยได้ไม่ชัด มาเล่นให้ลงตัวได้น่ารัก ผมว่าความโรแมนติกของเรื่องนี้เหมือนได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น แต่พอชิมแล้วหัวใจยังไม่สั่นครับ
สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือความตลก (ซึ่งไม่เข้ากับส่วนอื่นของหนัง) บางมุกแป้ก บางมุกฮา บางมุกเฮ บางมุกฮาน้ำตาไหลเลยก็มี ชอบน้าแอนนากับน้าค่อมมากครับ น้าแอนนาเข้ากับหนังมาก แต่น้าค่อมเหมือนมาจากโลกอื่น แต่ฮาอ่ะสรุป – หนังเรื่องนี้คือ …. สารคดีภาพสวยๆ ด้านกาแฟของไทยเน้นที่น่าสนใจมาก บวกกับตลกคาเฟ่สไตล์เจ้าพ่อ บวกกับละครสี่หัวใจแห่งขุนเขาที่อ๋อมเล่นแทนณเดชน์ เจนนี่เล่นแทนญาญ่า (แล้วมันคืออะไร???) เรื่องนี้แฟนละครของอ๋อม ปี๊บ จั๊กจั่น น่าจะถูกใจ หรือคนที่ชอบดูละครปนตลกก็ไม่น่าผิดหวัง
หรือใครที่สนใจเรื่องกาแฟ สนใจเที่ยวไร่กาแฟทางเหนือ ก็น่าจะชอบล่ะครับ แต่คอหนังที่เน้นบท เน้นความเป็นหนัง อาจจะไม่โดน ส่วนคอรอมคอม ถ้าชอบแบบหอมๆ ภาพสวย ก็พอได้ แต่ถ้าชอบสไตล์หนักแน่น ร้องไห้ ขยี้คนดู หนังไปไม่ถึงจุดนั้นถ้าเปรียบหนังเรื่องนี้เป็นกาแฟ ก็เหมือน ลาเต้อาร์ทลายสวยฟองนมเนียนหอมกรุ่น แต่รสกาแฟจืดไปหน่อย จิบไปก็เจอผงกาแฟที่ทำหกไว้ในแก้ว ทำให้ขมเป็นระยะๆ กินไปขมไปจืดไป ไม่ค่อยลื่นคอ
ดูหนัง วัฒนธรรมการดื่มกาแฟในบ้านเราช่วง3-4ปีมานี้ถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนค่อยๆซึมเข้าไปในวิถีชีวิต โดยเฉพาะในหมู่คนทำงาน ที่ดูเหมือนว่าการดื่มกาแฟนอกจากจะเป็นการเสพติดรสชาติของมันแล้ว ยังเป็นการเข้าสังคม และกลายเป็นแฟชั่นเล็กๆมนุษย์เงินเดือนหลายคนความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ซึ่งร้านที่ได้รับความนิยมในการออกจากงานประจำมาก่อร่างสร้างตัวคือ ร้านกาแฟ ที่ผ่านมาก็มีทั้งคนที่ขายดีบ้าง ขายไม่ดีบ้าง เจ๊งบ้าง แต่ ร้านกาแฟ ก็ยังเป็นความฝันของใครหลายคนโดยที่ไม่สนต่อคำค่อนแคะที่ว่า ทุกวันนี้บางจังหวัดมีร้านกาแฟมากกว่าเซเว่นซะอีก หรือ หกล้มหัวทิ้มไปทางไหนก็เจอร้านกาแฟ
Coffee please แก้วนี้หัวใจสั่น เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจ เรื่องย่อคือ หนุ่ม (อ๋อม อรรคพันธ์) ผู้ชายมาดกวนที่มีความฝันจะเป็น บาริสต้าเพิ่งกลับจากต่างประเทศก็ต้องเดินทางไปพบพี่ชายที่เชียงรายร่วมกับ เจน (เจนนี่ กรรณิการ์) สถาปนิกสาวกลัวเครื่องบิน ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองในการทำงาน
ขณะที่ โต (ปิ๊ป รวิชญ์) พี่ชายของหนุ่ม ชายที่ฝันจะสร้างอะไรขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่กลับตกงานนานกว่า1ปี เดินทางมาที่ไร่กาแฟซึ่ง พ่อ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์ )ของเขามอบให้ลูกชายทั้งสอง กับ เฟย์ (จั้กจั่น อคัมย์สิริ) แฟนสาวของหนุ่มที่เบื่องานออฟฟิศและมีความฝันอยากทำไร่กาแฟ โต ทะเลาะกับ หนุ่ม ตั้งแต่เขาไม่ยอมสานต่อกิจการร้านกาแฟที่ระยอง โดยออกจากบ้านไปหางานทำในเมืองใหม่

การกลับมาพบหน้ากันอีกครั้งไม่ได้ช่วยอะไร โต ไม่ได้ติดต่อพ่อเลยนับจากออกจากบ้าน หนุ่ม ท้าให้โตขายไร่ แต่ เฟย์ ขอร้องให้ โต ร่วมมือกันทำไร่กาแฟต่อเขาทั้งสองลองสร้างไร่ Green Bean ขึ้นจนประสบความสำเร็จจากความช่วยเหลือของชาวบ้าน ขณะที่ โต ซึ่งแอบชอบ เจน ที่รับงานออกแบบให้ Green Bean จึงหาเรื่องมาเชียงรายบ่อยๆ จนเขาเริ่มเข้าใจพี่ชายมากขึ้น
หนังมีมุมให้จับมาเล่นเยอะ ทว่าบทของ Coffee please กลับราบเรียบเป็นเส้นตรงทำให้เนื้อเรื่องน่าเบื่อ ทุกอย่างมันดูง่ายและลงตัวไปหมดจนดูไม่จริง ขาดอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เราเห็นใจหรือเอาใจช่วยตัวละคร
รีวิวหนัง ผู้กำกับอย่าง เจนไวยย์ ทองดีนอก กับประกาศิต ภัทรธีรานนท์ ยังเป็นมือใหม่ ควรจะมุ่งไปที่ธีมหลักที่ต้องการสื่อว่าจะเป็นหนังที่เน้น ดราม่า รักโรแมนติก หรือ ตลก กันแน่ เพราะการพยายามผสมทุกอย่างมารวมกันก็คล้ายกับกาแฟรสแปร่ง ซึ่งกาแฟที่ดี หากไม่หวาน ก็ควรจะขมไปเลย
แต่ในเมื่อออกมาไม่สุดสักทางมันเลยทำให้อารมณ์คนดูค้าง ปัญหาความขัดแย้งของคนสองรุ่นน่าจะเป็นส่วนที่นำเสนอได้ดีที่สุดของหนัง เกรียงไกร อุณหะนันทน์ ทำได้ดี
ในบทพ่อที่คาดหวังในตัวลูกชาย เข้าขากับ ปิ๊ป รวิชญ์ ลูกชายคนโตที่ต่อต้านพ่อได้อย่างดี ขณะที่ อ๋อม อรรคพันธ์ เว็บดูหนังฟรี ก็ทำได้ไม่เลวในบทน้องชายคนเล็กอารมณ์ร้อน ดราม่าครอบครัวนี้ดูดีกว่า ความรักของพระนางสองคู่ในเรื่อง
โดยเฉพาะคู่ โต กับ เฟย์ ที่ถูกชูเป็นแกนหลักของเรื่องแต่เคมีของทั้งคู่ไม่เข้ากันทำให้คนดูไม่สามารถอินกับความรักฉาบฉวยครั้งนี้ได้ แม้บทจะจงใจให้ เจนนี่ กรรณิการ์ ที่แสดงเป็น เฟย์ เป็นสาวลูกครึ่งพูดไม่ชัดเหมือนตัวจริง ก้ไม่ช่วยให้การแสดงของเธอดูดีขึ้น
ประเด็นการทำตามความฝันที่ถูกนำเสนอผ่านการแข่งขันประกวดกาแฟในช่วงท้ายที่ก็ออกมาแบบเดาเนื้อหาได้ง่ายๆ ไม่มีความประทับใจเท่าไหร่ ส่วนที่ดูดีรองจากความขัดแย้งในครอบครัวคือ นักแสดงตลกในเรื่องที่ช่วยสร้างสีสันปลุกคนดูไม่ให้หลับทั้ง แอนนา ชวนชื่น และ กล้วยเชิญยิ้ม สมทบด้วย สมเล็ก ศักดิกุล กับ ค่อม ชวนชื่น แม้สองคนหลังนี่เป็นตัวละครที่ออกจะไม่สมจริงไปบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแลกมากับเสียงหัวเราะผู้ชม
อีกสองคนที่อยากพูดถึงคือ มอร์ วสุพล ในบทเพื่อนพระเอก คาแร็กเตอร์ของเขาเด่นชัด การแต่งตัว กับ พฤติกรรม แปลกๆของเขาในเรื่องขโมยซีนและเรียกเสียงฮาได้หลายช็อต น่าเสียดายที่บทน้อยไปหน่อย ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะถูกนำมาจับคู่กับ จอย ชลธิชา น่าจะได้เห็นคู่รักตัวรองที่สร้างรอยยิ้มได้ไม่น้อยทีเดียว
โดยรวม Coffee please เป็นหนังที่ภาพสวย โปรดักชั่นดี แคสนักแสดงใช้ได้ทีเดียว ขาดก็แต่ว่าบทซึ่งถูกปรุงแต่งและยัดใส่อะไรมามากเกินไปหน่อย แทนที่จะพอดี กาแฟจึงดูล้นแก้วใบเล็กๆออกมาจนเลอะเทอะ รวมถึงรสชาติก็ไม่กลมกล่อมเอาเสียเลย แถมยังดื่มแล้วชวนง่วงอีกต่างหาก