รีวิวหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้”
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างไรที่หนังอย่าง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้จะกวาดเงินจากการเปิดตัวหนังวันแรกไปทั้งสิ้น 29.17 ล้านบาทและรวมกับรายรับวันที่ 2 เป็น 46.54 ล้านบาท (ข้อมูลจาก Facebook GTH) รีวิวหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้” บ่งบอกให้เห็นถึงการทำการตลาดของค่ายหนังที่ผ่านการวางแผนมาอย่างดี และเมื่อจะ “เข้าถึง” ใจของผู้ชมที่รู้ว่ากลุ่มคนที่พร้อมจะมาจ่ายเงินเพื่อชมหนังนั้น “ชอบ” อะไร และอยากจะดูอะไรให้หนังเรื่องนี้
ผู้กำกับของเรื่องอย่างเมษ ธราธร ผู้สามารถกำกับภาพยนตร์เรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ ให้โกยเงินไปกว่าร้อยล้านบาทนั้น เรียกได้ว่าสร้างความสำเร็จ อย่างล้นหลามให้กับสตูดิโอ GTH ซึ่งจะว่าไปแล้วผลงานเรื่องแรกของเขาเรียกได้ว่าตลกโปกฮา (แต่หนังก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ของเรื่องการเหยียดในเชิงชนชั้น จนสัมผัสได้ว่าสิ่งที่ผู้คนนั่งขำอย่างเป็นวรรคเป็นเวรนั้น เป็นผลผลิตมาจากความรู้สึกต่อกลุ่มคน “ชายขอบ” ในประเภทต่างๆนั่นเอง)
อย่างไรก็ตามพล็อตครั้งใหม่ใน ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ คือการหยิบเรื่องความบกพร่องทางการสื่อสารระหว่างภาษาเอามาเป็นข้อแม้ในการเชื่อมความสัมพันธ์รัก ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นของเธอตัดสินใจทิ้ง ดูหนังออนไลน์ “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนหนุ่มคนไทยไปอเมริกา

แต่ด้วยความที่ยิมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก เธอจึงอัดวีดิโอบอกเลิกใส่ธัมป์ไดรว์พร้อมขอร้องให้เพลงช่วยไปเปิดแปลให้ยิมฟัง เมื่อยิมรู้ว่าถูกบอกเลิกก็โมโหมาก จึงตัดสินใจไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับเพลง(แกมขู่บังคับ) โดยหวังจะตามไปง้อแฟนที่อเมริกา
ในขณะเดียวกัน เพลงก็ไปตกหลุมรักกับ คุณพฤกษ์(ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) ลูกศิษย์ คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ หนุ่มหล่อ ชาติตระกูลดี ผู้ซึ่งเป็นดั่งชายในฝันของผู้หญิงทุกคน จนในที่สุดทั้งสองก็ตกลงเป็นแฟนกัน ทว่าระหว่างที่การเรียนการสอนของเพลงและยิมค่อยๆ ผ่านไปในแต่ละวัน ทั้งคู่ซึ่งเคยดูเหมือนเกลียดกันในตอนแรก กลับเริ่มผูกพันและเริ่มมีใจให้กันทีละน้อยโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันจะรู้ตัว
โทนหนังจะแบ่งออกได้เป็นสองพาร์ทอย่างชัดเจน เมื่อช่วงแรกของหนังจะมาในแนวทางตลกโปกฮา ดูหนัง (เกือบจะเป็นสามช่า ตึ่งโป๊ะ เลยก็ว่าได้) เมื่อมันมักจะโจมตีคนดูด้วยพฤติกรรมพิเรนทร์ๆและไร้สติของตัวละคร พร้อมกับดนตรีประกอบที่โครมครามไม่แพ้หนังสยองขวัญที่ตัวละครจะต้องกรี๊ดแหกปากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจะพบว่ามุกโปกฮาไม่น้อยในเรื่องเต็มไปด้วยการวนเวียนกับ ของเสียในร่างกาย, สัตว์อันไม่พึงประสงค์ ลามเลยไปถึงมุกตลกเจ็บตัวแบบห่ามๆ หรือจำกัดความได้ว่ามันเป็น Dirty Joke หรือมุกตลกสกปรกนั่นเอง
สิ่งที่ยังคงมองข้ามไปเลยไม่ได้ก็คือการเอาเรื่อง “การเหยียด” ในทิศทางต่างๆก็ยังเอามาถูกยั่วล้อเพื่อทำให้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อหน่ายของผู้คนตลกขบขำไปได้อีกไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิงญี่ปุ่น = ภาพตัวแทนของดาราหนัง AV, ชนชั้นแรงงาน = ขาดความรู้ในเรื่องภาษาอังกฤษระดับที่ไม่สามารถท่อง A-Z ได้ มีพฤติกรรมแว๊น ทำตัวค่อนข้างไร้มารยาท , ชนชั้นคุณหญิงคุณนาย = ผมตีโป่งใส่ชุดผ้าไทย แก่โบราณ หรือแม้กระทั่งชายในฝันของผู้หญิง = คุณชายรูปงาม รวยหล่อ มีเงิน
อย่างไรก็ตามหนังก็ยังหยิบเรื่องชายในฝันเอามาทวิสต์บิดเอาเสียใหม่ ที่ว่าพล็อตซินเดอเรล่าพบเจ้าชายนั้น บางทีผู้หญิงคนหนึ่งอาจจะแค่ต้องการคนซ่อมรองเท้าดีๆ ให้เธอก็พอ และยิ่งประจวบเหมาะไปอีกว่าคนซ่อมรองเท้าพังๆ ก็คือยิมนั่นเอง และเราต้องบอกอีกเหมือนกันว่าโมเมนต์ในช่วงครึ่งหลังของหนังที่เมื่อไอซ์-ซันนี่เข้าคู่กันในช่วงดราม่า รีวิวหนังไทย เคมีของทั้งสองคนลงตัวและรุนแรงมากจริงๆ ในการแสดงผ่านแววตาท่าทาง
แม้จะไม่ได้เป็นหนังที่ถูกจริตคนทั้งหมด แต่ GTH ก็ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดีว่าบางครั้ง คนเมืองก็ต้องการหลบหลีกความจริงเข้าไปฝันกลางวันสัก 2 ชั่วโมง เพราะความเป็นจริงนั้นน่าเบื่อหน่ายและเต็มไปด้วยความผิดหวังนั่นเอง
ในวันหยุดที่เป็นวันพุธอย่างนี้ อาจจะดูเป็นเรื่องดีก็ได้ที่มีหนังใหม่รอบสื่อให้ดู ไม่ต้องรีบต้องร้อนตะเกียกตะกายไปดู แต่ที่ไหนได้ กลับพบตัวเองติดแหง็กอยู่บนถนนท่ามกลางจราจรที่ติดขัด เหมือนตัวเองคิดผิดที่เลือกเดินทางในแบบนี้ แม้ว่าสุดท้ายจะมาถึงโรงหนังทันเวลา และได้พบกับหนังเรื่องใหม่จากค่ายหนัง GTH หนังคอมิดี้ที่ผสมเอาความโรแมนติกพ่วงเอาสิ่งที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของค่ายๆ นี้เสมอมาอยู่ในนี้ด้วย

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
หนังเรื่องนี้มีทั้ง ไอซ์ ประกบ ซันนี่ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” จากผู้กำกับจากหนัง “ATM เออรัก..เออเร่อ” ที่กลับมาพร้อมกับนางเอกคนเดิม แต่เรื่องราวเปลี่ยนไป จากเรื่องเพี้ยนๆ ฮาๆ กลายเป็นเรื่องที่รับกับการเข้ามาของ AEC
เรื่องราวของวิศวกรช่างซ่อมบำรุงอย่าง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ที่กำลังถูกแฟนสาวชาวญี่ปุ่นอย่าง “คายะ” (โซระ อาโออิ) ขอบอกเลิกและบอกลาไปอยู่อเมริกาด้วยเหตุผลที่พวกเขาคุยกันไม่รู้เรื่อง และเพราะเขาไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงเลือกที่จะเรียนรู้ภาษาเพื่อสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านไปทำงานที่เดียวกับเธอให้ได้ และนั่นทำให้เขาเลือกมาเรียนกับ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ซึ่งดันเป็นติวเตอร์คนเดียวกันที่สอนภาษาอังกฤษให้กับคายะอีก ทำให้เพลงต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก
แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เมื่อเพลงเองก็รู้สึกดีอยู่กับศิษย์หนุ่มหล่อรวยที่ดูจะเก่งภาษาซะจนไม่รู้มาเรียนทำไม ดูหนังออนไลน์ 4k อย่าง “คุณพฤกษ์” (ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) เรื่องชุลมุนวุ่นรักเกิดขึ้น ก็เมื่อความรักของเธอกับศิษย์หล่อรวยกำลังถูกป่วนจากศิษย์ผู้หยาบคายที่พูดอังกฤษไม่ได้เอาเสียเลยน่ะสิ
สิ่งที่คิดหลังดูหนังเรื่องนี้จบก็คือ จากที่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีแต่ฉากตลก ขำ ฮากลิ้ง กลับกลายเป็นว่าหนังมีมากกว่านั้น มันคือหนังที่รวมทั้ง Comedy และ Romance เข้าด้วยกัน ครึ่งแรกเราอาจจะชวนหัวไปกับมุกโน่นนี่นั่นที่บ้างก็ทำได้อยู่หมัด แม้บ้างก็ฟังแล้วฝืดๆ บ้างก็ดูน่าเกลียดเกินก็มี แต่กับครึ่งหลัง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ทิ้งเทไปที่แง่มุมความรักมากขึ้นและก็ทำได้ค่อนข้างดี เมื่อหยิบจับเอาภาษาอังกฤษ(ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหากับมัน)มาเป็นแกนในการสร้างพล็อตและใช้ได้อย่างลงตัว
ถ้าจะพูดนักแสดงเป็นคนๆ ไป อาโออิในเรื่องนี้ไม่ได้รับบทบาทแค่เป็นสาวสวยญี่ปุ่นหุ่นดีที่มารักกับพระเอก แต่กลับได้บทบาทที่มีสำคัญต่อการกระทำของพระเอก เธอมีบทพูดมากขึ้น แม้สำเนียงอังกฤษของเธอจะฟังยากอยู่สักหน่อย โจ๊ก โซคูล และตุ๊ยตุ่ย คือส่วนผสมที่สร้างความฮาให้กับหนัง อาจจะยังดูไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าฮาตุ๊ยตุ่ยมาก อีกคนที่ฮาได้อย่างเซอร์ไพรส์ก็คือ ตู่ ภพธร บทหนุ่มหล่อรวยดูจะไปกันได้กับภาพลักษณ์ของเขา แถมยังได้บทพูดที่คมคายพอๆ กันกับไอซ์ ที่นอกจากจะสวยแล้ว ยังแสดงบทตลกได้ดีเช่นเคย ส่วนซันนี่ คงไม่ต้องสงสัยในความเป็นตลกหน้าตายของเขามากนัก เพราะเขาก็ทำมันได้มาตลอดอยู่แล้ว
รีวิวหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้”
แต่บางมุกในหนังเรื่องนี้ยังดูจะเซอร์ไพรส์เมื่อเขากล้าจะเอามาเล่น

ซึ่งก็แน่นอนว่า คงไม่ใช่ทุกมุกที่ผมจะชื่นชอบ แต่เมื่อดูโดยรวมของหนังแล้วพาร์ทโรแมนติกของหนังทำได้น่าประทับใจมาก จากที่จะมานั่งขำ กลับกลายว่าต้องมานั่งน้ำตาไหลในหนังตลก ดูๆ ไปก็ให้รู้สึกว่า คุณครูเพลงนี่จะแต่งตัวสวยเซ็กซี่ไปไหน แต่ครูก็น่ารักมากจนบางครั้งก็หลุดโฟกัสจากเรื่องไปเลย หนังมีกำแพงอยู่หน่อยๆ เรื่องภาษาและการอ่านซับไตเติล แต่นั่นกลับเป็นส่วนหลักๆ เลยที่ให้มันกลายเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
บทหนังร้อยเรียงไว้อย่างดี หยิบจับเอามาใช้ได้เหมาะเจาะ ทำให้ฉากโรแมนติกช่างแสนพีค ขณะมุกเลี่ยนๆ ก็ถูกวางเอาไว้อย่างถูกที่ การ tie-in สินค้าในหนังทำได้ค่อนข้างแนบเนียนไม่ดูโดด แถมยังสอนคนดูให้รู้จักภาษาอังกฤษอีกต่างหาก ไม่พอ ยังมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเป็น Easter Egg ให้แฟนตัวยงของค่ายนี้ได้ยิ้มย่องเมื่อยามได้เห็น ดูเหมือนว่า…หนัง GTH เริ่มจะกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้งแล้วนะ
ความสำเร็จราคา150กว่าล้านจาก ‘ATM เออรัก..เออเร่อ’ ที่ถึงแม้จะสมราคาตลกสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับตัวเนื้อหนังนั้นถูกสับเละสำหรับนักวิจารณ์เสียส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่ายระหว่างคนดูที่หัวเราะร่าสมราคาน้ำตาเล็ดขณะที่อีกฝั่งน้ำตาร่วง ก็ทำให้เราต้องเกาะขอบบ็อกออฟฟิศเฝ้าติดตามลุ้นว่ามาในคราวนี้ค่ายหนังอารมณ์ดี(บางทีก็อารมณ์ดีเกินไป)GTH จะพาหนังตลกเถิดเทิงย่อยง่ายแนวนี้ไปได้ไกลสักแค่ไหนในแง่รายได้ ซึ่งอีกทางหนึ่งมันก็เป็นตัวบ่งบอกถึงรสนิยมและความต้องการของตลาดที่จะชี้นำแนวทางหนังในปีต่อๆ ไปได้ว่าจะมีทิศทางเอาใจตลาดในทางไหน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนัง GTH เป็นเหมือนป้ายบอกทางหนังสตูดิโออื่นๆ ไปจนถึงหนังจากค่ายเล็กค่ายน้อยที่หวังทำหนังเพื่อหอบกำไรค่าตั๋วกลับบ้าน แต่ที่แอบอยากรู้ไปมากกว่านั้นคือตัวหนังที่จะมีแต่น้ำเอื่อยๆ ปนกากตลกหรือมีเนื้อมีหนังมากกว่ากัน
จากระดับที่ไม่ได้คาดหวังว่างานนี้ผู้กำกับ เมษ ธราธร จะดีดฐานะหนังตัวเองจากหนังตลกที่มีดีแค่ความตลกเพื่อความฮาสำหรับสยามประเทศมาเป็นหนังตลกที่มีคุณภาพได้ คุณภาพในที่นี้หมายถึงด้านความเป็นภาพยนตร์ที่มีแก่นสารสาระและความงามด้วยภาพยนตร์มากกว่าหนังรวมมุกตลกยัดเยียด แต่ไม่ได้แปลว่าหนังรวมมุกตลกจำพวกนี้เราจะไม่มีทางชอบ ส่วนตัวก็หวังเพียงแค่ให้หนังมันดูสนุกก็มากเพียงพอแล้วแต่ความสนุก
มันก็ต้องมีแง่งามที่เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์หรือประเด็นที่อยากจะสื่อสาร ไม่ใช่ทัศนะคติที่ผิวเผินเปลี่ยนแปลงตัวละครจากหน้ามือเป็นหลังตีนได้ง่ายๆ แต่หลังจากดูจบกลับเป็นที่น่าพอใจในระดับที่ทำให้เราชอบได้ ชอบในความบันเทิงที่มีเนื้อมีนวลมากขึ้นจากเรื่องก่อนหน้า และอย่างน้อยก็กลายเป็นหนังอันดับต้นๆ ของหนังตลกไทยในปีนี้ที่รวมๆ แล้วหาแก่นสารความแปลกใหม่ความดีงามได้เพียงน้อยนิด สำหรับเราแล้ว ‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’
เป็นหนึ่งในความดีงามเพียงน้อยนิดนั้นที่เดินต่อท้าย ‘ผู้บ่าวไทบ้านอีสานอินดี้’ ตามมาไกลๆ ในแง่ของเนื้อหนังมังสา ดูหนัง 4k แต่เรื่องรายได้นี่กษัตริย์ชาติไทยอย่างพระนเรศวรก็ได้แต่ทอดพระเนตรปริบๆ ยืนมองติวเตอร์เพลง(ไอซ์-ปรีชญา)กับเฮียยิม(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) วิ่งถือธงชัยนำลิ่วซิ่วตำแหน่งแม่ทัพบ็อกออฟฟิศไปนอนกอด…
ถึงจะยังจัดว่ามันเป็นหนังตลกที่สร้างทุกอย่างมาเพื่อขยี้มุกตลกจนตัวละครขาดความเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาแทบทุกฉากทุกตอน มีตัวละครมนุษย์ที่คลิเช่ยิ่งกว่าถูก stereotype เสียอีก ตัวละครทุกตัวมันถูกบังคับกะเกณฑ์ให้ทำในสิ่งที่ต่ำกว่าเกณฑ์เส้นหยักในสมองที่ดูเหมือนว่าถูกวางโปรแกรมมาให้สมองซีกใดซีกหนึ่งกุดกลวงจนกลายเป็นเหตุเป็นผลที่ทำให้แสดงพฤติกรรมพิกลจิริตออกมาเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่ขาดสาย และในหลายๆ
ฉากที่คิดมาเพื่อรองรับมุกพิเรนทร์สกปรก(ไม่ได้ด่านะ)ที่เห็นได้ชัดเลยคือ มุกบี้จิ้งจกด้วยตูด ที่ส่วนตัวแล้วมันก็ไม่ได้มีฟังก์ชั่นอื่นเชื่อมโยงกับการเดินไปข้างหน้าของเรื่องราวเป็นมุกอี๋ที่เป็นส่วนมาเติมจุดพร่องของความตลกที่มันไม่ไหลลื่นลงตัว แถมรีแอคชั่นยังเกินมนุษย์มนา แต่มันก็ทำให้มันตลกได้ แต่มันก็ยังมีมุกที่น่าจะมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ อย่างมุก วี้ดบึ้มเสียบตูด ที่เป็นมุกตลกที่เลวร้ายและฝืดเฝือที่สุดในเรื่อง
ความขัดแย้งหลักๆในฉากนี้คือตัวละครทั้งหญิงชายทุกคนยอมเล่นเกมนี้ง่ายๆ โดยเฉพาะนางเอกที่รู้สึกขัดกับ น่าคิดที่มุกอย่างกับหนังตลกคาเฟ่ที่คนดูมักเมินหน้าหนีหรือบางอันก็เลวทรามอย่างกับเฟ็ดเฟ่แต่คนดูกลับพร้อมใจกันหัวเราะร่าน้ำตาเล็ดกันทั้งโรงหนัง ซึ่งแน่ใจว่าสิ่งหนึ่งที่มีส่วนทำให้คนไว้ใจที่จะหัวเราะโดยไม่เสียลุคเสียฟอร์มคือแบรนด์หนัง GTH
แต่นั่นไม่ใช่จุดที่อยากจะท้วงติงอะไรเมื่อคนทำตั้งใจทำมาเพื่อให้มันตลกอย่างจงใจเป็นที่สุดซึ่งก็แล้วแต่รสนิยมของคนดูแล้วล่ะว่าจะถูกจริตหรือสุดขีดขั้นเพดานของการรับได้ขนาดไหน สำหรับเราแล้วเราชอบและบันเทิงกับเนื้อหาสาระพอประมาณ
ถึงสุดท้ายมันก็ยังเป็นหนังรอมคอมที่แฟนตาซีจ๋ามากๆ แต่มันยังมีสิ่งทดแทนกันได้บ้างในส่วนของหนังโรแมนติกกับ บทที่มีความสอดรับเป็นเหตุเป็นผลความโรแมนติกแฟนตาซีด้วยการเทียบเคียงเทพนิยายอย่าง ซินเดอเรลล่า ทำให้หนังมีความน่าสนใจมากขึ้นถึงแม้จะยังไม่ได้สร้างมิติมากมายให้กับแก่นของเรื่องราวและก็ใช่ว่าจะแปลกใหม่โดยเฉพาะหนังรักโรแมนติก แต่มันก็สร้างบรรยากาศและสอดรับกับพล็อตหลักที่เป็นเรื่องรางของติวเตอร์สาวฟุ้งฝันกับช่างฟิตโรงงานมาดถ่อยที่พร้อมจะจริงจังทำดีกับผู้หญิงสักคนได้ลงล็อกเป็นอย่างดีเป็นน้ำเป็นเนื้อเดียวกัน
จริงๆ แล้วถึงจะมองแบบผิวเผินก็เห็นอยู่ว่าทุกสิ่งอย่างผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี อย่างเช่นมุกเรียนภาษาอังกฤษด้วยการจำลองเหตุการบนเครื่องบินในฉากเปิดเรื่องที่มีชั้นเชิงในการเล่าเพื่อดึงความสนใจของคนดูได้ดีมากความทำให้ผู้ชมที่ยังตั้งตัวไม่ติดถูกดูดเข้าไปในหนังและพร้อมที่จะติดตามตัวละครได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้มันจะไม่ได้เนี้ยบนิ้งแต่ก็เข้าท่าเข้าทางและเป็นหนึ่งในมุกไม่กี่มุกที่มีราคาในความคิดสร้างสรรค์ในหนังเรื่องนี้
แต่มุกอื่นๆ ก็ยังเล่นล้อเลียนเย้ยหยันรสนิยมคนไทยผ่านการ Stereotype ทั้งตัวละครและมุกตลกซึ่งนอกจากมุมที่ทำให้หนังด้อยราคาลงแล้ว อีกมุมหนึ่งมันกลับทำหน้าที่เป็นสื่อตรงแทนคนไทย ถึงมุกบางอย่างมันจะเข้าข่ายความรู้สึกเหยียดกลุ่มคนเหยียดอาชีพหรือเหยียดเพศแต่พอดูๆ ไปแล้วสิ่งเหล่านี้มันก็ถูกเล่นล้อในชีวิตประจำวันของคนเราแทบเป็นปกติ อย่างเช่น มุกภาษาอังกฤษกับสเกลการเรียนรู้ของพระเอกที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน รักฝันหวานในอุดมคติ แบรนด์เนม เพลงเพื่อชีวิต พอร์นสตาร์ มุกอกหักแบบเกาหลี มุกตลกสัปดน ฯลฯ ที่เข้าถึงรสนิยมเมนสตรีมของคนไทยอย่างดีซึ่งสิ่งใกล้ตัวพวกนี้ใช้เรียกร้องความสนใจได้อย่างฉลาดเฉลียว จนไม่แปลกใจในแง่ของรายได้ เป็นหนังบันเทิงที่หน้าหนังขายตลกเป็นจำอวดบังหน้า แต่ส่วนที่ทำให้มันครองใจคนดูอย่างเราได้คือความโรแมนติกที่ทำให้เราน้ำตารื้น