รีวิวหนัง ห้องหุ่น

เตรียมกลับมาให้คนดูได้เกิดความหลอนกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี สำหรับบทประพันธ์เรื่องดัง ห้องหุ่น ที่เขียนขึ้นมาจากปลายปากกาของ ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก เพราะ บริษัท รีวิวหนัง ห้องหุ่น กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส จำกัด ได้นำเอาบทประพันธ์เรื่องนี้มาปัดฝุ่นใหม่ แล้วนำมาเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์

 โดยฝีมือกำกับของ กัลป์ กัลย์จาฤก ทายาทรุ่นหลานของค่ายกันตนานั่นเอง ถึงแม้บทประพันธ์เรื่องนี้ ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 3 ครั้งแล้วก็ตาม (พ.ศ.2519, 2532 และ 2546) แต่ทุกครั้งก็จะประสบผลสำเร็จ เป็นที่กล่าวขวัญจากคนดูมากมาย ด้วยความน่าสะพรึงกลัวของหุ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะ หุ่นท่านเจ้าคุณ ที่หลายคนยังคงจำภาพได้ไม่ลืมเลือน และยังคงอยู่ในใจของผู้ชมตลอดมา
ดูหนังออนไลน์ 4k สำหรับ ห้องหุ่น ในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ จะมีความแตกต่างจากละครโทรทัศน์ออกไป เพราะจะเป็นภาคต่อของตัวละครในรุ่นหลาน ที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ยังมีความเกี่ยวพันไปถึงรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และรุ่นบรรพบุรุษ นอกจากความน่ากลัวที่ยังมีเหมือนเดิมแล้ว ยังมีความลึกลับ และความตายที่เป็นปริศนา ให้ผู้ชมต้องติดตามค้นหาไปด้วยว่า เป็นเพราะเหตุใด
รีวิวหนัง ห้องหุ่น
          ห้องหุ่น เวอร์ชั่นภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของ นพ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ผู้สูญเสียน้องสาว ภายหลังที่หุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของเธอปั้นเสร็จ หลังจากนั้นเขาได้พบเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าหุ่นขี้ผึ้งเป็น สาเหตุของการตายของคนหลาย ๆ คนเช่นกัน การสืบค้นข้อมูลทำให้เขาได้พบ
พลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) ที่เพิ่งสูญเสียพ่อของเธอไป เมื่อหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนพ่อของเธอปั้นเสร็จ ตอนแรกเธอไม่เชื่อเรื่องการตายปริศนาจากหุ่นขี้ผึ้ง แต่หลังจากที่เธอได้รับรูปปั้นพ่อของเธอถูกส่งมาที่บ้าน เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างได้เกิดขึ้นกับเธอ ต่อมาทั้งสองคนมาพบกันอีกครั้งหนึ่งที่บ้านช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้ง จนในที่สุดทั้งสองคนได้พบคำตอบของทุกอย่างจากบ้านหลังนี้
.
“ห้องหุ่น” เวอร์ชั่นภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของ นพ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ผู้สูญเสียน้องสาว ภายหลังที่หุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของเธอปั้นเสร็จ หลังจากนั้นเขาได้พบเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าหุ่นขี้ผึ้งเป็นสาเหตุของการตายของคนหลายๆคนเช่นกัน การสืบค้นข้อมูลทำให้เขาได้พบ พลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล)
 ที่เพิ่งสูญเสียพ่อของเธอไป เมื่อหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนพ่อของเธอปั้นเสร็จ ตอนแรกเธอไม่เชื่อเรื่องการตายปริศนาจากหุ่นขี้ผึ้ง แต่หลังจากที่เธอได้รับรูปปั้นพ่อของเธอถูกส่งมาที่บ้าน เหตุการณ์หลายๆอย่างได้เกิดขึ้นกับเธอ ต่อมาทั้งสองคนมาพบกันอีกครั้งหนึ่งที่บ้านช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้ง จนในที่สุดทั้งสองคนได้พบคำตอบของทุกอย่างจากบ้านหลังนี้ (Cr. Nangdee.com)
ผลงานการกำกับของ “กัลป์ กัลย์จาฤก” ที่บทประพันธ์เรื่องนี้ ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ จะมีความแตกต่างจากละครโทรทัศน์ออกไป เพราะจะเป็นภาคต่อของตัวละครในรุ่นหลาน ที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ยังมีความเกี่ยวพันไปถึงรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และรุ่นบรรพบุรุษ ส่วนตัวแล้วชอบองค์ประกอบในเรื่องครับ ที่เห็นโดดเด่นเลยคืองานภาพที่อาร์ทมากๆ องค์ประกอบของสีและแสง รวมไปถึง CG
รีวิวหนัง ห้องหุ่น
 ค่อนข้างปราณีตและแปลกใหม่พอสมควรสำหรับหนังบ้านเรา การแสดงของอนันดาและนักแสดงคนอื่นๆค่อนข้างเข้ากับบทที่ได้รับ ดูหม่นๆและน่าค้นหา ฉากระทึกขวัญภายในเรื่องมีน้อยแต่ก็ทำได้น่าสนใจพอสมควร น่าเสียดายที่บทหนังภายในเรื่องดูเบาและการเดินเรื่องค่อนข้างเอื่อยมาก หลายๆฉากภายในเรื่องมีนัยยะแฝงอยู่ด้วย ซึ่งอาจยากต่อการเข้าใจของคนดู การเดินเรื่องจะเน้นหนักไปที่การปูพื้นตัวละครในช่วงต้นเรื่องและการสืบหาเรื่องราวของตัวละคร ก่อนจะเปิดเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดและเฉลยแบบหักมุมในตอนท้ายเรื่อง
โดยรวมแล้วหนังค่อนข้างเหมาะกับผู้ชมที่ชื่นชอบความงามของภาพและรูปแบบการนำเสนอ โดยโทนหนังจะเน้นไปทางความอาร์ตมากกว่าความสยองขวัญ แต่ก็ไม่เข้าเกณฑ์หนังอินดี้ที่ซับซ้อนหรืออินดี้จริงๆจนผู้ชมงงเป็นไก่ตาแตก องค์ประกอบทั้งหมดภายในเรื่องหากได้บทหนังที่หนักแน่นกว่านี้เข้ามาเสริม มั่นใจว่าคุณภาพหนังไทยโดยเฉพาะเรื่องนี้สู้หนังฮอลลีวูดได้สบายครับ ดูหนัง 4k
ถ้าจะต้องให้สารภาพกันตามตรงแล้ว ตอนแรกตัวผมเองค่อนข้างมองว่า “ห้องหุ่น” จะต้องออกมาเป็นหนัง “ผีโผล่ โครมครามและเล่าเรื่องได้พังพินาศ” เพราะหลังจากที่ตัวเองรับรู้และเข้าใจทุกอย่างจากการประชาสัมพันธ์ผ่านเรื่องย่อและตัวอย่างภาพยนตร์ รวมไปถึงการถ่ายภาพหวิวของสองนักแสดงนำอย่างอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮมและรัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล กระบวนการที่หนังพยายามสื่อสารกับผู้ชมนั้นจึงดู “สะเปะสะปะ” ตั้งแต่แรกจนทำให้ตัวผมเองไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วหนังเรื่องนี้พยายามจะบอกอะไรกับเรากันแน่
แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองคิดผิดเอามากๆ เมื่อหนังเผยฉากแรกของเรื่องด้วยการเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครโค้ชประภพซึ่งเขากับลูกที่กำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างและพ่อตัวเองต้องจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ งานภาพในฉากเปิดเรื่องก็ทำให้เราต้องทึ่งไปกับการจัดแสง จัดไฟและใช้ภาพช่วยให้ผู้ชมเข้าใจ “รายละเอียดยิบย่อย” ที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้กลายเป็น Key Massage เพื่อ
เรื่องราวพอสังเขปของ “ห้องหุ่น” เวอร์ชั่นการตีความใหม่ของผู้กำกับรุ่นหลานบริษัทกันตนาอย่าง
ดูหนังออนไลน์ “กัลป์ กัลย์จาฤก” นั้นบอกเล่าถึงตัวละครรุ่นลูกรุ่นหลานของเดช สัตยาภา เมื่อนพ (อนันดา เอวเวอริ่งแฮม) ได้สูญเสียน้องสาวตัวเองไปหลังจากที่เธอได้ปั้นหุ่นขี้ผึ้งเสร็จ จนเขาเริ่มพบว่าการปั้นหุ่นก่อนที่ใครคนนั้นจะตายจะทำให้ตัวเองมีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร
 เมื่อยิ่งสาวให้ลึกถึงแก่นเพียงใดเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนกระทั่งนพได้พบกับพลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) หญิงสาวที่เพิ่งจะสูญเสียพ่อตัวเองไปหลังจากที่เขาไปปั้นหุ่นมาเช่นกัน เธอไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับจนกระทั่งตัวเองพบว่าหุ่นของพ่อเธอถูกส่งมาที่บ้าน และแล้วพวกเขาก็ได้เดินทางค้นหาความจริงด้วยการเดินทางไปยังบ้านของเดช สัตยาภา ชายผู้เป็นตำนานในการปั้นหุ่นขี้ผึ้งเพื่อค้นหาความจริง

รีวิวหนัง ห้องหุ่น

กระบวนการตัดต่อเล่าเรื่องของหนังอาจจะยังเป็นปัญหาประการสำคัญของเรื่องในระดับน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนที่ไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มากเพียงพอ รีวิวหนังไทย (ไม่ได้อ่านเรื่องย่อมาก่อน, ไม่เคยดูละครทีวีห้องหุ่นหรือไม่ได้อ่านในแนบคู่มือก่อนการรับชมภาพยนตร์ห้องหุ่นที่จะแจกก่อนเข้าโรงหนัง)
 อาจจะเกิดคำถามตลอดทั้งเรื่องว่า “อะไรคือแรงขับเคลื่อนตัวละครเหล่านี้” เนื่องจากบางครั้งเราก็ตั้งคำถามกับสิ่งที่ตัวละครทำลงไป โดยที่เราไม่เข้าใจไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย และแน่นอนเมื่อเราไม่เข้าใจพวกเขาแล้วมันก็สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้คนดูเริ่มมองว่าหนังกำลังจะบอกอะไรกับผู้ชมกันแน่ ซึ่งอันที่จริงตรงจุดนี้ “ไม่ใช่ความผิดของผู้ชม” เนื่องจากผู้กำกับเองต้องทำหน้าที่ “เล่า” เรื่องผ่านภาพยนตร์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ให้คนดูต้องต่อเอาเองก็ตาม แต่จิ๊กซอว์เหล่านี้ต้องมีความสมบูรณ์ในตัวมันเอง ไม่ใช่ต้องอาศัยเครื่องมือในการสื่อสารชิ้นอื่นเพิ่มเติมเพื่อทำให้ผู้ชม “เข้าใจ” ในเรื่องราวของหนัง
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าตัวหนังมีรายละเอียดเยอะก็คือการที่หนังทิ้งรายละเอียดยิบย่อยเอาไว้ตามงานโปรดักชั่น พร็อพ เช่นภาพถ่าย โต๊ะ ของจุกจิกเล็กๆที่มุมภาพ หรือแม้กระทั่งบทนักแสดงประกอบที่มักจะโผล่มาที่ “หางตา” ของผู้ชมซึ่งเหล่านี้เป็นรายละเอียดที่เน้นย้ำว่างาน “ห้องหุ่น” นั้นไม่ใช่งานสุกเอาเผากิน และคนดูก็ต้องคอย “จับ” สิ่งเหล่านี้เอาเองเพื่อประติดประต่อเรื่องราวในหนัง และเชื่อมโยงความคิดของตัวเองว่าตกลงแล้วหนังกำลังจะเล่าอะไรกับเรา
รีวิวหนัง ห้องหุ่น
ขณะเดียวกันการเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้น ตัวผมเองก็พยายามหลบเลี่ยงการสปอยล์จุดสำคัญของเรื่อง แต่ถ้าจะต้องอธิบายให้เคลียร์ว่าตกลงแล้วห้องหุ่นเป็นหนังแนวไหนกันแน่ ตัวเองก็คงต้องตอบว่าหนังมีทั้งความเป็นแนว Super Natural อันเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ เรื่องผี, ฆาตกรรม, ไสยศาสตร์และความเชื่อในโลกหลังความตาย ซึ่งถูกหลอมรวมเอาไว้ในหนังเรื่องนี้
น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ผู้กำกับจบใหม่ “กัลป์ กัลย์จาฤก” ทายาทรุ่นหลานของบริษัทกันตนา จะคุมงานสร้างได้ออกมาน่า “ตื่นตาตื่นใจ” แค่ไหน แต่งานกำกับนักแสดงนั้นก็ยังไม่เข้าขั้น เนื่องจากแอ็คติ้งของนักแสดงในเรื่องนี้ยังดู “ไปคนละทิศคนละทาง” บางคนก็เล่นค่อนข้างใหญ่เว่อร์เป็นละครเวทีเช่น
ดูหนัง บทของนพ (อนันดา) ที่หมกมุ่นอยู่แต่ความตายของน้องสาวตัวเองจนหวุดหวิดเหมือนจะเป็นบ้า และบทของพายัพ ชายวัน 55 ปีที่เสียลูกชายไปหลังจากเขาถูกหวยรางวัลที่ 1 ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็เหมือนแสดงหนังแล้วไม่เชื่อว่าตัวพวกเขาเองกำลังสวมบทเป็นตัวละครนั้นอยู่อาทิ กร พนักงานเสิร์ฟเหล้าที่มองโลกในแง่ร้าย
อย่างไรก็ตาม “ห้องหุ่น” เวอร์ชั่นนี้เป็นการตีความ “ละครห้องหุ่น” ที่เคยออกฉายทางทีวีไปเมื่อปี 2519-2532 และ2546 ใหม่ และเป็นการเล่าเรื่องราวของ “รุ่นลูกหลาน” ของตระกูลสัตยาภา ดังนั้นก่อนที่จะเดินเข้าโรงหนังไปนั้นอยากจะให้ผู้ชมลองอ่านประวัติคร่าวๆของตัวละครให้พอมีพื้นฐานเกี่ยวกับพวกเขาสักเล็กน้อย บางทีอาจจะช่วยให้ทำความเข้าใจหนังได้ดีขึ้น
ภาพรวมแล้ว ห้องหุ่นมี “ความน่าสนใจ” ในชิ้นงาน พอสมควรและเห็นได้ชัดว่าในเนื้องานมีความประณีตเกี่ยวกับงานสายโปรดักชั่นเอามากๆ และเป็นงานหนังไทยที่ “คิดเยอะ” ต้องคอยปะติดปะต่อเรื่องเองเยอะ และเป็นงานย่อยยาก
 และน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่าจริงๆแล้วหนังยังมีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ผู้กำกับตัดไว้ในความยาว 120 นาที และบอกเล่า “ปูมหลัง” ของตัวละครทุกตัวในเรื่องเอาไว้ละเอียดกว่านี้ แต่ที่ไม่นำมาออกฉายก็เพราะในเวอร์ชั่นนั้นมีความเป็น “อาร์ต” สูงกว่าเวอร์ชั่นที่ตัดต่อและออกฉายตามโรงภาพยนตร์แบบทุกวันนี้
     ห้องหุ่นในเกือบ 15 ปีก่อนตอนที่ผู้เขียนเป็นเด็กนับเป็นละครที่ทำผู้เขียนไม่อยากจะอยู่ห้องศิลปะในเวลา ๆ เลย ห้องหุ่นถือเป็นละครไทยอีกเรื่องที่ดังมาก พอ ๆ นกออก และสุสานคนเป็น บอกเลยว่าเป็นละครไทยไม่มีกี่เรื่องที่เนื้อเรื่องสนุกใช่ได้
          ก่อนที่ปี 2014 จะมีการ นำห้องหุ่นมาปัดฝุ่นและตีความใหม่ออกมาเป็นภาพยนตร์ หนังโรงออกฉายจากฝีไม้ลายมือผลงานการกำกับของ “กัลป์ กัลย์จาฤก” ที่บทประพันธ์เรื่องนี้ ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ จะมีความแตกต่างจากละครโทรทัศน์ออกไป
          ห้องหุ่นเวอร์ชั่นละคร เพราะฉบับภาพยนตร์จะเป็นภาคต่อของตัวละครในรุ่นหลาน เหมือนตำนานยังคงอยู่ และแน่นอนว่าใครดูมีว้าวกันแน่ถ้าจำได้ ในช่วงที่คนรุ่นหลนตระกูลปั้นหุ่นที่มียังชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ยังมีความเกี่ยวพันไปถึงรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และรุ่นบรรพบุรุษ
          โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าการวาวบทและการจัดมุมกล้องถือว่าใช่ได้และชอบองค์ประกอบในเรื่องที่เห็นโดดเด่นเลยคืองานภาพที่อาร์ทมากๆ องค์ประกอบของสีและแสง รวมไปถึง CG ค่อนข้างทำออกได้ดีและแปลกใหม่พอสมควรสำหรับหนังบ้านเรา การแสดงของอนันดาและนักแสดงคนอื่น ๆค่อนข้างเข้ากับบทที่ได้รับ ดูหม่นๆและน่าค้นหา
          ฉากระทึกขวัญภายในภาพยนตร์ห้องหุ่นเรื่องมีน้อยไปหน่อย แต่ก็ทำได้น่าสนใจพอสมควร และสะดุ้งบางช่วง น่าเสียดายที่บทหนังภายในเรื่องดูบางมากและการเดินเรื่องค่อนข้างเอื่อยมาก หลายๆฉากภายในเรื่องมีนัยยะแฝงอยู่ด้วย ซึ่งอาจยากต่อการเข้าใจของคนดู เพราะถ้าไม่เคยดูละครมาก่อนจะเข้าใจได้แบบไม่หมด
          สำหรับเนื้อและการเดินเรื่องจะเน้นหนักไปที่การปูอดีตและเล่าถึงพื้นเพตัวละครใหม่ในช่วงต้นเรื่องและการสืบหาเรื่องราวของตัวละคร และมีบางอย่างพูดไปถึงตัวละครในเวอร์ชั่นละครด้วยนะถ้าจำได้ ก่อนจะเปิดเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดและเฉลยแบบหักมุมในตอนท้ายเรื่อง แน่นอนแม้แต่ผู้เขียนก็ค่อนข้างตกใจพอควรไม่นึกว่าจะเล่นแบบนี้เดายากกว่าละครอีก
          อีกหนึ่งฉากที่น่าประทับใจคือการกำเนิดหุ่นแต่ละตัวที่มีการพัฒนาการมากขึ้นแม้ภาพยนตร์จะไม่มีการเล่าถึงเนื้อเรื่องหลักที่หุ่นบางตัวถูกทำลายไปแล้วก็ตามแต่ก็มีหลายตัวที่ออกมาในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แม้จะไม่คงความหลอนเหมือนต้นฉบับแต่ก็ชวนให้หายคิดถึงได้เป็นอย่างดีนอกจากนั้นแล้วยังมีการกำเนิดหุ่นแบบใหม่ซึ่งนับว่าทำออกมาได้เยี่ยมและเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ทำได้ดีพอควรเลยละ