รีวิวหนัง ผู้บ่าว ไทบ้าน E-SAN INDY

การทำหนังว่ายากแล้ว การทำหนังให้ได้เงินเรียกว่ายากยิ่งกว่า โดยเฉพาะวงการหนังไทยตอนนี้ที่จะว่ากันตรงๆ ก็คือยุค “GTH” ครองเมือง ถ้าคุณไม่ใช่ “GTH” โอกาสที่หนังคุณจะทำเงินก็ยิ่งริบหรี่ลง ค่าย (เคย) ใหญ่อย่างสหมงคลฟิล์มเองก็มีแต่ รีวิวหนัง ผู้บ่าว ไทบ้าน E-SAN INDY “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ที่พอจะเชิดหน้าชูตาได้ (ซึ่งก็จบมหากาพย์ไปแล้ว???) หรืออย่างค่ายที่เคยมาแรงอย่าง M๓๙ ก็แป๊กติดๆ กันมาหลายเรื่องแล้ว ค่ายระดับกลางไม่ต้องพูดถึง เจ๊งกันไปหลายเรื่อง ในสภาพที่วงการหนังเป็นเช่นนี้ คนทำหนังตัวเล็กๆ จะทำยังไงดี “ผู้บ่าวไทบ้าน E-san Indy” น่าจะพอเป็นคำตอบ

“ผู้บ่าวไทบ้าน E-san Indy“ เป็นหนังที่ชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมายของตนคือใคร แทนที่จะไปแข่งกับตลาดกระแสหลัก หนังวางตัวเองว่าเป็นหนังของคนอีสาน เพื่อคนอีสาน จึงตัดสินใจออกฉายช่วงแรกแค่ในภาคอีสานเท่านั้น (อาจเป็นความจำใจด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเครือใหญ่ใน กทม.ไม่ซื้อหนัง) ไม่ต้องจัดงานเปิดตัวหรือรอบสื่อรอบนักวิจารณ์ที่ใหญ่โตอะไรมากมาย เพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก หนังคุยกับคนอีสาน และให้คนเหล่านั้นเป็นคนตัดสินใจเองว่ามันสนุกหรือไม่สนุก เมื่อนั้นชัดเจนในจุดนี้
และหนังที่ทำออกมาแม้อาจไม่ดีเลิศแต่ก็ตอบโจทย์ความต้องการของคนอีสานได้ ผลจึงเป็นความสำเร็จที่เรียกว่าเกินคาด จากเงินลงทุน 5 ล้าน หนังกวาดรายได้ในภาคอีสานไปกว่า 10 ล้านบาท และด้วยกระแสปากต่อปาก ทำให้เกิดลักษณะของป่าล้อมเมือง จนได้ฉายที่กรุงเทพฯ ในที่สุด
ว่ากันที่ตัวหนัง “ผู้บ่าวไทบ้าน E-san Indy“ ไม่ได้เป็นหนังที่มีเนื้อหาซับซ้อน แปลกใหม่ หรือมีประเด็นคมคายอะไรมากมาย หนังเล่าเรื่องง่ายๆ ปนตลกขบขำของชีวิตเหล่า “ผู้บ่าวไทบ้าน” (คนหนุ่มบ้านนอก) ที่มักถูกมองว่าวันๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่กินเหล้าเที่ยวเตร่ไปวันๆ แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นคนหนุ่มที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเกิด หนังยังมีสอดแทรกประเด็นการอยากเป็นคนทำหนังของ “ทองคำ” (อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร) หนึ่งในผู้บ่าวเข้าไปด้วย แม้ประเด็นนี้จะดูไม่เนียนไปกับเนื้อเรื่องส่วนอื่นเท่าไหร่
และหนังก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าทำไมทองคำถึงผูกพันกับหนังมากขนาดนั้น แต่ก็เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจใส่ตัวตนของคนสร้างลงไปในเนื้อเรื่อง เพื่อบ่งบอกถึงความรักในหนังที่พวกเขามี แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีทรัพยากรที่เพียบพร้อม และยังเป็นการสื่อด้วยว่า “หนัง” เป็นความบันเทิงสำหรับคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่ความบันเทิงราคาแพงสำหรับคนมีเงินอย่างที่บางเครือโรงภาพยนตร์ปัจจุบันกำลังทำให้เป็น
หนังที่ขายความเป็นอีสานนั้นมีมาให้เห็นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้ “ผู้บ่าวไทบ้าน E-san Indy“ แตกต่างก็คือ “เสน่ห์” ที่ดึงดูดให้เราสนุกไปกับตัวหนังได้ แม้ว่ามุขตลกส่วนใหญ่จะเป็นมุขตลกที่พอเดาได้ว่าจะไปในทางไหน แต่พออยู่ในหนังมันก็ยังตลกอยู่ดี ยิ่งถ้าเป็นคนอีสานน่าจะยิ่งตลกยิ่งขึ้น เพราะมุขส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับภาษาและวิถีชีวิตของคนอีสาน ขนาดส่วนตัวไม่ใช่คนอีสาน (เป็นคนใต้) ยังรู้สึกสนุก และที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดความเป็นอีสานในลักษณะที่ “ไม่ยัดเยียด” เกินไปแบบหนังขายความเป็นอีสานบางเรื่อง ทำให้คนดูรู้สึกถึง “ความจริงใจ” ของตัวหนัง รู้สึกว่าถึงความไทบ้านที่เป็นจริง
ที่ชอบอีกอย่างคือ หนังไม่ได้วาดภาพชนบทให้ดูแร้นแค้น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นดินแดนอันสงบสุขราวกับสวรรค์ (อย่างที่คนเมืองที่เบื่อความเป็นเมืองชอบมองกัน) และแม้จะมีตัวละครที่จากบ้านเกิดไปที่อื่น ดูหนัง 4k
แต่หนังก็ไม่พยายามทำให้ตัวละครนั้นดูลบหรือเหมือนไม่รักบ้านเกิด รีวิวหนังไทย เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แต่ละคนล้วนมีการตัดสินใจของตัวเอง คนที่เลือกไปก็มีเหตุผลของตัวเอง คนที่เลือกอยู่อย่างผู้บ่าวไทบ้านก็มีเหตุผลของตัวเองที่จะอยู่ ขอแค่อย่าลืมและแวะมาเยี่ยมกันบ้างก็พอ
ความสนุกอีกอย่างคือบรรยากาศการดู ที่เรียกว่าคนเยอะเกินคาด และสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ร่วมที่หลายคนมีต่อตัวหนัง (คาดว่าน่าจะเป็นคนอีสานที่มาอยู่ในกรุง) จนอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าสมมติหนังเลือกฉายที่ กทม. ก่อน และวางตัวเองเป็นหนังตลาดทั่วๆ ไป อาจไม่ได้เห็นภาพความสำเร็จแบบนี้ก็ได้ ซึ่งจาก “ผู้บ่าวไทบ้าน E-san Indy“ รวมไปถึงหนังนอกกระแสหลายเรื่องก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จ อาทิ “Mary is Happy, Mary is Happy” “ประชาธิป’ไทย”
“แต่เพียงผู้เดียว” “นมัสเต ส่งเกรียนไปเรียนพุทธ” ฯลฯ ก็น่าจะพอเป็นเครื่องยืนยันว่า วงการหนังนอกกระแสในไทยยังสามารถไปได้ไกล คนทำหนังหลายคนจะหันมาทำหนังแบบเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น (Niche Market) ไม่ต้องไปแข่งกับ GTH หรือค่ายใหญ่อื่นๆ ในตลาด Mass แต่ทำของตัวเองให้ดี ถ้าสมมติหนังประสบความสำเร็จในระดับ Niche กระแสก็จะช่วยพาให้หนังเรื่องนั้นขึ้นไปสู่ระดับ Mass เอง

รีวิวหนัง ผู้บ่าว ไทบ้าน E-SAN INDY

ข้อเสียคือเราอาจขาดแคลนหนังทุนสูง แต่ข้อดีก็คือจะมีหนังหลายเรื่องที่หันไปพัฒนาเรื่องบทมาแข่งกัน เพราะมันคืออาวุธเดียวของหนังนอกกระแส ดูหนังออนไลน์ 4k
เรื่องราวของ ทองคำ (อาร์ตี้ – ธนฉัตร ตุลยฉัตร) หนุ่มอีสานบ้านนอกที่ฝันอยากเป็นผู้กำกับหนังอันโด่งดัง ท่ามกลางความฝันลมๆ แล้งๆ ทองคำ เฝ้ารอ ปราณี (ณภัสนันท์ (ชูติมา) วันดึก) สาวคนรักที่ไปทำงานเมืองนอกหวังกลับมาแต่งงานกัน ทองคำ มีเพียงไก่ชนตัวหนึ่งที่ ปราณี ให้ไว้ก่อนไปเมืองนอกและกลุ่มผู้บ่าวไทบ้านเป็นเพื่อน ความซวยของทองคำเกิดขึ้นเมื่อไก่ตัวรักถูกเพื่อนขโมยไปต้ม ทองคำ เสียใจมากที่สุด
และต้องเสียใจอีกครั้ง ในวันที่ปราณีกลับมาจากเมืองนอกพร้อมแฟนฝรั่งชาวอังกฤษเพื่อจะมาไถนาให้แม่ยายในช่วงฤดูทำข้าว (เดือนมิถุนายน) ทำให้ทองคำอกหักทันที มีเพียงเพื่อนผู้บ่าวไทบ้านคอยปลอบใจ และทองคำจะทำยังไงกับความเป็นไทบ้านลูกอีสานเพื่อดึงใจแฟนสาวไม่ให้กลับเมืองนอกกับแฟนฝรั่งหลังฤดูทำนาเสร็จ
ภาพแรกจากหนังไทยบ้านๆ นอกกระแส “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้” | JEDIYUTH
เรื่องราวของหนุ่มลูกอีสานที่ ใช้ชีวิตบ้านๆ ไม่ออกไปหางานในเมืองใหญ่ หรือ เมืองนอก เพราะพวกเขารักชีวิตอิสระ ชีวิตบ้านนอกๆ แม้หลายคนจะมองว่ามันไม่มีอนาคต แต่เขาก็รักชีวิตแบบพอมีพอกิน ไม่ต้องดิ้นรนอะไร
ดูหนัง อาร์ตี้ เล่นดูสมจริงดี ส่วนนางเอก ณภัสนันท์ ก็ถือว่าเล่นดราม่าได้ดีเช่นกัน ตัวประกอบอื่นๆ ก็พอเป็นส่วนเสริมกันไปได้น่าสนใจ
แต่โครงเรื่องอาจจะอ่อนไปหน่อย ในตอนท้ายๆ ไม่อิน ไม่ซึ้งเท่าที่ควรจะเป็น และตอนจบดูเหมือนน่าจะมีภาคต่อมากกว่า โดยรวม ก็ชอบบรรยากาศในหนัง ดนตรีประกอบ ชีวิตชนบท ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว ใครชอบหนังไทย แนวอีสาน สนุกสนาน ปนรักสามเส้าเราต้องไปดูครับ
เรามีหนังตลกโรแมนติกแบบหนุ่มสาวชาวกรุงสำหรับคนกรุงวัยทำงานชมกันไปนักต่อนัก หนัง “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้” จากผู้กำกับสายเลือดอีสานแท้ๆ จะพาคุณไปพบกับหนังรักตลกในรสชาติอีกแบบที่ดูแล้วน่าสนใจไม่แพ้กันครับ และปล่อยตัวอย่างหนังออกมาได้สักระยะแล้ว
หนังเป็นผลงานกำกับจากสองผู้กำกับหนังสั้น อุเทน ศรีริวิ  ดูหนังออนไลน์ และจิณณพัต ลดารัตน์ ที่ใช้ชนบทของอีสานเป็นท้องเรื่อง เพื่อให้ได้บรรยากาศอีสานแท้ๆ พร้อมกับเหล่านักแสดงที่เว้าอีสานกันได้คล่องไฟแล่บ ได้แก่ อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร , มาร์ติน วิลเลอร์ , เบญจา อาร์สยาม , บุญศรี ยินดี , ชัยรัตน์ สุทธิประภา , จิรายุ สูตรไชย และ ชูติมา วันดึก ครับ
งานสร้างจากตัวอย่างหนังอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ทีเดียว และที่สำคัญคือมีมุขตลกที่ทำให้ม่วนหลาย โดยเฉพาะมุขแซวทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลที่อยู่ท้ายตัวอย่างหนัง เล่นเอาผมฮาลั่นเลย
หนังจะเข้าฉาย 5 มิถุนายนนี้ แบบจำกัดโรงตามต่างจังหวัด ซึ่งสามารถชมรายชื่อโรงหนังที่ฉายได้จากเฟซบุคของหนังครับ ส่วนใหญ่เป็นภาคอีสาน ยังไม่มีรายงานว่าคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ จะได้ชมเมื่อไหร่ แต่ถ้ากระแสรายได้จากภาคอีสานดีมาก ก็อาจทำให้โรงหนังในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองอื่นๆ ได้ให้โอกาสแก่หนังเรื่องนี้ด้วย ดูตัวอย่างหนังแล้วอยากดูมากครับ
คลิกชมตัวอย่างหนัง เรื่องย่อ และใบปิดที่ออกแบบมาได้สวยและชวนนึกถึงอดีตมากๆ ที่ด้านในครับ
“ประสาไก่น้อยตัวเดียวก็ยังรักษาไม่ได้ นับประสาอะไรกับหัวใจคนจะมั่นคงในรักได้” ประโยคสุดท้ายที่ความสัมพันธ์ฉันคู่รักบ้านนาระหว่างสาวปราณีกับบักทองคำสิ้นสุดลง
เรื่องราวความรักฉบับมัน ฮาบ้านๆอมยิ้ม ประสาหนุ่มสาวบ้านทุ่ง บักทองคำผู้บ่าวไทบ้านที่ทั้งชีวิตนี้เกิดมาเพื่อความฝันสองอย่าง อย่างแรกคืออยากเป็นผู้กำกับหนังอินดี้ เพราะหลงไหลใฝ่ฝันรูปเงาหนังในแผ่นฟิล์มที่เหลือฉีกขาดจากหน่วยหนังกลางแปลงในงานบุญมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกครั้งเวลามีหน่วยหนังเร่เข้ามาฉายในหมู่บ้าน วันถัดมาบักทองคำจะตื่นก่อนไก่โห่เสมอ เพื่อไปหาเก็บเศษฟิล์มหนังมาสะสม ลึกๆ แล้วหนังอินดี้ที่เขาฝันอยากทำมันมากที่สุดมันก็คือเรื่องราวความรักอันแสนกุ๊กกิ๊กและโรแมนติกระหว่างเขากับสาวปราณีนั่นเอง
และความฝันของหนุ่มบ้านป่าอย่างที่สองคือ เฝ้ารอเพื่อครองรักกับปราณี สาวบ้านนาผู้สัญญากันมั่นเหมาะว่าจะกลับมาแต่งงานหลังจากต้องไปทำงานเมืองนอก ด้วยเพราะฐานะทางบ้านบีบบังคับ ปราณีกับทองคำเติบโตมาในชนบทบ้านป่าด้วยกัน เคยกิน เล่น เรียน เลี้ยงควาย ดูหนัง ฟังหมอลำ และกินตำบักหุ่งมาด้วยกัน รักกัน สัญญากันมั่นรักเหมาะ และไก่น้อยพันธุ์ดี พันธุ์ไก่ตีที่เป็นมากกว่าไก่ก็คือประจักษ์พยานแห่งสัญญารักของทั้งสอง
วันที่ปราณีกลับมาจากเมืองนอก มันเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจของบักทองคำซ้ำสองดอก เมื่อไก่พันธุ์สัญญารักได้ถูกมือดีขโมยไปเป็นกับแกล้ม ซ้ำร้ายปราณีก็พาแฟนฝรั่งดั้งโด่งกลับมาเยี่ยมบ้าน หยามหัวใจผู้บ่าวไทบ้านอย่างบักทองคำยิ่งนัก เมื่อความรักไม่สมหวัง สัญญารักก็มาเพพังเพราะฝรั่งมันร่ำรวยกว่า หัวใจที่แหลกสลายของผู้บ่าวไทบ้านที่มันรักและไม่ยอมสูญเสียคนรักให้ชายต่างบ้านต่างเมืองคนใดทั้งสิ้น จึงดิ้นทุกทาง ทำทุกอย่างเพื่อเอาสาวบ้านนาปราณี กลับคืนมาสู่อ้อมใจของพวกเขา ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้