รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี

ภายหลังจากที่สมเด็จพระนเรศวร (พันโทวันชนะ สวัสดี) ทรงประกาศเอกราชที่เมืองแครง พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ก็ให้จัดทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาเป็นหลายทัพ รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี แต่ก็หามีทัพใดทำการสำเร็จไม่ พระเจ้านันทบุเรงเกรงว่าหากหงสาวดีมิอาจกำราบอยุธยาลงได้ นานไปเหล่าเจ้าประเทศราชอื่นจะเอาเยี่ยง พากันแข็งข้อต่อหงสา

ในปีพุทธศักราช 2129 พระองค์จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ไพร่พลกว่า 2 แสนข้ามแดนเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหมายชิงคืนเป็นประเทศราช ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงใช้พระนครเป็นยุทธภูมิรับศึก และวางยุทธศาสตร์ตั้งรับในเชิงรุก คือมิทรงปล่อยให้ทัพหงสาที่ล้อมกรุงเป็นฝ่ายรุกรบแต่ฝ่ายเดียว แต่ทรงแต่งกองโจรบุกปล้นค่ายศัตรูให้ต้องตกเป็นฝ่ายรับจนมิอาจรุกเข้าเหยียบถึงคูพระนคร เมื่อล้อมกรุงนานเข้า ทัพหงสาวดีก็ขาดเสบียง สมเด็จพระนเรศก็ทรงนำเรือปืนขึ้นไปยิงถล่มค่ายหลวงพระเจ้านันทบุเรง จนพม่าแตกระส่ำระสาย จอมทัพพม่าบาดเจ็บสาหัสถึงกับเสียพระสิริโฉมและทุพพลภาพ พม่าต้องถอนทัพกลับหงสาวดี และขณะเมื่อค่ายหลวงพม่าแตกนั้น แม่นางเลอขิ่น (ทราย เจริญปุระ) ก็ได้ช่องช่วยพระราชมนู (นพชัย ชัยนาม) จากพันธนาการคืนเข้าอยุธยาได้
          พระเจ้านันทบุเรงทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชัยต่อสมเด็จพระนเรศอย่างย่อยยับ จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกัลยา (เกรซ มหาดำรงค์กุล) ซึ่งตกเป็นองค์ประกันอยู่หงสา ด้วยอารมณ์รักและแค้นระคนกัน พระองค์ได้ล่วงประเวณีพระพี่นางพระนเรศและยังทำร้ายพระนางถึงตกพระโลหิต เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชา (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พระราชบิดาทราบความก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระราชธิดาและแผ่นดินของอยุธยา ทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้หงสาวดีกระทำการย่ำยีก็ด้วยเป็นเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้างศัตรู อยู่มาสมเด็จพระมหาธรรมราชาก็ตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศจึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา
รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี
          ข่าวการผลัดแผ่นดินของอยุธยารู้ไปถึงพระเจ้านันทบุเรง พระองค์สำคัญว่าราชอาณาจักรสยามจะไม่เป็นปกติสุข เป็นช่องชวนชิงเชิงจึงโปรดให้มังสามเกียด (นภัสกร มิตรเอม) อุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงดำริจะนำกำลังออกไปรับศึกถึงหนองสาหร่ายแดนเมืองสุพรรณบุรีด้วยเห็นว่าทัพพระมหาอุปราชานั้นถึงแม้จะมากด้วยกำลังรี้พลแต่ทหารหาญที่เกณฑ์มาหากมิเยาว์ด้วยวัยวุฒิก็ชราภาพ กำลังพลมิได้เข้มแข็งดั่งทัพพระเจ้านันทบุเรง ข้างพระมหาอุปราชานั้นยกทัพเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ผ่านลงมาถึงเมืองกาญจนบุรีก็ได้แต่เมืองเปล่า ให้ไพร่พลออกเที่ยวลาดหาจับผู้คนก็ไม่ได้ จึงยกพลล่วงลงมาปักค่ายที่ตะพังตรุ
          ข้างสมเด็จพระนเรศทรงโปรดให้พระราชมนูแต่งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปดูกำลังข้าศึกถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้นตะลุมบอน แต่กำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศทราบความจึงอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นช้างทรงของสมเด็จพระนเรศคือเจ้าพระยาไชยานุภาพ และช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระยาปราบไตรจักรต่างตกน้ำมัน วิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญ ไพร่พลข้างอยุธยาตามไม่ทันช้างทรง จะมีก็เพียงพลจุกช่องล้อมข้างที่โดยเสด็จไปทัน
          ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศและสมเด็จพระเอกาทศรถฝ่าเข้ามากลางวงล้อมข้าศึกและมาหยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปราชา สมเด็จพระนเรศวรจึงประกาศท้าอุปราชหงสาให้ออกมากระทำยุทธหัตถีให้ก่อเกิดเป็นเกียรติแก่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะ พระมหาอุปราชาก็ไสพระคชาธารออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระนเรศ ขณะที่มังจาปะโร พระพี่เลี้ยงองค์สมเด็จพระมหาอุปราช (ชลัฏ ณ สงขลา) ได้ออกทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระเอกาทศรถ (พันเอกวินธัย สุวารี) สัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ ท้ายที่สุดสมเด็จพระมหาอุปราชาก็ปราชัยสิ้นพระชนม์ด้วยคมง้าวของสมเด็จพระนเรศ ข้างมังจาปะโรก็พ่ายแพ้แก่สมเด็จพระเอกาทศรถตายกับคอช้าง ทัพหงสาก็มีอันปราชัยต้องถอยทัพนำพระศพพระมหาอุปราชาคืนสู่นครหงสาวดี
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี (ไม่สปอยล์)

รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี

          สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” ในรอบสื่อมวลชน ก็ต้องขอขอบคุณทาง สหมงคลฟิล์ม และพร้อมมิตรโปรดักชั่น มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
          หนังไทยเรื่องนี้ น่าจะเป็น 1 ในหนังภาคต่อที่คนไทยรู้จักดีมากที่สุด เพราะตั้งแต่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์ ประกันหงสา เริ่มออกฉายในปี 2550 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว หนังเรื่องนี้ก็ยังมีภาคต่อ (ที่หลายคนมักจะถามกันว่า จะจบหรือยัง) คือ ประกาศอิสรภาพ(2550) ยุทธนาวี(2554) ศึกนันทบุเรง(2554) และจนถึงภาคล่าสุด ยุทธหัตถี(2557) และเป็นภาคที่ถูกเลื่อนการฉายมามากที่สุด จนจะเข้าฉายจริงวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 นี้
          จากตัวอย่างหนังที่ออกมา ขอบอกตามตรงว่า ดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร (หรืออาจจะชินไปแล้ว) กับหนังแนวสงครามประวัติศาตร์ชาติไทย ที่มีมาจนถึงภาคที่ 5 และ ฉากยุทธหัตถี ที่ปรากฏมาในตัวอย่างนั้น ดูหลอกตาแปลกๆ ก็ยิ่งให้น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งว่า ในยุคนี้ (2557) ถ้ายังมี CG ที่ดูด้อยในคุณภาพหลุดออกมา ก็คงจะดูแย่หนักกว่าในปีที่หนังเข้าฉายปีแรก (2550) ไปมากเลยทีเดียว
รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี
ช่วงแรก หนังย้อนเรื่องราวของภาคที่แล้วให้เราได้รับรู้นิดหน่อย ซึ่งช่วยได้เยอะพอสมควร แต่ตัวหนังก็ดูเรื่อยๆ ออกแนวดราม่า จนพอถึงฉากรบในช่วงแรก ค่อยดูตื่นตาตื่นใจขึ้นมาบ้าง
รีวิวหนังไทย ช่วงกลาง ช่วงนี้จะเน้นไปทางดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก คู่รัก สัตว์เลี้ยง เนื้อเรื่องเดินไปเรื่อยๆตามประวัติศาตร์ ก็พอดูได้ไม่ถึงกับเบื่อ มีหลายฉากที่ดูน่าสนใจในแง่มุมของประวัติศาสตร์ ว่าสมัยก่อนเขาทำกันแบบนี้หรือ ถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ คงจะถูกใจ
          ช่วงท้าย ฉากรบและยุทธหัตถี ต้องบอกก่อนเลยครับว่าผมรอฉากนี้มาตั้งแต่ดูภาคแรก และเชื่อว่าหลายๆคนก็คงรอดูเหมือนกัน ที่สำคัญ ฉากนี้ในตัวอย่างหนังดูไม่ค่อย OK แต่พอมาอยู่ในหนังจริง บอกเลยครับว่า ทั้งที่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ และความกลัวว่าฉากนี้จะไม่สมจริงนั้นหมดไปเลยเมื่อได้ดู ผมรู้ว่าฉากนี้มีการใช้เทคนิค Motion Capture กับช้าง (เทคนิคเดียวกับที่ Avatar ใช้) เพื่อให้ช้างชนกัน สู้กัน ได้เต็มที่และสมจริง แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับผม มันเนียนตาและผ่านได้สบายเลยครับ
รีวิวหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี
          ช่วงจบ เชื่อว่าทุกคนคงจะมีคำถามว่า ลืมอะไรไปหรือเปล่า ตรงนี้มีข่าวลือมาว่าจะมี ภาค SPIN-OFF ของบางตัวละครสำคัญ แต่สำหรับผม การได้ดูฉากยุทธหัตถีนั้นก็เพียงพอแล้ว
          เรื่องเทคนิคการถ่ายทำ ดูเหมือนจะมีผลจากการที่โรงถ่ายและห้องทำ CG โดนไฟไหม้ และการนำฟิล์มที่ถ่ายทำไว้ตั้งแต่ในช่วงภาคแรกมาผสมกับการถ่ายทำด้วยกล้องดิจิตอลในยุคหลัง ทำให้หลายอย่างดูแปลกๆ โดยเฉพาะโทนของสีภาพ แต่โดยรวมก็ไม่ได้สะดุดอะไร ส่วนระบบเสียงเป็นที่น่าเสียดายว่าผมไม่ได้ดูในโรงที่ฉายในระบบ Dolby ATMOS ซึ่งมีหนังเรื่องนี้ฉายด้วย และน่าจะเป็นหนังไทย Dolby ATMOS เรื่องแรก แต่ดูแปลกที่เสียงพูดในหลายฉาก ฟังไม่ชัดเจน แต่เสียง Effect ชัดเจนดี อาจเป็นผลจากการต้องนำเสียงในฟิล์มยุคเก่ามาผสานกับเสียงดิจิตอลยุคใหม่ รวมถึงการพากย์ทับบางส่วน
ด้านการแสดง มาถึงภาค 5 แล้ว การแสดงของทุกคนอยู่ในระดับที่ผ่านสบายๆ ทั้งหมด ที่โดดเด่นคงจะเป็นคุณจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ ที่ต้องแสดงผ่านหน้ากากที่ไม่เห็นสีหน้า แต่เชื่อหรือไม่ว่าสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ผ่านจากท่าทางและน้ำเสียงได้เลย ขอชื่นชมจริงๆครับ ดูหนังออนไลน์ 4k
          สรุป – หนังเรื่องนี้ โดยรวมก็ยังสนุกสู้ภาค 1 และ 2 ไม่ได้ แต่มีฉากสำคัญคือฉากยุทธหัตถีที่ทำออกมาได้ดีและตื่นเต้น แค่ฉากนี้ฉากเดียว สำหรับผมหนังเรื่องนี้มีคุณค่าเพียงพอที่จะไปดู คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ช่วงนี้มา คงจะจินตนาการฉากยุทธหัตถีไว้แตกต่างกันไป ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ครบถ้วน สำหรับผม หนังเรื่องนี้เหมือนสารคดีประวัติศาสตร์ไทยที่เล่าเรื่องโดยใช้การแสดงมากกว่าจะเป็นหนังในรูปแบบที่ทั่วไปที่เราคุ้นเคย แนะนำง่ายๆครับ ถ้าอยากดูหนังที่มีองค์ประกอบโดยรวมสมบูรณ์ เรื่องนี้คงยังไม่ใช่ แต่ถ้าอยากดูยุทธหัตถี ดูหนัง หรืออยากดูหนังประวัติศาสตร์ชาติไทย (ที่ไม่น่าจะมีการสร้างในทุนสร้างระดับนี้อีกแล้ว) ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ด้วยความที่หนังให้คำจำกัดความของเรื่องว่า “ตำนาน” ดังนั้นความหมายของคำคำนี้คือ เรื่องที่ถูกเล่าขานและสืบต่อกันมา ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันสะท้อนถึงแนวคิด ระบบความเป็นอยู่ วิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ รวมไปถึงประเพณีต่างในอดีต ซึ่งการเล่าเหล่านั้นจึงอาจจะถูกปรุงแต่งไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ และเรื่องที่ถูกแต่งเติมเข้าไปภายหลังเพื่อเสริมเพิ่มเติมให้ “เรื่องราว” มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
ดังนั้นการจะมองว่าหนังอย่างตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นหนังที่ถ่ายทอดความ “จริง” ทั้ง 100 เปอร์เซนต์นั้น ดูจะค่อนข้างเป็นวิธีการมองหนังที่ค่อนข้างโหดร้ายจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามกระแส “รักชาติ” ที่หนังเรื่องนี้กรุยทางเอาไว้ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคที่ 2 นั้น ดูเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างได้ชัดในภาคที่ 3 เมื่อแรกเริ่มเดิมทีตัวหนังเรื่องนี้ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (ท่านมุ้ย) ตั้งใจไว้ว่าจะสร้างเอาไว้แค่เพียง 3 ภาคเท่านั้น แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีมาถึงภาคที่ 4 อย่าง  ศึกนันทบุเรง และภาคที่ 5 ยุทธหัตถี ตามออกมา
ในภาคศึกนันทบุเรง เส้นเรื่องที่มีใจความอยู่แค่เพียงการเล่าเรื่องราวของพระเจ้านันทบุเรง นานเตี๊ยบาเยง ได้ขึ้นเสวยราชย์เหนือแผ่นดินพุกามประเทศสืบต่อจากพระเจ้าหงสาวดีช้างเผือกบุเรงนอง อย่างที่เราทราบกันดีว่าบุเรงนองนั้นเป็นถึงผู้ชนะสิบทิศ รบเก่งและศึกรักท่านก็ไม่เป็นรองใคร ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองทำให้นานเตี๊ยบาเยงตกอยู่ในสภาพ “เป็นรอง” พ่อตัวเอง เหตุการณ์ในภาคที่ 4 จบลงที่การสู้รบอย่างดุเดือด ดูหนัง 4k
เหตุการณ์สำคัญในช่วงเปิดเรื่องราวคือการที่พระนเรศวรตัดสินใจบุกค่ายพม่าที่ตั้งกองทัพไว้ด้วยการใช้กลยุทธ์ใช้เรือบุกตอนรุ่งสางและผลจากการต่อสู้ทำให้ พระเจ้านันทบุเรง(จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) โดนไฟคลอกจนอาการสาหัส เป็นผลทำให้กองทัพพม่าขาดผู้ออกราชการแทนไปชั่วคราวเป็นผลต่อเนื่องทำให้ มังกะยอชวา(นภัสกร มิตรเอม) ถูกพ่อของตัวเองบีบบังคับให้พระองค์ต้องออกไปรบทำศึกชนช้างกับพระนเรศวร ทั้งที่ตนถูกโหรทำนายทายทักว่าฤกษ์ที่ต้องออกศึกนั้นมีโอกาสที่มังกะยอชะวาจะชะตาขาดในสนามรบ
โดยระหว่างที่เส้นเรื่องถูกนำเสนอผ่านเหตุการณ์ปลีกย่อย อาทิ พระสุพรรณกัลยา(เกรซ มหาดำรงค์กุล) ถูกพระเจ้านันทบุเรงล่วงละเมิดทางเพศ จนบรรดาบริวารรับใช้ทนการถูกล่วงเกินนี้ไม่ไหว จึงส่งสาสน์มาถึง สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช(ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ให้ได้รับรู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ของพระนาง จนทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตในเวลาต่อมา หรือฉากแนะนำตัวละคร ช้างของพระนเรศวร(เจ้าพระยาไชยานุภาพ) ก็ถือว่าเป็นฉากที่กินเวลานานและดูไม่มีความสำคัญแต่เส้นเรื่องหลักมากเท่าไหร่นัก ดูหนังออนไลน์ ควรจะเล่าให้สั้นกระชับได้กว่าที่เป็นอยู่