รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์

ในแวดวงหนังสือ เต๋อ นวพล เป็นที่รู้จักมาก่อนหน้าที่เขาจะเริ่มแบนสายมาทำภาพยนตร์ งานเขียนของเขามีสไตล์เฉพาะตัว คำจำกัดความที่ชัดเจนที่สุดคือ กวนทีน แต่อ่านแล้ว ฮา รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์ แถมได้สาระ แน่นอนว่าเขาได้นำทักษะดังกล่าวมาต่อยอดเป็นการเขียนบทได้อย่างดี

ส่วนตัวเคยอ่านหนังสือของเขาสองสามเล่ม ขณะที่งานภาพยนตร์มีโอกาสผ่านตาหนังสั้นรวมถึงเอ็มวีหลายๆตัวที่เขากำกับ สำหรับ MARY IS HAPPY, MARY IS HAPPY ดูจบแล้วยอมรับว่าไม่ค่อยอินนัก พอมาถึง ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ แม้กระแสจะดีมากๆ แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังไปก่อน
รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์
ฟรีแลนซ์ฯ ใช้เวลาถ่ายทำเพียง16วัน ทุนสร้างแค่16ล้านบาท สมเหตุผลกับ หนังแมสเรื่องแรกของ เต๋อ นวพล และ หนังอินดี้เรื่องแรกของ GTH ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงของ เต๋อ ผู้กำกับที่เคยไปโรงพยาบาลแล้วพบหมอสาววัยไล่เลี่ยกัน บทสนทนาในวั้นนั้นทำให้เขารู้สึกเขิน ไอเดียเล็กๆนี้ถูกนำมาขยายต่อเป็นหนังใหญ่ โดยดึงเอา ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับ ดาวิกา โฮร์เน่ มารับบทเป็นคนไข้หนุ่มกับคุณหมอสาว
ยุ่น (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ชายวัย 30 มีอาชีพเป็นมือรีทัชขั้นเทพ รับงานฟรีแลนซ์ ซึ่งมี เจ๋ (วิโอเลต วอเทียร์) โปรดิวเซอร์รุ่นน้องคอยส่งและตามงาน ยุ่น เป็นคนบ้างานบวกกับชอบอดนอนทำงานข้ามวันข้ามคืน สถิติที่เขาเคยทำได้คือไม่หลับนาน5วัน
กระทั่งวันหนึ่งก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ ยุ่น มีตุ่มผื่นคันขึ้นตามร่างกาย ด้วยความงกเขาเลือกไปรักษาที่โรงพบายาลรัฐ ที่นั่นเองที่เขาได้พบกับ หมออิม (ดาวิกา โฮร์เน่) แพทย์สาวไฟแรงคนสวยผู้หวังอยากให้คนไข้หายป่วย เธอแนะนำให้เขา เข้านอนเร็ว ออกกำลังกาย และ เดินทางพักผ่อน หลังพบ หมออิม แล้ว ยุ่น ก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งบางทีอาจไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เป็นเพื่อเธอ
รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์
บทหนังถ่ายทอดชีวิตของคนบ้างานและโลกของคนชอบอดนอนได้น่าสนใจ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแข่งกันไม่หลับ แถมยังเอามาโพสต์อวดคนอื่นอย่างภาคภูมิใจ  เราได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของอาชีพฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้อิสระหรือสบาย ซึ่งขัดแย้งกับภาพที่เด็กรุ่นใหม่ในสังคมไทยจินตนาการ จุดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่ ยุ่น ในวัย30กว่าเป็นคนที่มีบุคลิกเหมือนคน Gen X มีความรับผิดชอบสูง อึด ถึก ทน ทุ่มเท สู้ทุกเดดไลน์ พร้อมตายคางาน ชีวิตของเขาว่างเปล่า โดดเดี่ยว จนน่าสงสาร ยุ่นอาจะเป็นคนสุดโต่งไปหน่อย แต่ก็สะท้อนคำพูดที่ว่า ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ออกมาได้หม่นเศร้าดี
ตัวหนังแฝงประเด็นสังคมหลายอย่าง ทั้ง ค่าใช้จ่ายสุดแพงในโรงพยาบาลเอกชน ดูหนังออนไลน์ 4k คิวยาวเหยียดในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งบ่งบอกถึงความล้มเหลวของสวัสดิการพื้นฐานในประเทศนี้ โดยมี ยุ่น เป็นตัวแทนคนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม เพราะไม่ได้ทำงานประจำ(ภาพ ซันนี่ มีป้าย ผู้ป่วยนอก จึงสามารถนำมาตีความได้) ผู้มีรายได้น้อยต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงไปกับการรอคิว ก่อนจะได้พบแพทย์แค่ไม่กี่นาที แต่ในทางกลับกันหนังก็ได้เปลี่ยนอารมณ์การพบหมอที่เป็นเรื่องซีเรียส น่ากลัว ให้กลับดูรื่นรมย์ขึ้น เมื่อคนไข้หนุ่มแอบชอบคุณหมอสาว
ไม่เฉพาะ ฟรีแลนซ์ หนังพูดถึงภาพรวมของคนทำงาน โดยเอาตัวละคร หมออิม เป็นตัวแทนของหมอในโรงพยาบาลรัฐบาลที่มีงานล้นมือ ซํ้ายังเป็นเด็กจบใหม่ แน่นอนว่าด้วยเพศสภาพและวัยวุฒิ เธอคงได้รับความกดดันพอสมควร
คำพูดทีเล่นทีจริงของหมอหนุ่มอีกคนที่บอกว่าหมออิมคนสวยคนไข้หลายคนไม่ยอมหาย มองได้ทั้งเป็นการแซวเล่น จนถึงการดูหมิ่นความสามารถในการรักษาคนไข้ของเธอ ดูหนัง 4k ทำให้มีฉากหนึ่งที่เธอเอ่ยปากจากความน้อยใจให้ ยุ่น เปลี่ยนหมอ แน่นอนว่าค่านิยมในสังคมไทยให้การยอมรับอาจารย์หมอแก่ๆมากกว่าหมอจบใหม่
ด้านความสัมพันธ์ของ ยุ่น กับ หมออิม หนังทำออกมาได้กลมกล่อม บทสนทนาในห้องคนไข้เดือนละครั้ง ไม่ว่าจะ การเถียงกัน หยอกล้อกัน โกรธกัน งอนกัน ง้อกัน อดทำให้เราคิดว่าเป็นบทสนทนาของคู่รักไม่ได้ เช่นเดียวกับ เจ๋ รุ่นน้อง ยุ่น
รีวิวหนังไทย ที่มีหน้าที่คล้ายเป็นโคโปรเจกต์มากกว่า เธอทำให้เรานึกถึงคนทวงต้นฉบับการ์ตูนหรือนิยายของญี่ปุ่น ส่วนแฟนของ เจ๋ เป็นตัวแทนของคนในอาชีพข้าราชการซึ่งถูกนำมายั่วล้อเบาๆ สำหรับ พี่เป้ง เป็นตัวแทนของเหยี่ยวร้ายในสังคมการทำงานที่เปลือกนอกดูเป็นมิตร น่านับถือ ทว่าเบื้องหลังคอยเอาเปรียบ จ้องหาประโยชน์จากคนอื่นตลอด
ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ดูหนัง ช่วงแรกมีดนตรีประกอบที่โดดเด่นด้วยเสียง กลอง สแนร์ กับ เครื่องเป่า ฟังแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Birdman ทันที สร้างจังหวะเข้ากับความคิดในหัวของ ยุ่น แบบลงตัว หนังมีลายเซ็นต์ของ เต๋อ ชัดเจน ทั้งมุมกล้องแบบ Hand-Held ฉาก Long take เจ๋งๆ ตัวละครตลกหน้าตาย และ ซีนตลกร้าย มีการซ่อนแมสเสจต่างๆไว้กับตัวละครและฉาก อาทิ เสื้อยืดของยุ่น
โปสเตอร์วินดีเซลในยิม พี่สุชาติ วินมอเตอร์ไซด์ประจำตัวของเจ๋ แบ็คกราวด์ศาลเจ้าพ่อที่มีคนมาถวายม้าลายในฉากที่ ยุ่น ยืนคุยกับ หมออิม ตอนท้ายหนังพูดถึงความสุขในชีวิต แม้จะใหญ่เกินตัวไปสักหน่อยทว่าก็มีความกล้านำเสนอในแนวทางที่แปลกใหม่ ชอบที่หนังทำให้ตุ่มผื่นเป็นเหมือนเพื่อนของยุ่น มันคือสิ่งที่ทำให้เขาได้พบหมออิม เขายอมฝืนกินยาที่ทำให้เสียงาน แต่ก็ไม่อยากหาย ขณะที่ยุ่นก็คืองานของหมออิมเช่นกัน การทำให้เขาหายป่วยเป็นหน้าที่ของเธอ จุดนี้คือความย้อนแย้งซับซ้อนที่ตัวละครต้องเผชิญ
ซันนี่ เล่นดีมาก ดูเป็นตัวเองที่สุดในหนัง กับการแสดงอารมณ์ที่หลายหลาย การพากย์เสียงในหัวก็โดดเด่น ที่สำคัญเขาทำให้คนดูเชื่อว่าเป็นกราฟฟิกมืออาชีพจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำท่าจับปากกาหรือขยับเมาส์ไปมา ใหม่ ดาวิกา ต่างจากเรื่องที่ผ่านมา

รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์

 แม้การแสดงจะดูเป็นธรรมชาติ แต่ยังไม่สามารถทำให้ผู้ชมเชื่อได้ว่าเธอเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลรัฐ(เอกชนพอไหว) ทว่าข้อดีก็คือเธอมีความเข้าขากับซันนี่ การดีเบตกันของ ยุ่น กับ หมออิม ในคอกแคบๆจึงดูสนุก ราวกับเป็นการถกเถียงกันของ เด็กสายศิลป์ กับ เด็กสายวิทย์ หรือระหว่าง อารมณ์ กับ เหตุผล
รีวิวหนัง ฟรีแลนซ์
พวกเขาเจอกันด้วยโรคประหลาด การมาพบกันทุกเดือนยาวนานเกือบปีจึงไม่น่าแปลก แน่นอนคุณคงแอบสงสัยว่า คนไข้ หมอ หรือทั้งคู่ จงใจเลี้ยงไข้เพื่อที่จะได้พบกันอีก บอกยากว่าใช่ความรักหรือไม่ เหล่านี้เป็นความโรแมนติกน้อยๆที่ซ่อนอยู่ในความจริงจังของหนัง อีกคนที่เด่นคือ วิ วิโอเลต ในบท เจ๋ เคมีของเธอเข้ากับ ซันนี่ สุดๆ เป็นคู่หูการทำงาน คู่ซี้ พี่น้อง ที่บางทีเราก็อดคิดไม่ได้ว่า ยุ่น มอง เจ๋ ในฐานะอื่นบ้างรึเปล่า
หนังมีการนำเสนอแบบราบเรียบ ดำเนินเรื่องไม่หวือหวา ออกแนวเหงาๆ ภาพรวมเป็นหนังอินเตอร์มากๆ ประสบการณ์ร่วมในบางฉากอาจเชื่อมโยงผู้ชมได้ ถึงจะดูไม่ยาก แต่มันก็ไม่ได้แมสขนาดเข้าถึงคนทุกกลุ่มหรือทำให้ผู้ชมทุกคนเข้าใจเนื้อหาได้ทั้งหมด สิ่งที่ชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นแนวคิดการหาสมดุลของชีวิตที่ คุณสามารถมีความสุขกับการทำงาน ไปพร้อมๆกับมีความสุขในการใช้ชีวิตได้
พูดถึงหนังจากค่าย GTH หลายคนคงให้คะแนนความน่าดูของหนังครึ่งใจไปแล้ว อีกครึ่งหนึ่งไปเอาในโรงภาพยนตร์ ยิ่ง “ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” เป็นหนัง GTH เรื่องแรกของปี 58 หลายคนคงวางแผนที่จะไปดูแน่ๆ
นอกจากชื่อ GTH ที่คนวางใจฝีมือของค่ายนี้แล้ว ตัวของนักแสดงนำก็เรียกแขกได้ไม่แพ้กัน แน่นอนว่าเรื่องความฮาแบบหน้าตาย เป็นความถนัดของพระเอก ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ แถมงานนี้ยังได้นางเอกพันล้าน ใหม่ ดาวิกา มาเสริมทัพกลับยิ่งเพิ่มความน่าดูเข้าไปอีก
คนเรา “อดนอน” ได้นานแค่ไหน? ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร…การทำงานของร่างกายก็มีลิมิตของมันเอง ขีดจำกัดของร่างกายจะคอยเตือนเรา ภูมิต้านทานต่างๆ ย่อมลดลงหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ “การอดนอน” แน่นอนว่าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากอดนอน แต่ถ้าจำเป็นก็เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ มันแค่อดนอนไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทำบางสิ่งให้สำเร็จ… แต่จะมีกี่คน “บ้างาน” จนอดหลับอดนอนเป็นวันๆ เหมือน “ยุ่น” (ซันนี่) พระเอกของเรื่อง ที่เหมือนแยกความคิดและจิตใจออกจากร่างกาย ที่กะจะสั่งให้มันทำอะไรก็ได้
“ไม่นอนแค่ไม่กี่วันไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่ถ้าไม่มีงานนี่สิจะตาย” ดูหนังออนไลน์ ความคิดที่คนไม่บ้างานจะคิดไม่ออกจริงๆ
ตัวละคร “ยุ่น” คือผู้ชายบ้างาน(หนักมาก) คนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่กับการทำงานเป็นจุดประสงค์หลักของชีวิต แต่เมื่อร่างกายเกิดความผิดปกติคือมี “ผื่น” ขึ้นตามตัวทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเขาลดลง ตัวยุ่นจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้ ต้องไปหาหมอรักษาให้หาย
หมออิม (ใหม่ ดาวิกา) หมอเจ้าของไข้ เจอหน้าก็ตรวจตามหน้าที่ แต่สิ่งที่หมอสั่งนั้น มันไม่เอื้อต่อการทำงานของตัวยุ่นเลย การรักษาผื่นครั้งนี้ยืดเยื้อกินเวลานานจนความรู้สึกของใครบางคนเปลี่ยนไป พร้อมกับผื่นที่เริ่มหาย… นั่นหมายความว่าการรักษาครั้งนี้จะต้องสิ้นสุดลง ซึ่งจะทำให้หมอและคนไข้ไม่ได้เจอกันอีก
ความรู้สึก “เกิน” หมอและคนไข้ของยุ่น ทำให้เขารู้สึกเหมือนคนอกหัก ที่ต้องทำอะไรบางอย่างให้ลืมหน้าหมออิมไป เมื่อยุ่นได้โปรเจคใหม่ซึ่งเป็นเหมือนฝันที่รอคอย บวกกับความไม่อยากคิดมาก การอดนอนครั้งนี้จึงทำลายสถิติร่างกายของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้ต้องสูญเสียมันไปตลอดกาล
ฟรีแลนซ์ฯ อาจไม่ใช่หนังที่โดนใจคนทุกวัยที่เดินเข้าไปดู แต่กับบุคคลที่ “งานคือชีวิต” หนังเรื่องนี้จะสะท้อนตัวตนของคุณได้เป็นอย่างดี คนทำงานจะต้องมีโมเม้นท์ที่ย้อนกลับมามองตัวเองแน่ๆ ว่าเราทำงานจนไม่คิดถึงตัวเองแบบในหนังหรือเปล่า สิ่งที่แลกกันมันคุ้มจริงๆ หรือ ถ้าหากวันหนึ่งเราน็อคคาโต๊ะทำงาน จะมีคนมาเจอเราหรือเปล่า หลายความคิดพุ่งเข้ามาในหัว มันแน่นอนอยู่แล้วว่างานนั้นสำคัญแต่ร่างกายเรานี่แหละสำคัญที่สุด คนเราไม่ได้ฟื้นจากความตายทุกคน ใช้ชีวิตให้พอดี ให้ชีวิตได้มีวันต่อๆ ไปไม่คุ้มกว่าเหรอ?
บทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะเรียลไปไหน… พูดกันแบบที่เราๆ พูดกันอยู่ทุกวันนี่แหละ เสน่ห์ของบทพูดที่เข้าถึงได้ง่ายเป็นการส่งสารแบบตรงๆ ถึงคนดู ไม่ต้องมานั่งตีความในประโยคหลายรอบ ทำให้อินเนอร์คนดูไหลตามเรื่องราวได้ง่าย
การแสดงของนักแสดงนำอย่างซันนี่, ใหม่ ดาวิกา และ วี ไวโอเล็ต มีความชัดเจนในการเป็นตัวละครอย่างมาก ซันนี่ที่ต้องรับบทหนักทั้งแสดงและพากย์เสียงความในใจก็ส่งอารมณ์ตรงกับความรู้สึกการแสดงของตัวละครอย่างลงตัว ส่วนวี ไวโอเล็ต บทที่โตเกินวัยของตัวเองแต่ก็ทำออกมาได้ดีมาก ส่งต่อมุขกับซันนี่ได้ไหลลื่น เหมือนนั่งดูสองพี่น้องคุยกันจริงๆ มุกในหนังยังคงความฮาตามแบบฉบับซันนี่ที่คนดูจะไม่ผิดหวัง คุณจะยังได้หัวเราะลั่นในโรงแน่นอน แต่เสียดายที่มันไม่ได้หัวเราะตลอดทั้งเรื่องเหมือนหนังยี่ห้อ GTH ที่ผ่านๆ มา
ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ผลงานของผู้กำกับ เต๋อ นวพล ที่ขึ้นชื่อถึงความอินดี้ในตัวหนัง ถึงแม้จะมีคำว่า GTH เป็นส่วนประกอบ แต่ความ “หวั่น” ว่าอาจจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องยังมีอยู่ในหัว แต่พอได้ดูแบบไม่ต้องคิดอะไรมากก็รู้สึก “ผิดคาด” ต้องยกนิ้วให้กับการเล่าเรื่องที่เข้าถึงใจ ถึงคนดูจริงๆ