รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O

เรื่องนี้ดูแบบไม่คาดหวังครับ จริงๆ ไม่รู้อะไรเกียวกับเรื่องนี้เท่าไรด้วย แล้วผลที่ได้ก็คือ รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O ไม่เลวครับ ดูได้เพลินๆ

ระหว่างดูนี่ผมนึกถึง “ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน” ขึ้นมาเลย แม้พล็อตจะไม่เหมือน แต่องค์ประกอบหลายอย่างมาทางเดียวกัน ซึ่งสำหรับเรื่องโน้น ผมชอบกว่าที่คิดนะ ทั้งๆ ที่หนังยาวตั้งสองชั่วโมงกว่า แต่ด้วยพลังดารากับตัวบทมันทำให้เราเพลินไปกับหนังได้จนจบน่ะครับ
รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O
ในขณะที่เรื่องนี้ตัวเอกคือ น้ำ (หยก ณัฐปภัสร์) สาวที่โดนแฟนบอกเลิกกะทันหันทั้งที่กำลังจะแต่งงานอยู่แล้วแท้ๆ ทำเอาเธอตั้งตัวไม่ทันและเฮิร์ทไปพักใหญ่ๆ เลยครับ
แล้วในเวลาต่อมาเธอก็ได้พบว่าตนเองมีผู้ชาย 3 แบบ 3 สไตล์เข้ามาอยู่รอบตัวเธอ คนแรกคือ ด๊อก (โทนี่ รากแก่น) เพื่อนสนิทที่เป็นกำลังใจให้เธอเสมอ และทำท่าว่าจะมีใจให้เธอด้วย คนที่สองคือ โอม (อนันดา เอเวอร์ริงแฮม) เพลย์บอยรักสนุก และคนที่สามคือ โจ (นาวิน ต้าร์) ผู้ชายสุขุมผู้แสนดี
จากนั้นก็คงพอเดาออกน่ะนะครับ ตัวน้ำเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอชอบใครกันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือเธอต้องการพาใครสักคนไปงานแต่งของแฟนเก่า (ที่กำลังจะแต่งกับคนอื่น) ให้ได้
หนังเรื่องนี้ผมชอบการแสดงของอนันดาครับ พี่แกไปได้ลื่นทุกรอบ จะบทแบบไหนพี่เขาสามารถจัดสรรลีลาของตัวเองให้เหมาะได้เสมอ ในเรื่องนี้พี่แกถือเป็นสีสันที่ดีของหนังเลยครับ (หลายฉากที่ฮาและลื่นมากๆ ก็เพราะพี่แกนี่แหละ)
รีวิวหนังไทย ในขณะที่โทนี่ก็เล่นได้ดีเหมือนเดิมกับบทผู้ชายง่ายๆ จริงใจ รายนี้ก็ถือเป็นสีสันเหมือนกัน แต่จะต่างจากอนันดาตรงที่ รายนั้นเป็นสีสันแบบโฉบเฉี่ยว ส่วนโทนี่จะเป็นสีสันแบบ Slow But Sure คือดูง่ายๆ ไม่หวือหวา แต่สื่ออารมณ์ให้คนดูได้ดี
ส่วน หยก ณัฐปภัสร์ ก็เล่นได้ดีครับ เพียงแต่อาจจะยังไม่เด่น ความเด่นของเธอจะปรากฏเมื่อได้ดาราหนุ่มมาเสริม แต่ก็ต้องถือว่าเธอเก่งล่ะครับ เพราะตอนประกบกับดารารายอื่น เธอก็ไม่ได้โดนเบียดแต่อย่างใด
รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O
ยอมรับครับว่าช่วงต้น ความสนุกได้มาเพราะอนันดาและโทนี่ ส่วนช่วงกลางๆ ที่เป็นเรื่องของโจ ผมออกจะเฉยๆ (แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพบรรยากาศต่างประเทศในช่วงนั้นดูสวยดี) ก่อนที่หนังจะมาน่าสนใจอีกทีตอนท้ายครับ เมื่อปมได้รับการขมวด และน้ำต้องเผชิญหน้ากับความจริง
ผมชอบบทสรุปของหนังนะครับ อันนี้บอกเลยว่าช่วงต้นที่ว่าชอบ ยังไม่ชอบเท่าช่วงจบ คือมันสรุปเรื่องราวได้ดี มันไม่ได้ลงสูตรว่า Happy หรือ Sad แบบชัดเจน แต่มันเป็นบทสรุปแบบที่เรามักจะเจอกันในชีวิตจริง ที่ไม่ได้จบลงสวยงามแบบเทพนิยายเสมอไป
สาระที่หนังสื่อในตอนท้ายเป็นอะไรที่ผมชอบนะครับ ไม่ว่าจะการพิจารณาว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับคนที่เราคบหาอยู่หรือเปล่า ซึ่งบางครั้งเรามักจะมีกรอบที่ว่า “หากคบเป็นแฟนกับใครแล้ว ก็ควรรักษาสายใยไว้ อย่าเลิกนะ”
แต่บางทีเรากับแฟนก็ไม่ได้เข้ากันได้จริงๆ น่ะครับ บางอย่างที่เราทำไปก็ไม่ใช่ตัวเรา เราต้องฝืนเพื่อทำให้เขาหรือเธอพอใจ ซึ่งหากฝืนมากๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งการลาจากก็ต้องเกิดขึ้น แต่หากลาจากก่อนแต่งน่ะยังพอทำเนา ทว่าถ้าแต่งกันไปแล้ว การจะแยกทางกันนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องสนุก นี่ไม่ต้องพูดถึงตอนมีลูกแล้วเลยนะครับ มันจะซับซ้อนมากขึ้นไปอีกมาก
สาระในหนังจึงชี้ชวนให้เราไตร่ตรองความสัมพันธ์ที่เรามีกับคนรักให้ดีครับ อย่าคิดแค่ว่าคบๆ ไป อยู่ๆ ไปเดี๋ยวก็ชิน เพราะแม้จะมีคนที่ชินได้จริงๆ แต่คนที่ไม่ชินก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
ผมยังชอบอีกหนึ่งบทสรุปในตอนท้ายด้วยครับ (ที่เกี่ยวกับว่าสุดท้ายแล้วน้ำจะเลือกใคร) นี่ก็ดูโอเคดี ไม่ยึดสูตรเกินไป จบแบบที่เป็นไปได้ในชีวิตจริงๆ
ภาพยนตร์เรื่อง คน อก หัก Love H2O ของค่าย โมโน พิคเจอร์ส กำลังฉายอยู่ตามโรงภาพยนต์ขณะนี้ …และทีมมอเตอริ่ง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นางเอกของเรื่อง น้องหยก – ณัฐปภัสร์ ธนาธนมมหารัตน์ ผู้หญิงที่โชดดี ได้เป็นนางเอกเต็มตัวครั้แรก และยังเล่นคู่กับพระเอกรูปหล่อถึง 4 คน ทีเดียว แน่นอนต้องมีสาว สาว หลายคนอิจฉาน้องเขา..ชัวร์
รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O
ก่อนมาเล่นหนัง ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ไปเดินสยาม ไปเจอโมเดลลิ่งไปแคสต์โฆษณา ประมาณปีหนึ่ง แคสต์ไป 30-40 ตัว ไม่ได้เลย…. มันมีจุดให้เราหยุดแคสต์ คือไปตัวสุดท้าย เขาบอกว่ามันอ้วนขนาดนี้ใครจะเรียกให้มา ช่วงนั้นอ้วนมาก เรียนอยู่ ม.ปลาย ก็เลยหยุด ตอนนั้นหนักประมาณ 55 กก. พออ้วนมาก ๆ หนูจะขึ้นหน้า ม.5 เลยหยุดไปสักพัก
ไปเจอพี่คนหนึ่งเหมือนคนพาดาราเข้าสังกัด แต่เขาอยากให้หนูไปประกวด ซุปเปอร์โมเดล ก็เลยลองดู แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสประกวดอีก ทั้งที่เตรียมตัวอย่างดีมาก….. คือเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาจะเบรกก่อนเรียกหนู 15 นาที หนูก็เลยไปเข้าห้องน้ำ กลับมาเขาเลยเลขหนูไปแล้ว อดขึ้นเวที ก็หยุดไป กลับมาเรียน เป็นเด็กเหมือนเดิม
และอยู่ดี ๆ โมเดลลิ่งแรกที่เคยติดต่อ โทรมาบอกว่ามี โฆษณารองเท้านะให้ไปแคสต์ ก็เลยคุยกับคุณแม่ ยังไงดี คืออารมณ์ไม่อยากแล้ว ขี้เกียจไป คงไม่ใช่ทางเรา คุณแม่บอกให้ลองอีกที เผื่อมันเป็นจังหวะ ก็ลองกลับไปดู พอไปแคสต์ครั้งนี้ได้เลย หลังจากนั้นก็มีงานติด ๆ กัน 20 กว่าตัว ช่วงนั้นก็เลยทำงานด้านโฆษณาไป
ดูหนังออนไลน์ หลังจากนั้นมีเพื่อนที่ไปแคสต์ด้วยกัน เขาชวนให้เขามาอยู่ โมโน มาทำพิธีกร ก็เลยลองดู เป็นรายการวาไรตี้ของผู้หญิง เกิร์ลแก๊ง มีไปเที่ยวต่างจังหวัด
ก่อนหน้านี้เคยเล่นหนัง 2 เรื่อง แต่มันหลายปีมาก ซึ่งเรื่องแรกเป็นหนังของพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ชื่อ “ชิงหมาเถิด” เล่นเป็นนางเอก แต่เรื่องนี้เขาจะเน้นไปที่พระเอก เน้นฮา หนูเป็นตัวเสริมและก็หยุดไปมาเป็นพิธีกรเหมือนเดิม หลังจากนั้นมาเล่น “อาร์ท ไอดอล” เป็นหนังแนวอินดี้ เกี่ยวกับศิลปะ เรื่องนี้จะมีตัวเอกหลายคน หนูไม่ใช่ตัวเด่น เป็นรองมากกว่า หนูเป็นคนที่พระเอกมาชอบ แต่ตอนสุดท้ายไมได้คู่กัน

รีวิวหนัง คนอกหัก Love H2O

ทำไมถึงเลือกเรา….ไม่ได้บอกทำไมเลือก เรื่องนี้ตอนแรกเขาไม่เอาคนข้างใน เขาอยากได้คนที่ไม่มีประสบการณ์มากกว่า แต่อยู่ดี ๆ มาเรียกหนู แคสต์ดู หนูก็คิดว่าเผื่อไว้เลือกหรือป่าว และไม่คิดว่าจะได้ แต่อยู่ดีดีได้เฉยเลย ตอนแรกตกใจ ตอนได้ งง อยู่ ได้อย่างไร พี่เขาบอกว่าตอนแคสต์หนูทำได้ดี
2 อย่างที่มันไม่ได้มาพร้อมกัน หนูได้รับบทนี้ก่อน ก็ตื่นเต้นไปรอบหนึ่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันพระเอกเป็นใคร ทิ้งไว้เป็นเดือนเหมือนกันกว่าจะรู้ พอมารู้ ก็ช็อกนิดหนึ่ง เราคงประมาทเน้อถ้าเจอเราควรทำตัวอย่างไร แต่เขาก็มีให้เวิร์กชอป จับคู่ ให้ละลายพฤติกรรมกัน ก็คลายขึ้น
ส่วนเรื่องรถ น้องหยก บอกว่าปัจจุบันขับ BMW ซีรีส์ 3 ชอบเพราะมันใหญ่ดี บวกกับมีความผูกพันกับรถใหญ่ตั้งแต่เด็ก เพราะที่บ้านมีแต่คนตัวสูงกันหมด ก็เลยต้องใช้รถคันใหญ่มาตลอด เคยคิดอยากได้รถเล็กเหมือนกัน ก็ไปลองมาขาติดตรงเข่านั่งไม่สบายรู้สึกอึดอัด
-รถใหญ่ มีหลายยี่ห้อ ทำไมต้อง บีเอ็ม
โดยส่วยตัวชอบบีเอ็มฯอยู่แล้ว มันเป็นรถที่ดูดี ไม่ได้ล้ำมาก ไม่แก่ อย่างเบนซ์ก็สวย แต่ดูแล้วมันเป็นผู้ใหญ่ ก็เลยรู้สึกว่า บีเอ็ม โอเค ไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไป
ก็ยังอยากได้ บีเอ็มฯอยู่ แต่ขอเป็นซีรีส์ 6 เพราะ รู้สึกมอง เห็นแล้วสะดุดตาทั้งคัน ถึงจะดูไม่ออกว่าเป็นซีรีส์ 6 แต่ว่ารถคันนี้วิ่งผ่านจะเหลียวหลังกลับไปมองดูทุกครั้ง …ที่สำคัญซีรีส์ 6 ปราดเปรียวมาก ดีไซน์มันเรียบหรูไม่รู้สึกว่าใหญ่และยาวเกินไป
ดูหนัง ตุ๊กตาหน้ารถสำหรับหนู เป็นคุณแม่ เพราะอยู่ ด้วยกันอุ่นใจสุด ถ้าคนอื่นขึ้นมานั่งด้วยหนูคงเกร็ง
อนาคต อยากทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือทำลิปสติก โดยส่วนตัว ชอบอยู่แล้ว และสะสมมาตลอด เลยอยากเริ่มต้นที่ลิปสติกก่อน ตอนแรกไม่รู้ว่าตัวเองชอบ ไปเปิดดูกล่องที่เก็บลิปสติก ปรากฏว่ามี 40 แท่ง ใช้อยู่คนเดียว สีซ้ำไปซ้ำมา พอเห็นก็ชอบ ใช้แท่งละนิด ดูเนื้อ ดูสีของมัน ก็เลยชอบ ตอนนี้เริ่มขายแล้ว ใช้ชื่อ GLAM ซึ่ง Glamorously แปลว่า มีเสน่ห์
….มีแฟนหรือยัง มีแล้วค่ะ เป็นคนข้างนอกทั่วไป สเปกผู้ชาย อย่างแรกขอสูงไว้ก่อน เพราะหนูสูง 172 เมื่อก่อนสเปกเยอะมาก จะไม่ชอบคนกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืนเป็นคน ธรรมดา ๆ และก็เคยเจอคนแบบนั้น แต่มันก็มีอย่างอื่นที่ไม่เข้ากัน เลยรู้สึกว่าคนแบบนี้ไม่เหมาะกับเราเสมอไป ก็เลยเปลี่ยนสเปกแค่คุยรู้เรื่องก็พอ
สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดจนได้ หลังจากเมื่อต้นปีปลื้มปริ่มกับหนังค่ายโมโนอย่าง 2538 อัลเธอมาจีบ ก็ค่อนข้างคาดหวังพอสมควรกับ คน•อก•หัก Love H2O แม้จะเห็นหน้าหนัง ตัวอย่างหนังก่อนหน้าที่ที่มันไม่ชวนดูเลย แต่ก็คิดว่ามันอาจจะมีอะไรดี แต่ทั้งหมดทั้งปวงพินาศพังทลายเมื่อไปเจอของจริง
คุณเคยฟังรายการวิทยุที่มีผู้หญิงมั่นหน้าสวยเวอร์โทรมาแล้วคุยว่ามีผู้ชายโพรไฟล์ดีดีมารุมจีบแล้วคิดว่าทำไมอีนี่ตอแหลจังไหม นั่นแหละ เรื่องนี้เลย…
เรื่องราวของ น้ำ บก นิตยสาร H2o ที่โดนแฟนชื่อพี่โอ(โย่ง อาร์มแชร์) บอกเลิก แต่เธอต้องทำตัวเข้มแข็ง และพยายามหาผู้ชายไปงานแต่งงานแฟนเก่าในวันที่ 13 สิงหาคมให้ได้ โดยมี ด็อก (โทนี่ราก) เพื่อนสมัยเรียน ที่มาชวนเธอไปทำงานที่เมืองจีน แต่น้ำจะต้องไปเชิญเซเลบหนุ่มเจ้าชู้ที่เคยทิ้งผู้หญิงในงานแต่งไปเมืองจีนด้วยอย่างโอม(อนันดา)
 ซึ่งเมื่อไปถึงเมืองจีนก็มีคนช่วยประสานงานเป็นรุ่นพี่ของด็อกชื่อ พี่โจ(นาวินต้า) มาคอยเทคแคร์ โดยทีมงานและนางเอกไปกันก่อน โดยเซเลบโอมจะตามไป และแปลกมาถึงมากที่สุด ทีมงานเยอะแยะ แต่อีน้ำได้ไปแอ๊วกับนาวินต้า
กับ อนันดา สองต่อสองตลอด ทีมงานหายหัวหมด ดูหนัง 4k และระหว่างทริปในเรื่องนางเอกก็ได้ชวนผู้ชายทั้งสามคนคือ ด็อก โจ และ โอม ไปงานวันที่ 13 สิงหาพร้อมกันหมด ซึ่งผู้ชายทั้งสามตกลง ! จนเป้นที่มาของฉากชุลมุนที่แปลกประหลาด ก็ดูไปยังงงนะว่าอีนางเอกจะไปกลัวผู้ชายสามคนรู้ไปทำไม
สะพรึงค่ะลูก อีนางเอก อีน้ำ อีสวย อีมั่นหน้า อีหน้าเต้าหู้ สวยมากกกกกกก ตามสภาพในรูปเลยจ้า นี่ถ้าไม่รู้อะไร จะคิดว่านางเอกเป็นลูกเจ้าของบริษัทหนังอยากแสดงหนังเป็นนางเอกสนองนี้ดตัวเอง คือหน้าแบบอีนางเอกเนี่ยได้ผู้ชายระดับเอลิสต์ของประเทศมาจีบตั้ง 4 คนไม่ว่าจะเป็น โย่งอาร์มแชร์ , อนันดา,นาวินต้า,โทนี่รากแก่น คือถึงไม่สวยแต่นางต้องมีเสน่ห์
แต่ในเรื่องคือนางเป็นผู้หญิงที่เยอะ น่ารำคาญมากถึงมากที่สุด ขี้โวยวาย มั่นหน้า เวินเวอร์ และเยอะ ฉากที่ตามไปเอาบะหมี่นี่รวยมาจากไหนอีดอก เอาเงินซื้อจักรยานถีบไปเอาบะหมี่จนโดนตำรวจจะจับ นี่ถ้าเราเป็นเซเลบโอม ไม่เอาอีนางเอกแน่ๆ จะกระทืบแม่งซ้ำ แล้วจะเอาบะหมี่โยนให้อีนางเอกแล้วบอกว่ามึงเอาไปยัดตูดมึงเถอะ
นางเอกเคมีไม่เข้ากับพระเอกในเรื่องสักกะคน ถามว่านางเอกเคมีเข้ากะใครที่สุดก็เข้ากับอีเชฟปลาในเรื่องนั่นแหละ ผู้ชายอ้วนๆใจดีๆตลกๆ กับชะนีหน้าเต้าหู้ยี้นิสัยเยอะๆ น่าจะเคมีเข้ากัน
แคแรคเตอร์ความไม่สมเหตุสมผลเยอะมาก จนงงว่าหนังผ่านเอาออกมาฉายได้ยังไง นางเอกนี่ไปง้อเซเลบมาออกทีวี เซเลบนี่คือรวยมาก แต่อีนางเอกเจ้าแง่แม่งอนเบะปากใส่เซเลบ โวยวายแหกปากเสียงดังเหมือนคนไม่มีมรรยาทในการดีลงาน ประสาทแดก
ดูแล้วบอกเลยอีนางเอกแม่งน่ารำคาญฉิบหาย ไม่สวยน่ารำคาญไม่มีเสน่ห์ แต่ในหนังนี่คือเหมือนพรีเซนต์ว่ามีเสน่ห์มากกกก แต่เอาจริงๆมันขัดตาสุดๆ ฉากที่นางเอกปลอมตัวไปเต้นคัฟเวอร์เกาหลีนี่เป็นอะไรที่พจน์อาน๊น พจน์อานนท์ ดูแล้วไม่อยากบอกเลยว่า จบๆเถอะ ตอนบทสรุปจบของเรื่องยิ่งตลก เออ..เอาแบบนี้เหรอวะ
รีวิวผู้ชายบ้าง โทนี่ รากแก่น เล่นดีสุด โอเคสุด ธรรมชาติสุดเค้นอารมณ์ใช้ได้ น่ารักตามเนื้อผ้า อนันดา เฉยๆมากเรื่องนี้แสดงไม่ค่อยดีเลย คือก็ดีตามมาตฐาน แต่มองว่าอนันดาได้มากกว่านี้ นาวินต้า หนอกมาแล้วหน้าแน่นมาก นางควรไปยืนถือครีมขายตามเฟซบุ้คไม่ก้รีวิวทำจมูกรีวิวฉีดโบท็อกซ์อะไรเทือกๆนี้หน้าตาประหลาดไม่หล่อเลย พี่โย่งหล่อสุด แต่บทไม่มีอะไรเลย
สาระที่ได้ประมาณว่านางเอกเป็น บก หนังสือ ตอบปัญหาความรัก แต่เรื่องของตัวเองกลับเอาตัวไม่รอด (เอาจริงๆมันก็คล้ายๆกับชะนีสองคนที่ชอบตอบปัญหาความรักในบ้านเราทางิทยุนะ ที่เรื่องความรักของตัวเองยังเอาตัวไม่รอด
 คนนึงมีสามีเด็ก อีกคนก็มีสามีแต่สามีไม่เคยมาจิ้มเลย) บุคลิกนางเอกมองยังไงก็ไม่ใช่ บก หนังสือ อย่าว่าแต่ บกเลย เป็น AE ยังไม่อยากจะดีลด้วยเลย ไร้เสน่ห์สุดๆ เป็นผู้หญิงน่ารำคาญ น่ารังเกียจไม่อยากอยู่ใกล้
ฉากประเทศจีนสวยงามมาก ดูหนังออนไลน์ 4k น่าไปเที่ยว ลี่เจียง คุนหมิง อะไรเทือกๆนี้โอเคมากๆอยากไปเที่ยวเลย แฟนของนาวินต้าในเรื่องที่ชื่อ เฟยเฟยน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก น่ารักที่สุดในเรื่อง ชวนมองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องนี้เลย คือไปดูเมืองจีนกับน้องเฟยๆก็ยังถือว่าโอเคนะ
สาบานเลยว่าดูหนังจบไม่คิดหาชื่อผู้กำกับเลย ไม่รู้ใครกำกับ