รีวิวหนัง โจ หัวแตงโม
ภาพยนตร์เรื่อง โจหัว แตงโม เป็นภาพยนตร์ไทยแนว คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของเรียว รีวิวหนัง โจ หัวแตงโม กิตติกร ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นจิรายุ ละอองมณี ที่มารับบทเป็น โจ
วัยรุ่นชายเจ้าของร่างอวตารหัวแตงโม เขามีอาชีพรับจ้างสืบหาคนในโลกออนไลน์ว่า ผู้ใช้ User จริง ๆ แล้วตัวจริงเป็นใคร โดยสืบจากเพื่อนของเป้าหมาย แล้วก็เพื่อนของเป้าหมาย แล้วก็เพื่อนของเพื่อนเป้าหมาย

เพื่อหาที่อยู่ในโลกของคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็นำไปเปรียบเทียบกับที่อยู่จริง ก็จะรู้ว่าใครคือผู้ใช้ตัวจริง คนต่อมาคือยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ที่มารับบทเป็น เม็ดฟ้า สาวมากบุคลิก เธอเป็นตัวละครที่สะท้อนตัวตนของคนในยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลาย บางวันห้าว บางวันเปรี้ยว เธอเป็นผู้หญิงที่ยึดติดกับการเป็นสาวกบางอย่าง และวันนึงที่ต้องมาเจอกับโจหัวแตงโม โดยภาพยนตร์เรื่อง โจหัว แตงโม เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2558
อย่าเพิ่งไปตัดสินหนังจากหน้าหนัง โปสเตอร์ หรือตัวอย่างที่มันกากมาก แต่เนื้อในผมขอยืนยันว่า โจหัวแตงโม ไม่ใช่หนังไร้สาระที่ไม่มีอะไรแน่นอน !
ขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่สามารถรีวิวได้ครบถ้วน 100% เนื่องจากได้ไปชมไม่เต็มเรื่องเพราะเข้าสายไปประมาณร่วม 30 นาที เลยปะติดปะต่อเรื่องได้ไม่เต็มร้อย เลยอาจจะพูดได้แค่ภาพรวมนะครับ
โดยส่วนตัว ไอเดียการนำเสนอ “โจหัวแตงโม” ผมขอชมเลยว่าใจกล้ามาก เพราะสภาพของงานกราฟิก CG ในบ้านเรามันยังไม่เอื้อให้หนังเรื่องใดๆออกมาดูดีได้เลย แม้แต่โจหัวแตงดมก็ตามงาน CG แทบจะออกมาเรียกว่าเป็นหนังคัลท์ไปเลย แต่ในแง่ของงานศิลปะสื่อผสม ที่นำเอากราฟิก CG มารวมเข้ากับการแสดง งานภาพยนตร์ ผมว่าเค้านำเสนอออกมาได้ค่อนข้างดีและโดนใจคนที่บ้าออนไลน์จนแทบจะเรียกว่าเป็นผีไซเบอรือย่างผม
โจหัวแตงโม คือฉายาของพระเอกที่เป็นนักสืบออนไลน์ เค้าไปรับงานมาเฟียเยาวราชให้ไปสืบหาเจ้าของฉายา “นักมายากล” ที่ไปโกงเงินมาเฟียเยาวราช โจหัวแตงโมเลยตามไปสืบจนได้รู้จักกับเม็ดฟ้าที่เป็นแฟนสาวของ นักมายากล แต่เนื่องด้วยความผิดพลาดบางอย่าง โจทืำงานไม่สำเร็จ มาเฟียเยาวราชเลยไปจ้างแฮคเกอร์มาตามล่าโจหัวแตงโมอีกที
เรื่องราวของคนในโลกไซเบอร์ ที่น่าจะถูกจริตแค่คนเฉพาะกลุ่ม การนำเสนอด้วยการเอาหัวมุดเข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อตามเจาะข้อมูลแล้วใช้ตัวการ์ตูน กราฟิกนำเสนอแบบภาพที่เหนือจริงและเต็มไปด้วย CG กราฟิก ผมขอชมเลยว่า มันดีมากแม้จะไม่เนียนไม่สวยงาม แต่มันโดนใจและตรงเป้ามาก ฉากไล่ล่า ดนตรีประกอบ ในฐานะคนออนไลน์ พูดเลยตื่นเต้นครับ
การไล่ล่าเอาล่อเอาเถอดในโลกไซเบอร์ผมว่าคนออนไลน์เท่านั้นถึงจะเข้าใจ การแสดงของยิบโซก็ยังเป็นยิปโซแต่ไม่ทำให้หนังเรื่องนี้มีสิ่งแปลกปลอม ส่วนน้องเก้าจิรายุ คือส่วนที่ดีมากอีกส่วนหนึ่งของเรื่อง น้องเก้าหล่อมากหน้าเป้ะมากมีเสน่ห์แต่ขี้ก้างไปนิด แต่ไม่ได้อะไรมาก เพราะแคแรคเตอร์ของโจหัวแตงโมจะดูเนิร์ดๆแบบนี้แหละ

ตอนจบของหนังเดาไม่ยากนัก แต่ไม่ได้ทำให้หนังดูแย่ ระบบคอมพิวเตอร์ในหนังอาจจะดูก่องแก๋งไปนิด แต่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่กับหนัง ตรงกันข้ามผมกลับรู้สึกชื่นชมคุณเรียว ที่ควรจะกลับมาทำหนังวิพากษ์สังคมแบบนี้แหละ ผมชอบมากกว่าสมัยคุณเรียวไปทำคู่กรรม คุณเรียวเหมาะที่จะทำหนังที่สร้างบทขึ้นมาเองแบบนี้แหละ คุรเรียวยังแหลมคมเสมอเวลาทำหนังจิกกัดสังคม
.
รีวิวหนังไทย สรุปถามว่าหนังโอเคไหม ผมว่าโอเคผมพอใจ แต่ผมอยากดูให้มันเต็มเรื่องถึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก แต่ถามว่าควรดูไหม แนะนำว่าต้องลองไปดูเองครับ เลยยังให้คะแนนไม่ได้
โลกโซเชียลทุกวันนี้ไม่ใช่ใบเล็กๆอีกต่อไปทุกอย่างเชื่อมถึงกันหมดเป็นโครงข่ายโยงใยคล้ายกับใยแมงมุม จนบางทีเราอาจจะงงว่า เพื่อนของเราไปเป็น Friend กับคนนั้นได้ยัง? หรือเพื่อนที่เคยหายไปในวัยเยาว์ก็กลับมาพบกันบนโลกโซเชียลอีก
มันจึงเปรียบเป็นโลกเสมือนจริงที่ทุกวันนี้คึกคักยิ่งกว่าตลาดสด แต่ก็นั่นแหละทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดีแฝงตัวอยู่ บนโลกโซเชียลก็เหมือนกัน แต่เราจะรู้ได้ไงล่ะ ว่าคนไหนคือคนทำผิด เพราะบางคนใช้นามแฝง ใช้รูปโปรไฟล์ปลอม ใช้ที่อยู่ลวง งานนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังนักสืบโซเชียลสุดแหวกแนว ” โจหัวแตงโม “
โจหัวแตงโม เป็นอีกร่างอวตาร ของ โจ (เก้า จิรายุ) ผู้มีความสามารถในการซอกแซกสืบเรื่องราวต่างๆ ดูหนังออนไลน์ 4k ซึ่งภารกิจของเขาก็คือตามหาตัวตนของชายที่ใช้นามว่า ‘นักมายากล’ ซึ่งโกงเงินของผู้ว่าจ้างให้ทำเคสนี้ โดยโจต้องใช้ช่องทางโซเชียลต่างๆ ข้อมูล เฟรนด์ รูปภาพในการสืบหาตัวตนที่แท้จริง และอีกหนึ่งเบาะแสก็คือ เม็ดฟ้า (ยิปโซ อริย์กันตา ) นำไปสู่ความสัมพันธ์สนิทสนม และการไขเรื่องราวปริศนาที่ชวนติดตามตลอดทั้งเรื่อง
ด้านการแสดงของเก้า จิรายุ ในบทของโจ และ หัวแตงโม Live Action ตัวของเก้าแสดงออกมาเหมือนกับว่าโจเป็นตัวของเขาจริงๆเลย เกรียน ไหลลื่น ยิ้มเขินๆ และน่ารักมากๆ ติ่งน้องเก้าพลาดไม่ได้เพราะทุกฉากที่หน้าเขาลอยมาจะทำเอาเราเคลิ้มไปหลายนาทีเลย ส่วนสาวติสท์ยิบโซ ก็มีเสน่ห์ เก๋มาก เธอแนวไม่เปลี่ยนจริงๆ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็สร้างสีสันให้หนังมีชีวิตชีวาขึ้นด้วย ค่อนข้างจะเป็นแคสที่ลงตัวผสมกันได้ดี
รีวิวหนัง โจ หัวแตงโม
โจหัวแตงโม ถือเป็นการทำภาพยนตร์ที่ค่อนข้างแหวกแนวจากหนังไทยหลายเรื่อง โดยหยิบเรื่องราวของโซเชียล มาทำให้เป็นรูปธรรมจับต้องสัมผัสได้ด้วยตาจริงๆ เล่าผ่านอนิเมชั่นน่ารัก กวนๆที่ฝีมือถือว่าทำได้ค่อนข้างโอเค ส่วนตัวหัวแตงโม ก็ใช้เทคนิค Live Action ใช้ตัวของเก้า จิรายุ แสดงจริงๆ ขยับตามจริงๆ

ซึ่งเป็นเทคนิคสร้างที่ออกมาลงตัวมากกับบทภาพยนตร์ สิ่งหนึ่งที่ชอบสำหรับโจหัวแตงโม คือเป็นหนังที่บทภาพยนตร์มีมิติมาก ไม่ใช่ดูแล้วจบเพื่อความบันเทิง แต่ยังให้เห็นแง่มุม เหน็บแนมสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน การใส่ตัวตนในชีวิตจริงลงไปในโลกโซเชียล ประเด็นดราม่าต่างๆ อารมณ์ของคนเล่นโซเชียล การแชร์ การเมนท์ ที่จัดเต็ม แต่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพกราฟฟิค
ครั้งนี้ถือว่า เรียว กิตติกร ผู้กำกับภาพยนตร์มีความกล้าเป็นอย่างมากในการแหวกขนบหนังไทยแบบเดิมๆ เสนอแนวทางใหม่ๆให้กับคนดู ดูหนัง 4k และ อยากให้คนดูหนัง อย่าตัดสินเพียงหน้าหนังเท่านั้น เพราะ โจหัวแตงโม มีความแพรวพราวและหมัดเด็ดที่พร้อมปล่อยตลอดทั้งเรื่อง เล่นเอาคนดูจุกไปเลย หากจะดูในแง่บันเทิงอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้ม แต่ถ้าเสพความล้ำของบทหนังแบบใหม่ ค่อนข้างจะสร้างไอเดียต่อยอดให้กับวงการหนังไทยได้เลย
โจหัวแตงโม พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ ฉีกกรอบหนังหลายเรื่องที่คุณเคยดู แล้วคุณจะรู้ว่า โลกโซเชียลมันอยู่ยาก ต้องระมัดระวังให้ดี ร่วมไขปริศนาไปกับโจหัวแตงโมได้แล้ววันนี้ เช็ครอบและจองตั๋ว ที่นี่
ถ้าว่ากันถึงแนวคิดและพล็อตหลักแล้วผมว่าน่าสนใจนะ มันคือการเอาเรื่องของนักสืบออนไลน์ หรือแฮ็คเกอร์สายขาว (White Hat) มาผูกขึ้นเป็นเรื่องราว โดยให้ตัวเอกไล่สืบหาคนผ่านเน็ต ซึ่งตัวเอกที่ว่าก็คือโจ (จิรายุ ละอองมณี) นั่นเองครับ
พล็อตหลักคือโจต้องตามสืบว่าใครคือคนใช้ร่างอวตารนามว่า “นักมายากล” ไปหลอกขโมยเงินคนอื่น ซึ่งทั้งเรื่องก็ว่าด้วยการออกโรงตามสืบของโจทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ โดยยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งมีอุปสรรคและเรื่องวุ่นๆ มาขัดขวางการทำงานของเขามากขึ้นเท่านั้น
ครับ พล็อตน่ะโอเค หรือการเอาเรื่องของแฮ็คเกอร์ที่ต้องปะทะต่อสู้กันผ่านโลกออนไลน์นั้นก็เป็นไอเดียที่เข้าท่า ยิ่งการดัดแปลงฉากการประมือระหว่างแฮ็คเกอร์ออกมาในรูปแบบของการ์ตูนหรือสถานการณ์จำลอง มันก็ยิ่งเข้าท่าขึ้นไปอีก เพราะถ้าจะให้ตัวละครมานั่งเคาะแป้นแต้กๆ ตั้งแต่ต้นจนจบมันคงเป็นหนังที่น่าเบื่อน่าดู
ดูหนังออนไลน์ ดังนั้นการผสมความเป็นการ์ตูนและแฟนตาซีลงไป ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะเลยครับ
แต่กระนั้นแม้หลายอย่างจะน่าสน แต่ตัวบทเองยังไม่แน่นพอ ความน่าติดตาม หรือชวนลุ้นชวนสนใจมันเลยไม่ไหลมาสักเท่าไร และในบางจังหวะนั้น ลีลาการนำเสนอแบบแฟนตาซีก็มีส่วนทำให้หนังดูเล่นมากขึ้นจนลดทอนความเข้มของเรื่องราวลงไปพอสมควร
ว่าง่ายๆ คือพล็อตตั้งต้นน่ะดีครับ เทคนิคที่นำมาใช้ก็ถือว่าเลือกได้เหมาะ แต่พอเอามาใช้จริงแล้ว ดูหนัง สัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆ มันยังไม่เข้ากันนัก ไม่มากไปก็น้อยไป อะไรประมาณนี้
นอกจากนี้หากใครไม่คุ้นเคยกับโลกออนไลน์ก็อาจไม่เก็ทในบางประเด็นครับ หรือบางคนอาจงงเลยก็มี ซึ่งอันนี้ไม่แปลกครับ ก็ลองว่าเราไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนี้แล้ว การจะงงหรือไม่เข้าใจย่อมเกิดขึ้นได้ เพราะจะว่าไปหนังก็ออกมาแนวเฉพาะทางเฉพาะกลุ่มอยู่เหมือนกัน
กระนั้นผมก็ชอบในการกัดสังคมของหนังนะ อย่างการก่อประเด็นดราม่า, การสร้างเรื่องเพื่อถล่มตัวตนบนโลกออนไลน์ของใครสักคน, การที่คนในโลกออนไลน์บางกลุ่มพร้อมจะตามแห่กระแส ณ ตอนนั้นโดยใช้อารมณ์อันเข้มข้นเข้าว่า ทั้งที่บางครั้งเราก็ไม่ได้รู้จริงอะไรหรอกครับ เพียงแต่เขาด่าใครมาก็ด่าต่อ แล้วก็เอาทัศนคติกับประสบการณ์ของเราคูณมันเข้าไป เล่นเอาบางคนพร้อมจะฆ่าหรือทำร้ายคนอีกคนในโลกออนไลน์ เพียงเพราะได้ข้อมูลเพียงด้านเดียวเท่านั้น (แล้วไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงด้วย)
โดยส่วนตัวแล้ว ก็อยากให้หนังสไตล์นี้ออกมาเรื่อยๆ เหมือนกัน ไม่ได้หมายถึงหนังแนวๆ นะครับ แต่หมายถึงหนังที่เอาพฤติกรรมชวนขำและชวนพิจารณาของคนไทยในโลกออนไลน์มาถ่ายทอด เพราะบางทีมันก็เป็นเหมือนกระจกสะท้อนอะไรบางอย่างให้สังคมเหมือนกัน (และถ้าจะให้ดี ขอให้หนังมันออกมาลงตัวและสนุกด้วย จะขอบคุณมากๆ ครับ)
สรุปว่าถ้าใครคุ้นเคยกับโลกออนไลน์ก็ลองลิ้มได้ครับ แต่หากใครรู้ตัวว่าไม่คุ้นและงงกับเทคโนโลยีบ่อยๆ หากจะข้ามไปก็ไม่ว่ากันครับ เพราะผมเองขนาดสนใจเรื่องนี้ บางทียังงงเลย 555