รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส

เมื่อฝีมือไม่ตอบโจทย์ความดัง หมา (ผดุง ทรงแสง) เลยตัดสินใจทำศัลยกรรมกับ ขจร (กฤษณ์ บุญญะรัง)กะเทยเพื่อนรักสมัยเด็กแต่เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นดังคาด ขจรจึงจัดฉากให้หมากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส ในโลกโซเชียลเพื่อหวังให้ได้ใจชายที่เขาหลงรักแต่ในใจของหมามีแค่เฟื่องฟ้า(สุธีวัน ทวีสิน)

สาวที่หมาหลงรักมานาน โชคร้ายที่เธอต้องตายจากอุบัติเหตุรถชนทำให้หมาได้แค่เดินทางไปงานศพของเธอที่บ้านเกิด แต่พอถึงท่าเรือลุงโมก (ไพฑูรย์ พุ่มรัตน์) กลับบอกว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะย้อนอดีตเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดและช่วยชีวิตเฟื่องฟ้าได้แต่ห้ามทำมิติเวลายุ่งเหยิงด้วยการพูดคุยกับใคร แล้วสุดท้ายเขาจะทำสำเร็จหรือไม่
        ยอมรับเลยว่าตอนเห็นเรื่องย่อและตัวอย่างภาพยนตร์ของดอกฟ้าหมาแจ๊สทำให้ผมคาดหวังกับการกลับมาของ ยุทธเลิศครั้งนี้มากมายทีเดียว ซึ่งส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างประทับใจและอยากเห็นยุทธเลิศลองกลับมาทำหนังอย่าง มือปืน/โลก/พระ/จันทร์ อีก ดังนั้นรูปลักษณ์ของ ดอกฟ้าหมาแจ๊ส เลยถูกผลิตจากแนวคิดที่ใกล้เคียงกันทั้งการเล่าถึงความผิดพลาดในอดีต การนำตลกมารับบทดราม่า เสื้อผ้าและองค์ประกอบศิลป์แบบหลุดโลก สนุกสุด ๆ ไปเลย
 กระทั่งการเดินทางด้วยเรือเพื่อกลับไปแก้ไขเรื่องราวที่ผิดพลาดโดยเปรียบสายน้ำเหมือนวัฏสงสารคล้ายคลึงกัน รวมไปถึงเพลงดังยุค 90 ของอาร์เอสโปรโมชั่นทั้ง ตะลึง ของ อนันต์ อันวา, เกรงใจ ของ แรพเตอร์ หรือ ไม่อาจเปลี่ยนใจ ของ เจมส์ เรืองศักดิ์ แต่ผลลัพธ์กลับได้หนังที่พยายามพูดเรื่องซับซ้อนแต่อธิบายไม่เป็นแถมยังสับสนในตัวเองว่าจะเป็นหนังตลกที่จิกกัดการเมือง สังคมโซเชียล หรือจะเป็นหนังไซไฟย้อนเวลา
มิหนำซ้ำตัวหนังยังถูกบอกเล่าอย่างอืดอาด-กว่าจะเข้าประเด็นนี่หายใจทิ้งไปเป็นถังและยิ่งผิดหวังเมื่อท้ายที่สุด เมื่อแต่ละฉากแทบหาความสำคัญของมันไม่เจอ เลยพลอยทำให้ความตลกของมันลดน้อยจนกลายเป็นความน่ารำคาญแทน มิหนำซ้ำเพลงดังที่หนังเอามาใช้ก็ไม่ได้มีผลหรือสอดคล้องกับเรื่องราวแต่อย่างใด
   เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับตัวหนังก่อนอื่นต้องบอกว่าดอกฟ้าหมาแจ๊สฉบับที่ฉายโรงนี้ถูกตัดต่อในความยาว 86 นาที จากข้อมูลที่ได้รับมาคือหนังต้นฉบับมีความยาวร่วม 2 ชั่วโมง เลยพอทำให้เห็นถึงแนวคิดหลายอย่างที่หนังพยายามพูดถึงแต่เหมือนถูกตัดให้ข้ามๆไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับเผด็จการทหารที่ท้ายที่สุดก็เหลือแค่ชุดกับอุปกรณ์ตกแต่งฉากที่ไม่ได้สื่อให้เห็นถึงการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองแต่อย่างใด
รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส
ดูหนังออนไลน์ มิหนำซ้ำพอหนังพยายามยัดเยียดการวิพากษ์วงการบันเทิงเข้ามาด้วยเลยทำให้ตัวหนังดูมั่วซั่วจนจับประเด็นหลักไม่ถูกแต่กระนั้นเมื่อเราต้องตัดสินจากผลงานสุดท้ายที่ออกมาก็ต้องยอมรับว่านอกจากเนื้อความที่ถูกตัดออกไปแล้ว แผลใหญ่ที่สุดของหนังก็หนีไม่พ้นการพยายามจับหลายประเด็นโดยเฉพาะการวิพากษ์การทำศัลยกรรมที่ดูจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหมาทำศัลยกรรมผิดพลาดแล้วถูกขจรหลอกว่าตนเป็นคนดังด้วยการซื้อไลค์และฟอลโล่วให้แล้วหมาได้รับบทเรียนตรงไหน เพราะยังไม่ทันไรหลังขจรถูกหมาหักอกเขาก็ต้องเดินทางไปที่เกาะเพื่อร่วมงานศพ จนประเด็นวิพากษ์การทำศัลยกรรมและความดังในโลกโซเชียลที่หนังพยายามปูพื้นตั้งแต่เปิดเรื่องถูกทิ้งไปดื้อๆ
ไม่เพียงเท่านั้นแนวคิดเรื่องกรรมที่ยุทธเลิศเน้นย้ำในผลงานเขาซ้ำๆซากๆเรื่องนี้ก็ยิ่งเลอะเทอะเพราะพอหนังมาแนวเหนือจริงด้วยเรื่องการย้อนเวลาแต่ไม่มีฉากใดที่อธิบายความสัมพันธ์ตัวละครมากพอก็ยิ่งทำให้คนดูถูกทิ้งไว้กับความงงงวยว่าตัวละครทำกรรมอะไรไว้เคยมีความขัดแย้งอะไรกันมาเพราะอยู่ดีๆเราก็เห็น ขจร แปลงเพศให้หน้าเหมือนเฟื่องฟ้าเพื่อมาฆ่าเฟื่องฟ้าอีกทีทั้งที่เป็นเพื่อนรักกันมานานหรืออยู่ดีๆขจรก็แย่งเฟื่องฟ้าไปจากหมาแบบไม่มีสาเหตุจนหนังออกมางงงวยเกินเยียวยาจริงๆ
         ก่อนจะต่อว่าหนังมากกว่านี้เรื่องเดียวที่พอชมได้คือสายตาแบบเด็กเรียนศิลปะที่ยุทธเลิศดูจะช่ำชองในการถ่ายทอดวางเฟรมภาพได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะฉากที่ถ่ายให้เห็นสถาปัตยกรรมต่างๆ แต่นอกจากนั้น (เอาแล้วไง) สิ่งที่คนดูจะได้พบคือภาพของหนังบางช็อตที่ต่อเนื่องกันโดยเฉพาะซีนในร้านกาแฟก่อนฟ้าถูกรถชนกับซีนภายนอกที่แสงออกมาไม่เท่ากันจนชวนสงสัยว่าหนังละเอียดกับขั้นตอนการแก้สีมากเพียงใด
แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่างานเสียงที่เข้าขั้นหายนะเพราะนอกจากฉากร้องเพลงที่เสียงไม่ตรงกับปากแบบเห็นได้ชัดแล้วเสียงพูดหลายช่วงยังมีปัญหาเหมือนไปอัดเสียงกันในตุ่มน้ำฟังแล้วอู้อี้จนน่ารำคาญมาก ซึ่งการทำหนังโดยไม่มีความประณีตละเอียดลออไม่เพียงส่งผลร้ายต่อตัวหนังเองเท่านั้นเพราะคนดูหนังไทยเองก็หมดศรัทธาจากปัญหาด้านเทคนิคแบบนี้ทั้งที่สามารถแก้ไขในขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่นให้ออกมาสมบูรณ์ก่อนฉายได้
สรุปแล้วถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งสำหรับการกลับมาของ ยุทธเลิศ กับหนังพลอตแปลกแหวกแนวของเขาด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนงงงวย มุกตลกฝืดเฝือและปัญหาเทคนิคอันน่ารำคาญดังที่กล่าวมา
เรียกว่ามีผลงานออกมาให้แฟนหนังได้ชมทุกปี สำหรับผู้กำกับมากฝีมือ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค เช่นเดียวกันกับปีนี้ที่ได้ส่ง ดอกฟ้า_หมาแจ๊ส ที่มีสโลแกนว่าย้อนอดีต กรีดหัวใจ โดยได้พระเอกตลกร้อยล้าน แจ๊ส ชวนชื่น มาแสดงนำ พร้อมด้วย ใบ เตย อาร์สยาม, บี้ เดอะสกา, โจ๊ก โซคูล และรวมดาวตลกไว้อีกมามาย ซึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดอกฟ้า_หมาแจ๊ส ว่าด้วยเรื่องราวของ หมา เด็กหนุ่มจากเกาะสีชังผู้เข้ามาสู่เมืองกรุงเพื่อค้นหาตัวตนและเป้าหมายที่แท้จริงนั่นก็คือการได้เป็นนักเขียนผู้มีชื่อเสียง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่าถ้าหน้าตาไม่ดี เขาทำดีได้แค่เป็นเด็กเสิร์ฟในผับแห่งหนึ่ง แล้วคืนหนึ่ง หมาก็ได้เจอกับ ขจร เพื่อนเล่นสมัยเรียนอยู่ที่เกาะ จากลูกเจ้าของค่ายมวยบนเกาะ ขจรกลายเป็นเจ้าของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามผู้ร่ำรวย และได้ยื่นโอกาสทองให้หมานั่นก็คือการทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าโดยไม่คิดเงินหมาแม้แต่บาทเดียว
เมื่อหมาฟื้นขึ้นมาจากห้องผ่าตัดกลับพบว่าใบหน้าของเขานั้นไม่ได้เหมือนกับใบหน้าของไอดอลที่เขาอยากจะเป็นอยากจะเหมือน เขาคิดว่ามันอัปลักษณ์ แต่ขจรกลับบอกนี่คือใบหน้าที่อินเทรนด์ที่สุดของเกาหลี ซึ่งทันทีที่เขาโพสต์รูปลงอินสตาแกรม ยอดไลก์ยอดฟอลโลวก็เพิ่มขึ้นหลักแสนในชั่วข้ามคืน มันทำให้หมาพอฝืนทนอยู่กับใบหน้าอันผิดรูปนั้นได้ แต่ถ้าเขาสามารถย้อนเวลาได้เขาไม่มีวันจะทำศัลยกรรมแบบนี้เด็ดขาด
ดูหนัง แล้วหมาก็ได้เจอกับ ลุงโมก ลุงเจ้าของเรือประมงแห่งเกาะสีชังในวันที่เขาจะกลับไปร่วมพิธีศพของ เฟื่องฟ้า อดีตรักวัยเรียนคนเดียวของเขาที่มาเสียชีวิตจากการถูกรถชน ลุงโมก บอกกับหมาว่า เฟื่องฟ้ายังไม่ถึงที่ตาย ชีวิตเธอยังไม่ถึงฆาต แต่มันเกิดความผิดพลาดบางอย่างกับห้วงเวลา และหมาเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาดนั้นได้
รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส
เมื่อได้ชมภาพยนตร์จนจบแล้วจะเห็นว่า สิ่งที่ตัวหนังต้องการจะสื่อก็ยังเป็นเรื่องราวของประเด็นทางสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่เด่นชัดคือเรื่องการศัลยกรรม สถานะทางสังคม และเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง จนเกิดเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่อง ซึ่งจะเห็นว่างานของ ต้อม ยุทธเลิศ มักจะแฝงประเด็นเหล่านี้ไว้ในหนังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหนังผี หนังตลก หนังแอ็คชั่น และกลายเป็นเอกลักษณ์ที่หนังทุกเรื่องของเขาต้องมี
แม้ว่าหลายคนจะผิดหวังกับผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับคนนี้ แต่เชื่อว่าบางคนก็ยังคงเป็นแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น ติดตามผลงานมาตลอด อย่างในเรื่อง ดอกฟ้า_หมาแจ๊ส ซึ่งเป็นเรื่องราวการย้อนอดีตเพื่อกลับไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พล็อตเรื่องก็ยังไม่ได้มีความแตกต่างไปจากหนังรักเรื่องอื่นๆ ในส่วนของการดำเนินเรื่องค่อนข้างกระชับ เพียงแต่ยังมีจุดที่ทำให้สับสนอยู่บ้าง เพราะเป็นการย้อนอดีตสลับไปมา จนทำให้งุนงงพอสมควร

รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส

รีวิวหนังไทย ทางด้านการแสดงสำหรับ ใบเตย อาร์สยาม ที่ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกก็ทำออกมาได้ดีพอสมควร ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น แต่ด้วยอารมณ์ของหนังที่ไม่ได้ออกแนวหวือหวาก็ช่วยส่งให้นักแสดงโชว์ฝีไม้ลายมือออกมาได้ค่อนข้างประทับใจ ใส่วนของพระเอกอย่าง แจ๊ส ก็ดูจะเข้าขากับเน็ตไอดอลอย่าง บี้ เดอะสกา ได้เป็นอย่างดี จังหวะต่างๆ ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดจนเกินไป และสิ่งที่ดีงามของเองนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เชื่อว่าคงทำให้หลายคนอดคิดถึงบรรยากาศในยุคก่อนๆ ไม่ได้
ในส่วนของความดราม่าเรียกว่าไปไม่สุด ความตลกร้ายที่คาดหวังไว้ว่ามันน่าจะดีกว่านี้ทำออกมาได้ไม่ค่อยถึงใจ แต่ต้องชื่นชมในส่วนของโปรดักชั่น ทำออกมาได้ไม่เสียชื่อ ต้อม ยุทธเลิศ จริงๆ ถือเป็นการยกระดับคุณภาพของหนังไทยไปอีกขั้น เรื่องขององค์ประกอบภาพก็สวยงาม หากใครที่เรียนเกี่ยวด้านภาพยนตร์ก็ควรไปดูไว้เพื่อเป็นกรณีศึกษา ซึ่งน่าจะทำให้เรียนรู้องค์ประกอบหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี
  ดอกฟ้า หมาแจ๊ส เป็นภาพยนตร์ตลกดราม่าที่เล่าเรื่องของ หมา เด็กหนุ่มที่เพิ่งทิ้งฝันจากการอยากเป็นคนเขียนบทเพื่อความฝันใหม่ที่อยากเป็นดีเจ แต่ด้วยหน้าตาไม่หล่อจึงแทบเป็นไปไม่ได้ จากนั้นเขาก็บังเอิญได้พบกับ ขจร เพื่อนสมัยเด็กที่ตอนนี้เป็นเจ้าของคลินิกศัลยกรรม
 หมาโดนยื่นข้อเสนอให้ทำศัลยกรรมซะด้วยมิตรภาพที่มี เขาจึงได้หน้าใหม่มาที่แสนแปลกประหลาด ชีวิตเหมือนจะดีขึ้นจนกระทั่งเขาค้นพบว่า ฟ้า คนรักของเขาในอดีตเพิ่งเสียชีวิตไป เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปงานศพที่เกาะบ้านเกิดของเขา ก่อนจะพบ ลุงโมก คนที่จู่ๆก็บอกว่าจะพาเขาย้อนอดีตกลับไปได้ เพื่อไปแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดเอาไว้
รีวิวหนัง ดอกฟ้า หมาแจ๊ส
    การเล่าเรื่องสำหรับเรื่องนี้เหมือนพาเรากลับไปชมการเล่าเรื่องแบบหนังก่อนหน้าของพี่ต้อม ยุทธเลิศ อย่าง มือปืน/ดาว/พระ/เสาร์ หรือ หมาแก่ อันตราย จะเป็นภาพยนตร์ที่มีรูปแบบการเล่าเรื่องไปเรื่อยๆและมึนๆอย่างจงใจ จะเต็มไปด้วยเรื่องราวชวนหัวทั้งน่าติดตามให้หาคำตอบและไม่น่าสนใจในเรื่อง จะมีการกระทำประหลาดๆหลุดโลกจากตัวละครหลายตัวในเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่เน้นเรื่องพล็อตเรื่อง วิธีการเล่า มีความฉงนและดราม่า มากกว่าจะเน้นความเฮฮา บทภาพยนตร์และความลื่นไหลในแต่ละฉากนั้นดี ค่อนข้างกวน มีนัยยะและลื่นไหล แต่พอเอามารวมๆกันแล้วกลับมึนมาก พอถึงตอนจบก็เหมือนเราจะเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่เข้าใจว่าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ หนังมีช่องโหว่และเล่าเรื่องไม่ชัดเจนในหลายๆจุดเกินไป ยิ่งพอหนังผสมโรงเข้ากับจังหวะจะโคนของการตัดต่อประหลาดๆ เปลี่ยนฉากอย่างมึนๆหลายรอบแบบไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ภาพรวมของหนังออกไปทางน่าส่ายหัวหน่อยๆ
    สิ่งหนึ่งที่หนังนำเสนอได้อย่างดีและเป็นธรรมชาติก็คือการแสดงของนักแสดงทุกคน ไม่ว่าจะเป็น .ใบเตย อาร์สยาม ที่แสดงหนังเรื่องแรกแต่ก็แสดงอารมณ์ใช้ได้ น้าโรเบิร์ต สายควัน ที่ยังนำบุคลิกและธรรมชาติของตัวเองมานำเสนอได้อย่างเฮฮาเหมือนเดิม บี้ เดอะสกา
ที่แสดงนำเรื่องแรกแต่ก็ถือว่าแบกความเฮฮาและน่าสนใจส่วนหนึ่งของหนังไว้ได้ น่าเสียดายที่เรื่องนี้บทของพี่โจ๊ก โซคูล นั้นออกจะน้อยไปหน่อย เลยไม่ค่อยได้เฉิดฉายกว่าชาวบ้านเท่าไหร่ ขณะที่คนที่แสดงได้ดีอย่างน่าสนใจในเรื่องนี้ก็คือตัวของ แจ๊ส ชวนชื่น นั่นเอง เหมือนจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมได้ชมแล้วรู้สึกว่า แจ๊ส ชวนชื่น เป็นนักแสดงจริงๆ มีความเป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็เรียกได้เต็มปากว่าเป็นนักแสดงแล้ว (ปกติอย่างที่เห็น แจ๊ส จะเล่นเป็นตัวเองตลอดทุกเรื่อง)
ครั้งแรกที่จะได้เห็นแจ๊สแสดงหนังอารมณ์อื่นบ้าง งานนี้ไม่ได้มาแค่เฮฮาอย่างเดียว
โปรดัคชั่นโดยรวมสำหรับเรื่องนี้น่าชมอยู่ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะการเลือกและตกแต่งฉากต่างๆที่มีเอกลักษณ์ตามสถานที่เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผับบาร์ที่เต็มไปด้วยแสงสี สถานที่ออดิชั่นที่เป็นตึกร้างและโคมไฟทรงปืนเอเค ยันอาณาจักรเศรษฐีสุดล้ำหลุดโลกของ ขจร ตัวเอกคนหนึ่งของเรื่องที่เป็นเจ้าของคลินิกศัลยกรรมอยู่ ซึ่งส่วนนี้คงจะโดดเด่นที่สุดแล้วในเรื่อง เพราะด้านอื่นๆก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่นัก
    สรุปโดยภาพรวมแล้ว ดอกฟ้า หมาแจ๊ส  จึงเป็นภาพยนตร์ตลกดราม่าที่ทำออกมาได้กลางๆ เป็นภาพยนตร์ที่เน้นเรื่องพล็อตเรื่อง วิธีการเล่า มีความฉงนและดราม่า มากกว่าจะเน้นความเฮฮา การแสดงของ แจ๊ส ชวนชื่น ดูดีขึ้น แต่ไม่มากมายเพราะบทไม่ได้เอื้ออำนวยขนาดนั้น ขณะที่บทภาพยนตร์ในแต่ละฉากนั้นค่อนข้างกวน
 มีนัยยะและลื่นไหล แต่พอมารวมๆกันแล้วกลับรู้สึกมึนแปลกๆ ด้านโปรดัคชั่นนั้นทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะการเซ็ตฉากต่างๆและอุปกรณ์ประกอบฉากให้ดูมีความเฉพาะที่ มีสไตล์ ใครหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังตลาด เฮฮาบ้าบอตลอดทั้งเรื่อง บอกเลยว่าไม่ใช่ แต่ถ้าใครต้องการอะไรแปลกใหม่ ชื่นชมหนังพี่ต้อมที่ชวนหัวแบบ หมาแก่ อันตราย ก็เชิญในโรงภาพยนตร์ได้เลย!