หนังให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นเยอะมาก คล้ายตอนดูเมย์ไหนฯ ในแบบที่ทะลึ่ง หื่น ฮา และดิบห่ามกว่า ปัญหาของหนังก็เลยมาจากความมันมือใส่ไม่ยั้งจึงทำให้คุมแก่นเรื่องไม่อยู่ ประคองเหตุผลการกระทำตัวละครไม่ได้ แม้จะพยายามหักอารมณ์ช่วงท้ายมาเซอร์ไพร้ส์ มันก็เลยจบลงที่เป็นหนังตลกเด็กเห่อหะดูเอาสนุกเท่านั้น ซึ่งก็มีมุกอะไร ๆ ให้จดจำได้พอสมควร

ดูหนังออนไลน์ 4k นี่คือผลงานของผู้กำกับสายเลือดใหม่ที่ปลุกปั้น โดยหัวใหญ่แห่งค่ายสหมงคลอย่าง พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ซึ่งคราวนี้ได้นำเสนอคลื่นรุ่นใหม่จากวงการหนังสั้นสุดทะเล้นอย่าง ป้อ-ณภัทร จิตวีรภัทร ที่มาทำหน้าที่เขียนบทและกำกับ โดยได้ เบน-อัศวนัยน์ กลิ่นเอี่ยม มาร่วมกำกับ มาสู่หนังที่น่ารักทะเล้นทะลึ่งมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์หนังไทยอย่าง 15+ IQ กระฉูด (หนังไทยเมนสตรีมไม่ค่อยสร้างอะไรแบบนี้นักหรอกครับ) โดยได้นักแสดงรุ่นใหม่ทั้งเพิ่งแกะกล่อง และรุ่นใหม่ไฟแรงมาร่วมงานกันอย่างน่าสนุกทีเดียว

รีวิวหนังไทย ป้อ (ซ้ายสุด) และ เบน (ขวาสุด) สองผู้กำกับ กับเหล่านักแสดงนำ ดีดี ยูโร ยอร์ช พลอย และอิงแลนด์ตามลำดับ

หนังเล่าเรื่องของ 3 เด็กเนิร์ดผู้มีความฉลาดไม่ธรรมดา แต่ความสนใจของพวกเขาไม่ใช่การใช้รอยหยักในสมองไปแข่งโอลิมปิกวิชาการแต่อย่างใด กลับเป็นเรื่องภาษาวัยรุ่นที่เพิ่งข้ามวัยเด็ก อย่างเรื่องเพศเรื่องเซ็กแทนเสียนี่ โดยในกลุ่มนี้ก็ประกอบด้วย ฉลาดเลิศ (ยอร์ช-ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์) นักเรียนสุดเรียบร้อยแต่แอบหื่นอยู่ลึก ๆ โดยด้านมืดของเขานั้นกลับแสดงชัดในสองเพื่อนสนิทของเขาที่มีนามว่าโอหยอง (ยูโร-ธนเศรษฐ์ สุริยะพรชัยกุล) และ โอบื้อ (ดีดี-จิรกิตติ์ วงศ์ศรีเพ็ง) แทน

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ฉลาดเลิศ ตกหลุมรักเพื่อนร่วมห้องอย่าง เชอร์รี่ (อิงแลนด์-ลิตา จันทร์วราภา) สาวหน้าลูกครึ่งสุดน่ารัก แต่วันหนึ่งเขาดันไปเห็นเชอร์รี่จูบกับ พี่ท็อป สามีแห่งชาติของโรงเรียนเข้า เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้เชอร์รี่ยอมหันมาสนใจเขาให้ได้ และสิ่งที่เขานึกออกคือการเอาชนะประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยมีเดิมพันว่าถ้าเขาชนะได้ เชอร์รี่ต้องยอมพิจารณาเขาในฐานะแฟน แต่อุปสรรคครั้งนี้กลับมีกำแพงใหญ่ที่ชื่อว่า สุดารัตน์ (พลอย ศรนรินทร์) นักเรียนอัจฉริยะเบอร์หนึ่งสุดมืดมนของโรงเรียน ที่เป็นเพื่อนข้างบ้านของฉลาดเลิศขวางกั้น เพราะสุดารัตน์นั้นลงแข่งอยู่ทีมเดียวกับเชอร์รี่ด้วย

เป็นหนังสหมงคลที่แตกต่างจากแนวเดิม ๆ ทำให้ วงการหนังไทยดูน่าสนุกขึ้นมาก ต่อจาก สยามสแควร์ ก็มาเรื่องนี้อีก คิดว่าหนังไทยน่าจะมีอะไรใหม่ ๆ ให้ติดตามเรื่อย ๆ น่าสนใจสุด ๆ

หนังมีลูกบ้าและความสด มุกใหม่ ไอเดียใหม่ เซอร์ไพร้ส์แล้วเซอร์ไพร้ส์อีก ดีไซน์คาแรกเตอร์แบบใหม่ ๆ คือใครเบื่อหนังไทย เบื่อหนังตลาดซ้ำซาก นี่ใช้ได้เลย

มุกหลายมุกจัดว่าฮามาก ใครชอบดูหนังมีความเนิร์ดพอประมาณนี่จะฮาสุด ๆ อย่างฉาก 2001: A Space Odyssey ดูหนัง 4k นี่ฮาพรั่งพร้อมทั้งภาพและเสียงมาก แต่พวกมุกหื่น ๆ ก็ฮาไม่แพ้กัน

การแสดงแบบรีแอกชั่นโอเวอร์ราวกับหนังตลกญี่ปุ่นนั้นทำได้ดี ชวนให้นึกถึงหนังอย่าง เมย์ไหนไฟแรงเฟ่อร์ ของค่าย GTH แม้จังหวะจะล้น ๆ บ้าง แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะ

นักแสดงชนะเลิศมาก น้องยอร์ชในบทฉลาดเลิศเล่นได้โคตรโนบิตะคือน่ารักน่าเอ็นดูมาก น้องยูโรในบทโอหยองก็หื่นแบบตือโป้ยก่ายรับมุกกับน้องดีดีในบทโอบื้อที่มาแนวหื่นหน้าตายได้โคตรของโคตรฮา ฝั่งผู้หญิงน้องอิงแลนด์ในบทเชอร์รี่ก็สวยมากน่ารักมาก และที่วินเนอร์เลยคือน้องพลอยในบทสุดารัตน์ที่พลิกบทมาสายตลกได้แจ่มมาก คิดว่าสหมงคลควรทบทวนทำหนัง สมศรี-422R ได้แล้วล่ะนะ

ตัวละครขโมยซีนทำงานกันเก่งมาก โดยเฉพาะสองคู่หูโอบื้อ-โอหยอง และ..ปรัชญา อันนี้ต้องไปดูเอง

คนสร้างมันมือมากไปจนไม่สนแก่นเรื่อง ความพยายามที่จะจบสวยเป็นหนังดี กลับยิ่งทำลายตัวหนังลงไปอีก เพราะหนังไม่ได้ออกแบบมาให้มาทางนี้แล้วผู้ชมจะเชื่อได้

บางมุกสร้างยัดเข้ามาโดยไม่ได้คำนึงว่าสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ตัวเองปูไว้ตอนแรก แม้จะฮา แต่เราก็จะรู้สึกขัดใจอยู่ดีว่าทำไมตัวละครมันทำอะไรที่ขัดกับเป้าหมายของตัวเองแบบนั้น

หนังทำลาย บอลลูน มาก โคลสอัพได้รอยตีนกามาเต็ม ส่วน อังเคิล ก็ตายคาจอเพราะโดนจับยัดบทพูดศีลธรรมที่ไม่เข้าปาก

จังหวะการตัดแอ็คชันรับมุกส่วนใหญ่ยังไม่แม่น ทำให้หลายครั้งฮาไม่สุด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรง

หลายอย่างเกินน่ารักไปเยอะ เรียกว่าทะลึ่งมากเหมือนกัน เหมาะกับเด็กโตหน่อยล่ะนะ

ดูหนังออนไลน์ ความพยายามเซอร์ไพร้ส์หลอกคนดูเรื่อย ๆ ทำให้บางอย่างไม่ค่อยกลมกลืน โดยเฉพาะการใส่คาแรกเตอร์แปลก ๆ ให้เชอร์รี่นั้น ทำให้น้องอิงแลนด์ต้องเล่นแบบฝืน ๆ จนคนดูก็อึดอัดเหมือนกันเป็นต้น

หนังเหมาะกับวัยรุ่นมาก ๆ โดยเฉพาะเด็กมัธยมเด็กมหาวิทยาลัยน่าจะชอบมากกว่าพวกวัยทำงาน ที่อาจรู้สึกว่าไม่คุ้มเงินค่าตั๋วก็ได้

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสดูหนังไทยวัยรุ่นเรื่องนึงจากฝั่งค่ายใบโพธิ์ที่มีเนื้อหาทะลึ่งๆ หมิ่นเหม่ด้านเพศพอสมควรกับเรื่อง “15+ ไอคิวกระฉูด” เพราะแค่ขนาดปล่อยทีเซอร์โปสเตอร์ออกมา ก็ชวนให้ผมคิดลึกไปพอสมควร แต่ตอนนั้นคือมองในแง่บวก ว่าภาพลักษณ์ของตัวหนังอาจจะเป็นการล่อเป้าให้เด็กๆวัยรุ่นสนใจไปชมและผมก็หวังว่าภายใต้เปลือกของความทะลึ่งตึงตังในหนัง มันคงมีแก่นของเรื่องที่ช่วยปรับทัศนคติทางเพศให้กับผู้ชมที่เป็นกลุ่มวัยแตกหนุ่มแตกสาวได้ เอาจริงๆคือ ผมรู้สึกประทับใจกับ “Virgin am I – รักแรกกระแทกจิ้น” หนังไทยแนวคล้ายๆกันที่เคยเข้าฉายเมื่อ 5 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก จำได้ว่าตอนที่ชมมันเซอร์ไพรส์จริงๆ ทั้งความสนุกและการขมวดเรื่องในตอนจบ จากภาพตรงนั้นมันเลยมาเป็นแรงหนุนให้ผมพอมีหวังกับ “15+ ไอคิวกระฉูด” บ้างว่าน่าจะทำออกมาได้ดีในระดับที่ไปวัดไปวาได้

ดูหนัง แต่ที่ไหนได้ หลังดูจบผมรู้สึกว่ามันไร้สาระและเล่าเรื่องสะเปะสะปะมาก ไอโหมดทะลึ่ง ตลกโปกฮาของหนังในครึ่งแรกนั่นน่าจะเป็นจุดดีจุดเดียวที่หนังทำให้ผมดูได้เพลินๆและไม่เบื่อได้ โดยหนังได้เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ดูจะเรียกว่าแก๊งหื่นก็คงไม่ผิดนัก เพราะมันหื่นเกินมนุษย์มนาจริงๆ (พิสูจน์ได้จากฉากแอบดูกระโปรงอาจารย์ฝึกสอนตรงบรรไดที่บอกเลยว่ามันโหดและท้าทายชีวิตการเป็นนักเรียนมาก) และไอแก๊งนี้มันก็มีอยู่ 1 หนุ่มที่ดันไปเผลอทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกับเพื่อนสาวที่แอบชอบจนแทบจะเข้าหน้ากันไม่ติด แต่ใจที่กล้าบวกกับความรู้สึกอยากปกป้องเธอ มันเลยดันไปตั้งคำท้าว่าถ้าแก๊งมันชนะการแข่งขันโครงงาน เธอต้องมาเป็นแฟนกับมัน โอ้ววว้าววว !!! ด้วยสมองที่มีความรู้อันน้อยนิดแต่มีความคิดเรื่องเพศมหาศาล ทางออกเดียวก็คือ ต้องกลั่นแกล้งเพื่อนสาวหัวหน้าห้องที่เรียนเก่งที่สุดให้ทำพลาดแล้วแพ้การแข่งขันโครงงานซะ เรื่องวุ่นๆมันก็เลยเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ ที่นับวันแล้ว ความรู้สึกของการเป็นคู่แข่งมันกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…. (ขอสปอยแค่นี้)

จากพารากราฟด้านบน หลายคนที่อ่านอาจรู้สึกว่าหนังก็มีเรื่องราวที่น่าติดตามอยู่เหมือนกัน…แต่อะไรล่ะที่ทำให้ในภาพรวมแล้ว “15+ ไอคิวกระฉูด” มันดูไม่น่าประทับใจและดูไปเบื่อไปโดยเฉพาะในตอนท้าย ส่วนตัวผมขอรีวิวเลยว่า “การเล่าเรื่อง” คือจุดพลิกของหนังที่ผมมองว่ามันไม่ได้สร้างน้ำหนักให้กับเรื่องราวได้เลย เอาแค่ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของตัวพระนางในเรื่อง ผมยังไม่ค่อยอินหรือรู้สึกตามเลย ความตลกก็เหมือนมีมาผ่านไปเฉยๆไม่มีผลกับหนังเท่าที่ควร หลายๆมุกเหมือนต้องใช้ความทะลึ่งมาเป็นตัวนำความตลก มันเลยเป็นผลที่ทำให้หนังดูทะลึ่งล้นจนเกินเหตุ แอบสังเกตว่าหนังพยายามใช้หน้าตาของหนุ่มยอร์ชมาเพิ่มสีสันความตลก็ด้วย แต่บางทีมันเยอะไปกับฉากตกอกตกใจแบบอ้าปากค้าง ทำหน้าเหวออะไรแบบนี้ (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่มันเยอะจนสังเกตได้จริงๆ)

ทั้งหมดทั้งปวงของหนัง จึงไร้ความประทับใจแบบที่กลัวๆไว้ตั้งแต่ตอนแรก หนังเหมือนจะดูสนุกแต่เอาเข้าจริงกลับมีช่วงเบื่อหน่ายเยอะมากกว่า ยิ่งตอนจบที่สร้างประเด็นหนักๆให้กับหนังนี่แทบจะไร้ความหมาย หนังขมวดปมจบไม่ได้และสร้างความน่าเชื่อถือก็ไม่ได้ ความรู้สึกมันเลยหมดไปด้วย เหลือเพียงความคิดที่ว่า “ผมได้อะไรจากหนังเรื่องนี้?….” (นอกจากได้เห็นกางเกงในสาวๆ)

ไอเดียของหนังน่าสนใจ  แต่การขยายความเป็นหนังเรื่องหนึ่งยังทำได้ไม่ดีมากนัก  แม้การดำเนินเรื่องดูได้เพลินๆ  ภาพสีสันลูกกวาดการ์ตูนมาก  และบทหนังนำพาเราไปยังจุดที่คาดไม่ถึง  แต่การคลี่คลายเรื่องราวดูง่ายดายเกินไปและไม่อยู่ในโลกความเป็นจริง   สุดท้ายจึงเป็นหนังทะลึ่งตึงตังเรื่องหนึ่งที่สาระของเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเพศในวัยรุ่นไม่ได้มีพลังมากนัก  ไม่มีความน่าจดจำ ..น่าเสียดาย  เพราะหนังเรื่องนี้ถือเป็นความแปลกใหม่และกล้าบ้าบิ่นของคนทำหนังไทย   ถ้านับที่ความตลก  อยากบอกว่าทั้งโรงที่มีอยู่ประมาณสิบคนเงียบกริบ ทั้งที่เราคิดว่าฮาอยู่นะ  แล้วทำไมหนังไทยเรื่องอื่นที่ตลกฝืดกว่านี้คนหัวเราะกันครืน   หรือเพราะเป็นเรื่องทะลึ่งเลยไม่มีใครกล้าหัวเราะดัง เกร็งเกินไปในการดูหนังเกี่ยวกับเรื่องเพศ (ทั้งเรื่อง)  หรือมุกในหนังจะฝืดเกินไป   ด้านการแสดง น้องๆทุกคนแสดงดี แต่แหม กล้าจัง เพื่อนล้อแย่เลย  ที่น่าแปลกใจคืออดีตดาราตู้มๆที่โด่งดังอย่างบอลลูน แสดงได้ดีเกินคาด   ส่วนบทสนทนาในหนังดูย้อนยุคไปหน่อย นึกว่าดูหนังพีเรียด ฉากต่างๆก็เหมือนสมัยก่อน