รีวิวหนัง โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง
จ่าแคน แสนขี้อาย(ศรัณย์ ชินสุวพลา) จ่าหยอย ปากโทรโข่ง(ปราโมทย์ ปาทาน) จ่าปลื้ม กระเพาะคราก (เอ็ดดี้ เฮง) จ่าโอ อ้วนเพราะรัก(ศุภชัย ทรัพย์ประเสริฐ) โดยหารู้ไม่ว่าความอ้วนของพวกเขาได้กลายเป็นปัญหาของผู้บังคับบัญชา (จตุพล ชมภูนิช) เมื่อคลิปรถไหลตกสะพานของพวกเขาว่อนโซเชียล จนมีประกาศิตให้ทั้ง4โปลิศน้ำหนักเกินไปลดความอ้วนคนละ20 กิโลกรัมให้ได้ใน 3 เดือน แต่งานนี้ทั้ง 4 ไม่ต้องสู้เพียงลำพังเพราะยังมีตัวช่วยอย่าง ผู้กองเจตน์ ตำรวจหนุ่มหล่อเฟิร์ม (ศุภวิช มีเปรมวัฒนา) และ มีน เทรนเนอร์สาวสวย (ณัฐจารี หรเวชกุล) รีวิวหนัง โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง ที่ร่วมด้วยช่วยกันรีดน้ำหนักจำกัดของโปรดให้พวกเขา จนหัวใจของจ่าแคนเริ่มเต้นเป็นจังหวะซุมบ้าเมื่อได้ใกล้กับมีน และขณะที่พวกเขากำลังสาละวนกับการไดเอท ก็เกิดอาเพศเมื่อรถขนเงินถูกปล้นอย่างอุกอาจจนสี่ตำรวจไทยไขมันเต็มถังต้องออกโรงเรียกศรัทธาอีกครั้งจนความฮาป่วนฉบับสี่คูณร้อยจะให้ทำให้คุณลุ้นจนเมื่อยขากรรไกร
จ่าโอ อ้วนเพราะรัก รับบทโดยศุภชัย ทรัพย์ประเสริฐ
ชื่อหนัง โอเวอร์ไซส์ทลายพุง ในโลกโซเชียลดูจะได้รับความสนใจมากที่สุดในฐานะภาพยนตร์เรื่องแรกของค่ายหนังหน้าใหม่แต่มีผู้บริหารมือเก๋า วิสูตร พูลวรลักษณ์ แห่งไท เอนเตอร์เทนเมนท์ และ จีทีเอช ก่อนจะแยกออกมาร่วมหุ้นกับกลุ่มโมโนในนามบริษัท T-Moment ซึ่งมีหนังเรื่องนี้ออกฉายเป็นเบอร์เปิดค่าย ซึ่งจะว่าไปก็เปรียบได้กับเดิมพันศรัทธาอีกครั้งของผู้ชายคนนี้ในฐานะผู้อำนวยการสร้างมือทองที่มีหนังทำเงินเกิน 100 ล้านบาทเยอะที่สุดในวงการหนังไทยและขณะเดียวกันก็น่าจะกระตุ้นให้วงการหนังไทยคึกคักอีกครั้งหากหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แต่จากการโปรโมตในช่วงครึ่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เค้าลางความน่าเป็นห่วงก็ปรากฏเมื่อตัวอย่างหนังไม่ปังเท่าที่ควร จนผมต้องพิสูจน์ด้วยตาตนเอง
ภูวนิตย์ ผลดี กับ ชานนท์ ยิ่งยง ผู้กำกับหน้าใหม่
โดยโอเวอร์ไซส์ทลายพุง เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับหน้าใหม่สองคนได้แก่ ภูวนิตย์ ผลดี และ ชานนท์ ยิ่งยง ซึ่งต้องยอมรับหนังสอบผ่านได้อย่างสวยงาม โดยโปรเจคต์นี้เกิดจาก วิสูตร พูลวรลักษณ์ที่อยากเล่าเรื่องราวจากโครงการตำรวจไทยไร้พุง ข่าวดังเมื่อหลายปีก่อนมาเป็นหนัง โดยให้ ภูวนิตย์ ผลดี เป็นผู้สร้างสรรค์เรื่องราวจากไอเดียของเขา และบทหนังของภูวนิตย์ก็สามารถจับความในใจของคนอ้วนที่มีปัญหาในการลดน้ำหนักมาเป็นปมกระตุ้นเรื่องได้อย่างน่าสนใจ ทั้งโรคกลัวฟิตเนสเพราะเทรนเนอร์มุ่งขายคอร์ส หรือแม้แต่ปัญหาครอบครัวร้าวฉานเพราะหาว่าจะผอมเพื่อไปมีแฟนใหม่ ทั้งหมดทั้งมวลย่อมพิสูจน์ให้เห็นถึงความใส่ใจในการหาข้อมูลรอบด้านจนได้บทหนังที่ทั้งบันเทิงและโน้มน้าวคนดูให้เชื่อในปมของตัวละครได้ดีทีเดียว
จ่าปลื้ม รับบทโดย เอ็ดดี้ เฮง สมยศ มาตุเรศ หนุ่มตุ้ยนุ้ยที่คุ้นเคยกันดีจากหนัง แฟนเดย์ หนังฮิตปีที่แล้ว
ในด้านการนำเสนอทั้งการกำกับและงานภาพสำหรับสองผู้กำกับหน้าใหม่ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว ทั้งการนำเสนอคาแรคเตอร์ของสี่โปลิศตุ้ยนุ้ยที่ทำออกมาได้น่ารักและคนดูพร้อมจะเชื่อในความสนิทสนมจนบทดราม่าของทั้งสี่ออกมาน่าเชื่อถือและทำให้คนดูผูกพันธ์กับพวกเขามากพอให้เอาใจช่วยในภารกิจล่าคนร้าย พร้อมกับแก๊กตลกที่เล่นกับความคาดหวังของคนดูโดยอาศัยการวางเฟรมภาพปิดบังข้อมูลเพื่อปูมุขแล้วเซอร์ไพรส์เมื่อหนังเฉลยว่าเหตุการณ์ในภาพรวมไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดในตอนแรกก็เป็นการใช้องค์ประกอบทางภาพยนตร์มาส่งเสริมให้มุขตลกในหนังทำงานได้เป็นอย่างดี ส่วนฉากแอ็คชันก็ทำได้ดีตามมาตรฐานหนังตลกแอ็คชันโดยอาศัยทั้งเทคนิคในการถ่ายทำและการตัดต่อที่ดูจะได้รับอิทธิพลมาจากหนังเรื่อง Hot Fuzz ของ เอ็ดการ์ ไรท์ (Edgar Wright) อยู่ไม่น้อย ก็ทำให้หนังดูน่าตื่นเต้นไม่มีช่วงน่าเบื่อมากนัก
รีวิวหนังไทย ปัญหาหลักของหนังดูจะมาจากนักแสดงใหม่โดยเฉพาะ ศรันย์ หรือ ตงตง หนุ่มอ้วนหน้าหล่อที่ยังไม่สามารถสร้างเสน่ห์ชายตุ้ยนุ้ยขี้อายแต่น่ารักได้มากนัก เลยพลาดโอกาสโน้มน้าวคนดูให้ร่วมลุ้นกับความรักระหว่าง จ่าแคน กับ มีน ยังดีที่ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ในบทจ่าหยอยยังสามารถปล่อยมุขหยอกล้อสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสี่ให้คนดูได้หัวเราะทั้งเรื่อง เอ็ดดี้ เฮง ที่คนดูคุ้นหน้าจากบทเพื่อนพระเอกใน แฟนเดย์ปีที่แล้วยังไม่ค่อยมีบทบาทนักนอกจากมุขจ่าปลื้มหิวผิดเวลา ส่วนฟลุค ศุภชัยในบทจ่าโอ ที่มีคนรักชอบทำกับข้าวให้กินก็อาศัยมุขหน้าเครียดมาสร้างคาแรคเตอร์เท่านั้น
เชอรีน-ณัฐจารี หรเวชกุล น้องสาวแท้ๆของ นิชคุณ มารับบท มีน เทรนเนอร์คนสวยที่จ่าแคนแอบปลื้ม
ดูหนังออนไลน์ 4k
และแน่นอนเราจะไม่กล่าวถึง เชอรีน ณัฐจารี น้องสาวแท้ๆของนิชคุณแห่งบอยแบนด์ 2PM ไม่ได้ ด้านภาพลักษณ์ เชอรีน อาจทำให้ตัวละครมีน ดูเป็นหนุ่มในฝันที่ผู้ชายอ้วนๆ อยากคว้ามาครองได้ แต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ให้เธอมีบทบาทสำคัญกับเรื่องนักจนเป็นแค่ไม้ประดับไปอย่างน่าเสียดาย
ปกติแล้วเราไม่ค่อยชอบดูหนังไทยค่ะ แต่ครั้งแรกที่ได้ดูทริลเลอร์ของโอเวอร์ไซส์ ทลายพุง เราก็เริ่มรู้สึกนิดๆ ว่า เออ ก็น่าสนใจอยู่แฮะ แต่ก็ยังชั่งใจ ยังสองจิตสองใจ เพราะเจ็บมาเยอะกับหนังไทยเลยไม่รู้จะเสี่ยงดีรึเปล่า กลัวว่าไอ้ที่น่าดูทั้งหลายมันจะมาอยู่ในทริลเลอร์หมดแล้ว แต่พอได้ดูหลายๆ รอบเข้าก็เหมือนโดนสะกดจิตไง แบบ… เออน่าา เอาหน่อย ลองให้โอกาสดูหน่อยจะเป็นไร แถมนี่หนังเรื่องแรกจาก T MOMENT ด้วย ของ gdh ก็ดูไปแล้ว ลองให้โอกาส T MOMENT ดูบ้างก็แล้วกัน ก็เลย อ่ะ โอเค ดู!!
โอเวอร์ไซส์ ทลายพุงเป็นเรื่องของตำรวจน้ำหนักเกินสี่นายอันได้แก่ จ่าหยอย (ปราโมทย์ ปาทาน) จ่าแคน (ศรัณย์ ชินสุวพลา) จ่าโอ (ศุภชัย ทรัพย์ประเสริฐ) และ จ่าปลื้ม (สมยศ มาตุเรศ) ที่ดันไปสร้างวีรกรรมไว้ตอนออกจับคนร้ายแล้วดันมีคนถ่ายคลิปไว้ได้อีก ยอดวิวขึ้นเป็นล้าน ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสน.มาก ผู้กำกับ (อ.เชน จตุพล ชมภูนิจ) เลยมีคำสั่งลงมาทันทีชื่อ “ตำรวจไทย ไร้พุง” ตำรวจทุกนายต้องมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และก๊วนตำรวจหมีๆ ทั้งสี่ก็โดนหมายหัวเป็นพิเศษว่าต้องลดน้ำหนักให้ได้ 20 กก.ภายในสี่เดือน ไม่งั้นโดนเด้งไปอยู่ชายแดนแน่นอน
รีวิวหนัง โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง
ดูหนัง 4k คราวนี้ก็เลยร้อนถึงผู้กองเจตน์ (ศุภวิชญ์ มีเปรมวัฒนา) ที่ต้องมาเคี่ยวเข็นลูกน้องด้วยตัวเอง ทั้งจัดตารางคุมอาหารและออกกำลังกายโดยมีมีน (เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล) มาเป็นเทรนเนอร์ช่วยด้วยอีกคน แถมระหว่างนั้นก็ยังมีคดีปล้นเงินจากตู้ ATM เกิดขึ้นอีก ไหนจะต้องลดน้ำหนัก ไหนจะต้องจับคนร้าย วุ่นวายกันล่ะสิทีนี้
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องบทและพล็อตเรื่อง เราโอเคนะคะ ชอบเลยล่ะ รู้สึกว่ามันน่าสนใจดี นักแสดงถึงจะมีหน้าใหม่เข้ามาร่วมด้วยแต่ก็แสดงได้ดี ไม่แข็ง ไม่ขัดหูขัดตา โดยเฉพาะศรัณย์ที่รับบทเป็นแคน เราว่าเค้าน่ารักนะ รู้สึกว่ามีเสน่ห์ดี แต่ที่เราเรทให้คะแนนแค่ 5 เพราะเรารู้สึกว่าหนังมัน “พยายามฮา” อ่ะ ตอนเปิดเรื่องมาก็รู้สึกขำอยู่ แอบคิดว่าจังหวะการเล่นมุกคล้ายกับ gdh จังแฮะ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะแตกมาจาก GTH เหมือนกัน คิดว่าน่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกันได้ แต่พอดูไปๆ เริ่มไม่ขำแล้วอ่ะ เป็นมุกแป้กที่แป้กจริงอ่ะ ไม่รู้สึกว่าตลก คือมียิงมุกตลก ซีนตลกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่ที่เราขำออกมาจริงๆ นี่นับได้ด้วยมือข้างเดียวอ่ะ นอกนั้นคือขำแห้งกับไม่ขำเลย (แต่จุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับจริตคนอีกนั่นแหละเพราะพาป้าไปดูด้วยแล้วนางก็ขำบ่อยกว่าเราประมาณสามเท่าตัวได้) มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าหนังไม่สนุกเท่าที่ควร ซีนตลก ซีนฮาๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในทริลเลอร์หมดแล้วอย่างที่กลัวจริงๆ นอกนั้นก็ขำแห้งไปตามเรื่องตามราว
ดูหนังออนไลน์ ในที่สุดก็ถึงเวลาออกโรงของภาพยนตร์เปิดค่ายใหม่ที่เราแสนจะคุ้นเคยอย่าง T Moment กับ โอเวอร์ไซส์…ทลายพุง ภาพยนตร์สำหรับคนสายหมี, คนรักสายหมี, คนมีเพื่อนเป็นสายหมี หรือกระทั่งคนที่มีเพื่อนร่วมงานสายหมีด้วย เรียกได้ว่าไม่ผิดหวัง แถมยังเกินคาดในบางจุดกับมุกตลกที่จัดหนักจัดเต็มชนิดที่แทบจะไม่มีจังหวะให้พัก ใครกำลังมองหาภาพยนตร์ไว้คลายเครียดเรื่องนี้ไม่ควรพลาด แต่ใช่ว่าจะมีแต่มุกตลกเพียงอย่างเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสอดแทรกข้อคิดดีๆ ที่ทำให้คุณรักตัวเองเพิ่มมากขึ้นไว้อีกด้วย
โอเวอร์ไซส์…ทลายพุง เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของสี่จ่าหุ่นหมีแห่ง สน.สะพานชัน ที่น้ำหนักตัวสุดแสนจะเกินเกณฑ์ไปหลายขุมจนผู้กำกับต้องออกคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจลดน้ำหนักให้ไวภายใน 3 เดือน ถ้าทำไม่ได้เตรียมเจอบทลงโทษสุดหฤโหดได้เลย! งานนี้ร้อนถึงผู้กองหุ่นดีซิกแพ็คแน่นแต่แอบกวนสุดติ่งที่ต้องเป็นเทรนเนอร์ให้พวกเขาลดน้ำหนักให้จงได้ แต่ออกกำลังกายก็แล้ว คุมอาหารก็แล้ว น้ำหนักก็ไม่มีทีท่าจะลดลง จนในที่สุดก็ได้เทรนเนอร์สาวสวยมาเป็นแรงบันดาลใจ จ่าหมีทั้งสี่เลยได้ฮึดสู้อีกครั้ง จนเกิดเหตุการณ์ปล้นรถขนเงินที่คนร้ายจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นไปภายใน 13 วินาที กลายเป็นบททดสอบพวกเขาว่าจะเลือก “ลดน้ำหนัก” หรือ “ทำหน้าที่” จับคนร้ายให้ได้ก่อนกัน!

สิ่งที่โดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ คาแรคเตอร์ของจ่าหมีทั้งสี่ ที่มีความชัดเจนโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นจ่าแคนกับลักยิ้มสุดคิ้วท์ ผู้เป็นทาสแมวเต็มตัว ตามติดมาด้วยจ่าหยอยเลือดเดือด สายหมีจอมบวกที่แท้จริง คนที่สามคือจ่าโอสุดมึน พ่อบ้านใจกล้ารักศรีภรรยาสุดตัว และจ่าปลื้มหน้าตาย จอมมันสมองของทีม ซึ่งความแตกต่างของพวกเขานี่ล่ะที่กลายเป็นจุดเด่นของภาพยนตร์ โดยจ่าหยอย (รับบทโดย โอ๊ต ปราโมทย์) ที่เป็นคนสร้างเสียงหัวเราะตลอดทั้งเรื่อง เป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้กับภาพยนตร์มีชีวิตชีวาจนน่าชื่นชม
สำหรับจ่าแคน (รับบทโดย ตงตง – ศรัณย์ ชินสุวพลา) ด้วยบุคลิกท่าทางที่ทำให้ความโหดของสายหมีและการเป็นตำรวจหายไปหมดสิ้น เพราะแค่เสน่ห์จากลักยิ้มของเขาก็น่ารักสุด ๆ แล้ว ยิ่งเป็นทาสแมวเขาไปอีก สาว ๆ ยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่ แถมด้วยการเข้าฉากกับ มีน (รับบทโดย เชอรีน – ณัฐจารี หรเวชกุล) ด้วยเสน่ห์ของมีนที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เปล่งประกายแถมยังแอบเซ็กซี่หน่อย ๆ ในบทเทรนเนอร์สาวสวยด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความน่ารักของทั้งคู่ได้เป็นกอง
ดูหนัง แต่ถึงกระนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ชูประเด็นรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างชัดเจน เป็นเสมือนเพียงเครื่องปรุงที่ทำให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ภาพยนตร์พยายามสื่ออย่างชัดเจนเลยนอกเหนือจากเรื่องของมิตรภาพแล้ว ก็คือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ซึ่งแรงบันดาลใจในที่นี้ไม่ใช่การลดน้ำหนักให้มีหุ่นผอมเพรียวสุดแซ่บ แต่เป็นการสร้างทัศนคติใหม่ว่า ทุกคนล้วนดูดีในแบบของตัวเองอยู่แล้ว น้ำหนักตัวไม่สามารถเป็นตัวพิสูจน์ว่า คุณจะทำหน้าที่ของคุณไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วหากคุณจะอ้วนหรือผอม แล้วคุณจะลดน้ำหนักหรือจะมีความสุขกับการกิน ทั้งหมดคือทางเลือกของคุณเอง คนอื่นไม่มีสิทธิมายุ่งวุ่นวาย
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอชมเชยก็คือ งานภาพ ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องที่แตกต่างจากภาพยนตร์ไทยทั่วไป หรือจังหวะการตัดต่อที่เพิ่มอรรถรสและเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสื่อบันเทิงที่ดีเรื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ แน่นอนละ…ว่ายังมีบางจุดที่สามารถผลักดันให้มันสมบูรณ์ได้มากขึ้นอีก แต่ยังไงการชมภาพยนตร์ก็เหมือนการกินอาหาร คุณจะไม่มีทางรู้ว่ามันอร่อยได้เลย ถ้าคุณยังไม่ตัดสินใจที่จะไปลองชิม อย่าให้อะไรมาหยุดความสุขของคุณ ไปเช็ครอบฉายแล้วจองตั๋วกันเลยเถอะ!