รีวิวหนัง อาบัติ Arbat
ซัน (ชาลี ไตรรัตน์ หรือ แน็ค แฟนฉัน) เด็กหนุ่มเกเรวัย 19 ปี ถูกพ่อบังคับให้มาบวชเณรที่วัดต่างจังหวัดอย่างไม่เต็มใจ โดยมีหลวงพี่ทิน (กิก ดนัย จารุจินดา) รีวิวหนัง อาบัติ Arbat เป็นเสมือนพระพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเขาตั้งแต่วันแรก
ซันไม่อยากสุงสิงกับเณรรูปอื่น จึงขอพระอาจารย์ (หนุ่ม อรรถพร ธีมากร) ไปจำวัดอยู่กุฎิร้างท้ายวัด ที่นั่นห่างไกลจากผู้คน ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว จะมีก็แต่คนบ้าประจำหมู่บ้าน (เอก สรพงษ์ ชาตรี) ที่แอบมานอนอยู่ใต้ถุนกุฏิและขโมยข้าววัดกิน
ต่อมา ซันได้รู้จักกับ ฝ้าย (พลอย ศรนรินทร์) เด็กสาวชาวบ้านที่อาศัยอยู่กับยาย ทั้งสองตกหลุมรักกัน ซึ่งนำพาพวกเขาไปสู่การพัวพันกับเหตุการณ์ลึกลับที่ถูกปกปิดไว้ภายในวัดมานานนับปี ทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของสีกาพิน (พิม พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) กับพระภิกษุในวัด, การเผชิญหน้ากับผีเปรตที่ตามมาขอส่วนบุญ, รวมถึง “กรรม” ที่พวกเขากระทำกันขึ้นมาเอง
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ อาปัติ
เราเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรกับศาสนามาก เพราะเกิดมาก็มีคนระบุศาสนาให้ทันทีในใบแจ้งเกิดนั่นแหละ แล้วแต่เล็กจนโต ไลฟ์สไตล์เราก็ไม่ค่อยจะผูกพันกับวัดสักเท่าไหร่ ในส่วนของหลักธรรมคำสอนต่างๆ ก็ได้เรียนครั้งสุดท้ายในสมัยมัธยมตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ พอขึ้นมหา’ลัยแล้ว เราก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสหรือทบทวนอะไรพุทธๆ อีกเลย ดังนั้นสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนอย่างเราได้เข้าใกล้ศาสนาของตนเองบ้างนะ ไม่มากก็น้อย อืม เราคิดว่าอย่างนั้น…
รีวิวหนังไทย เราก็เหมือนกับเด็กฝ้ายในเรื่องนะ ที่ลึกๆ แล้วก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีเปรตหรือบาปกรรมสักเท่าไหร่เพราะเราไม่เคยเห็นผีเปรตและไม่เคยเห็นบาปกรรม พอไม่เคยเห็น เราก็เลยยังไม่เชื่อ 100% แต่ถามว่า แล้วกลัวรึเปล่า… อืม ก็กลัวนะ… มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่เรามักจะกลัวในสิ่งที่เรามองไม่เห็น จริงมั้ย?
โดยรวมแล้ว เราคิดว่าหนังอาปัติสอนเรื่อง “กรรม” ทั้งรูปธรรมและนามธรรมให้ทั้งตัวละครและคนดูอย่างเราได้รู้แจ้งเห็นจริงในระดับหนึ่ง แถมยังดูเพลินๆ อีกต่างหาก ถือเป็นหนังไทยเรื่องหนึ่งที่บทดีเลยทีเดียว เรื่องราวปะติดปะต่อผูกกันโอเค ไม่มีช่องโหว่หรือจุดที่ไม่สมเหตุสมผลเลย ที่สำคัญเรื่องราวยังชวนคิดติดตามตลอดเรื่อง
ตามมาตรฐานหนังผีไทย พาร์ทผีในอาปัติจัดว่าน่ากลัวใช่หยอก ผีเปรตขอส่วนบุญออกไม่เยอะอย่างที่คิด แต่ผีอื่นๆ ที่ไม่รู้มาเพื่ออะไรนี่สิน่ากลัวและมาหาบ๊อยบ่อย สะดุ้งหลายช็อตเลย คืออาจจะด้วยซาวนด์ประกอบด้วยส่วนหนึ่งที่ชวนเราหลอนไปก่อนภาพ แต่ที่สนุกจริงๆ คือ เราสนุกที่ถูกหนังหลอก เดาเรื่องกันแทบไม่ถูกจนเลิกเดา หนังมันหลอกคนดูแล้วหลอกคนดูอีก บางฉากนี่สะดุ้งเป็นคลื่นอาฟเตอร์ช็อค
ส่วนที่เขาว่าตัดต่อใหม่ เราก็ไม่รู้นะว่าเขาตัดอะไรออก คาดว่าคงเป็นฉากล่อแหลมเกินงามระหว่างสีกากับชายผู้ห่มผ้าเหลือง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูมาจนจบเรื่อง เราก็ไม่ติดขัดหรือรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป มีแต่ความรู้สึกเล็กๆ ว่า เรื่องยังเบาไปหน่อย ไม่หนักอย่างที่คาดสักเท่าไหร่

คือเราดูหนังฝรั่งมาก็หลายเรื่อง อาปัติจัดว่ามีความรุนแรงหรือความล่อแหลมน้อยมาก นี่ยังไม่เข้าใจเลยว่าจุดไหนที่มันร้ายแรงมากถึงขั้นต้องจ้องจะแบนกันท่าเดียวแต่ทีแรกเชียวหรือ แต่เอาจริงๆ นะ ไดโนเสาร์ควรให้ประชาขนได้รับข้อมูลต่างๆ หลายๆ ด้าน หรือหลายๆ มุมมองบ้าง ไม่จำเป็นต้องป้อนแต่อะไรสวยๆ ปลอมๆ ให้พวกเราเสมอไปก็ได้ นี่มันยุค 2015 แล้ว
อย่างที่เข้าใจได้ ด้วยปัจจัยภายนอกที่มาจำกัดศักยภาพของหนัง #คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ทำให้หนังยังไม่สามารถนำเสนอเรื่องราวทางศาสนาได้เต็มที่ กล่าวคือโชว์ process ณ ขณะกระทำผิดไม่ได้ โชว์ได้แต่ผลลัพธ์หรือ negative effects ที่เกิดจากการกระทำนั้นๆ ผลออกมามันเลยยังพีคได้ไม่ค่อยสุด คนดูก็ยังอินได้ไม่มากเท่าที่ควร บอกเลยว่า น่าเสียดายบทดีๆ นักแสดงดีๆ และภาพสวยๆ ในหนังแทนจริงๆ
โดยสรุป ความรู้สึกส่วนตัว ณ ขณะที่ดูและหลังดูอาปัติจบแล้ว เราว่านี่เป็นหนังไทยคุณภาพเรื่องหนึ่งที่คนไทยหรือชาวพุทธทุกคนควรดูเลยแหละ ถ้าไม่สนับสนุนหนังแบบอาปัติแล้วล่ะก็ ประเทศไทยคงมีแต่หนังรักกุ๊กกิ๊กหรือหนังแต๋วแตกแหกนะยะผลิตออกมาให้คนไทยบริโภคเพื่อความบันเทิงไปวันๆ อย่างเดียวจนเอียนไส้
ดูหนังออนไลน์ เราคิดว่าอาปัติจัดว่าโอเคเลยสำหรับหนังไทยที่ถูกจำกัด creativity นี่นั่นโน่นโดยชมรมไดโนเสาร์ขนาดนี้ ควรสนับสนุนให้มีหนังแนวสะท้อนความจริงของสังคมแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ จรรโลงสังคมดี ไม่ทำลายสักกะนิด ไปดูเถอะไปดู
รีวิวหนัง อาบัติ Arbat
ดูหนังออนไลน์ 4k เรื่องราวของ ซัน เด็กหนุ่มที่โดนพ่อบังคับให้บวชเณร ณ วัดในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ไม่เต็มใจบวช เขาจึงใช้ชีวิตแบบเด็กปกติที่ค่อนไปทางเกเรนิดๆ และยังคงจีบสาวอยู่ ยิ่งเขาอยู่วัดนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบเจออะไรบางอย่างที่ไม่เคยมีใครได้ล่วงรู้มาก่อน ผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องแรกของ ฝน ขนิษฐา ขวัญอยู่
ชอบประเด็นแรงๆตั้งต้นของหนังที่กล้านำเสนอและถ่ายทอดออกมา เห็น Trailer ครั้งแรกก็รู้เลยว่า “เธอคือคนที่ใช่” ที่กำลังฉายอยู่น่าจะโดนตัดออกไปหลายฉากอยู่เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่ามีฉากไหนบ้าง แต่ที่แน่ๆคือฉากหอมแก้มไม่มี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายแทนหนังเหลือเกิน แทนที่จะได้นำเสนออย่างเต็มที่และหนังอาจจะออกมาดีกว่านี้ ก็ดันถูกบิดเบือนความจริง ลดทอนให้น้อยลง…โรคมือถือสากปากถือศีลคงกำลังระบาดอย่างต่อเนื่องและไม่มียารักษา
ส่วนตัวคิดว่าหากได้ชมเวอชั่นเต็มก่อนโดนตัด ซึ่งถ้าดาร์กกว่าเวอชั่นนี้จริง หนังคงจะดี และส่วนตัวคงจะชอบมากกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วหนังถือว่าทำออกมาใช้ได้เลยสำหรับการกำกับหนังครั้งแรกของตัวผู้กำกับเอง เพราะหนังคุมโทนได้ดีพอสมควร ฉากผีก็น่ากลัวและสามารถทำให้ตกใจได้แม้จะเป็นจังหวะตุ๊งแช่แบบเดิมๆ แต่ CG ผีเปรตค่อนข้างหลอกตา และจังหวะการดำเนินเรื่องยังคงอืดยืดไปหน่อย หากเล่าเรื่องได้เร็วและกกระชับกว่านี้จะดีมากๆ
ด้านตัวบทถือว่าดีเลย มีการปูปูมหลังของตัวละคร และตบกลับ แบบไม่ป้อนให้คนดูทั้งหมด แต่ให้คนดูประติดต่อต่อเรื่องและคิดเองบ้าง ชนิดที่คิดน้อยๆแต่พองาม ย่อยง่ายสำหรับคนไทย แม้จะมีการหักมุมบ้าง แต่ก็ไม่ยากที่จะโอนถ่ายเข้าสมอง

การแคสตัวละครหลักเป็นน้องแน็ก ชาลี ถือว่าเหมาะสม แน็กแสดงได้ดีพอสมควร และแบกหนังทั้งเรื่องไว้ได้ นับถือที่ยอมโกนหัวจริงๆ ดูแล้วก็สมจริงสบายตา (ขอชมนักแสดงคนอื่นๆในเรื่องด้วยที่โกนหัวจริง) ไม่เหมือนพระเอกคนอื่นๆที่ไม่ยอมลงทุนกับการแสดง ได้แต่ทำผมแบบปลอมๆไม่ว่าจะใส่วิกหรือแต่งให้หัวไม่มีผม
ชอบน้องพลอย ที่แสดงเป็นฝ้าย น้องสดใสน่ารักมาก ที่สำคัญคือใส่ผ้าถุงผ้าซิ่นออกมาได้น่ารักสุดๆ แต่สงสัยว่าน้องอาจจะเด็กเกินไปสำหรับบทหรือเปล่า สิ่งที่ไม่ชอบในหนังเรื่องนี้เลย คือการแต่งหน้าให้น้องพลอยในบทฝ้าย ที่แม้ว่าจะแต่งให้ดูเหมือนไม่แต่งแล้ว แต่ก็ยังดูรู้ว่าแต่งหน้าอยู่ดี โดยเฉพาะเมื่อซูมหน้าใกล้แล้วจะเห็นชั้นรองพื้นและแป้งที่ทาชัดมาก ซึ่งถ้าปล่อยหน้าน้องให้เกลี้ยงๆแบบใสๆไม่ต้องแต่ง จะดีและเป็นธรรมชาติเหมาะกับบทกว่านี้ไหม
อีกสิ่งที่ไม่ชอบเลย คือ การแต่งตัวแต่งหน้าของ สรพงศ์ ชาตรี ที่เห็นแล้วต้องแอบเซ็ง ว่าคนบ้าต้องแต่งตัวแต่งหน้าเป็นแบบนี้อีกแล้ว ซึ่งสามารถเห็นได้จากหนังไทยทุกเรื่อง ที่ดูยังไงๆดูก็รู้ว่าตั้งใจแต่งขึ้นให้เป็นแบบนี้ และยิ่งไปกว่านั้นคือ การแสดงของสรพงศ์ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร
ดูหนัง 4k หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนโลกสวย และเคร่งศาสนามากๆแบบตาบอดนะคะ
ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
เปรต อาบัติ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญจากไทยเรื่องเดิมที่เพิ่มฉากเข้ามามากขึ้น โดยว่าด้วยเรื่องของ ซัน เด็กหนุ่มที่จู่ๆก็ได้มีโอกาสบวชเป็นเณรอยู่ ณ วัดที่อยู่ห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นทำให้เขาพบเจอกับเรื่องราวทั้งดีและร้ายมากมาย มีทั้งสีกามาพัวพัน มีทั้งเรื่องภายในกิจของสงฆ์ และเรื่องราวสยองขวัญลึกลับเกี่ยวกับกุฏิที่ ซัน จำวัดอยู่ จนเขาต้องหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ ว่าตัวเองมาบวชเพื่ออะไรกันแน่? 

ดูหนัง การเล่าเรื่อง ของเรื่องนี้ก็จะไม่ได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นเดิมมากมายเลยครับ จะเต็มไปด้วยเนื้อเรื่องที่พยายามใส่แก่นสารเรื่องเวรกรรมและคำสอนทางพุทธศาสนา ในขณะที่ความสยองขวัญของเรื่องนั้นก็พอมีบ้างเล็กๆน้อยๆ ฉากตุ้งแช่ยังขายดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้น โดยส่วนตัวถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า เวอร์ชั่นนี้ก็แค่เพิ่มฉากแรงๆมากขึ้นนิดหน่อย ถ้าจำไม่ผิดก็จะมีการด่าพระกันแรงๆให้ได้ยินบ่อยขึ้น เห็นเปรตบ่อยขึ้น และมีฉากเสริมเพื่อเพิ่มเติมเนื้อหาให้ชัดเจนกว่าเวอร์ชั่นก่อนมากขึ้น ซึ่งก็แลกมากับการทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าเบื่อยิ่งขึ้นไปอีกเหมือนกัน
โปรดัคชั่น โดยรวมถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด โดดเด่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสงอึมครึม มืดมัวได้อารมณ์สยองขวัญ ในขณะที่ฉากสวยๆแบบตะวันตกดินหรือตะวันขึ้นก็ถ่ายได้ดีไม่ใช่หยอก ตามมาด้วยมุมกล้องสูงๆจากด้านบนก็จัดการได้ดีมาก เห็นภาพได้แปลกใหม่ดี และสิ่งสุดท้ายที่ต้องชมก็คือเปรตตัวเป็นๆในเรื่อง แม้ว่าการขยับเขยื้อนของเปรตยังดูปลอมอยู่บ้าง แต่ภาพรวมถือว่าทำออกมาได้สมจริง เนียน และน่ากลัวมากๆ งานดี งานเนี๊ยบ งานโดนจริงๆ
สรุปโดยภาพรวมแล้ว เปรต อาบัติ จึงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญจากไทยเรื่องเดิมแค่เพิ่มฉากขึ้นมา เนื้อหาเนือยนายและเน้นแก่นสารทางพระพุทธศาสนามากขึ้น เห็นเปรตมากขึ้น แต่ก็ทำให้เนื้อเรื่องน่าเบื่อมากขึ้นตามไปอีก ใครเคยดูเวอร์ชั่นก่อนหน้าแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาดูเวอร์ชั่นนี้เลย ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูเรื่องนี้ (อาปัติ) และสนใจในเรื่องของพระพุทธศาสนา แนะนำให้มาชมเลย เพียงแต่อย่าหวังกับความสยองขวัญมาก เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นเนื้อหาสอนใจมากกว่าความสยองครับผม