รีวิวหนัง สยามสแควร์
สยามสแควร์ คือหนังจากเลือดใหม่ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่หลัง ๆ ดูซบเซาลงพอตัว แต่จากหน้าหนังที่ปล่อยมาทำให้เราคาดหวังได้พอสมควรว่าสหมงคลน่าจะกลับมาทวงแถวหน้าของวงการหนังไทยได้อีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบที่ฉีกแนวไปจากหนังเรื่องอื่น ๆ ในตลาด ทั้งการผสมแนววัยรุ่นวัยเรียนกับแนวสยองขวัญ บนพื้นที่ที่ทุกคนคุ้นเคยหรือมีประสบการณ์ร่วมอย่าง สยามสแควร์ฯ ที่เป็นทั้งแหล่งช็อปปิ้งและเรียนพิเศษมาไม่ว่ายุคไหน ๆ รีวิวหนัง สยามสแควร์ พร้อมกับคำถามว่าถ้าสยามที่เรารู้จักมีอีกด้านหนึ่งที่แสนลึกลับล่ะ? ด้วยภาพแบบทันสมัยกับพล็อตที่มีกลิ่นความเชื่อโบราณ ๆ กลายเป็นความขัดกันที่น่าสนใจขึ้นมามากทีเดียว
และความเห็นหลังจากได้รับชมแล้ว ต้องบอกว่านี่คืองานหนังไทยที่กล้าลองสูตรใหม่ ๆ และฉลาดในการเล่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งในขณะนี้เลยครับ
นี่เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ที่เคยร่วมงานกับเจ้าพ่อฮิปสเตอร์สุดเทพอย่าง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ โดยเขาเคยกำกับภาพให้หนังดี ๆ มัน ๆ อย่าง Mary is Happy,Marry is Happy นอกจากนี้ยังรวมถึงกำกับภาพใน 36 หนังเรื่องแรกของเต๋ออีกด้วย

เมื่อต้องทำหน้าที่กำกับเองในเรื่องนี้ ด้านงานกำกับภาพไพรัชจึงไว้ใจให้ ภิไธย สมิตสุต ที่มีผลงานระดับอินเตอร์ทั้งเวทีประกวดและงานเบื้องหลังหนังดังฮอลลีวู้ดที่มาถ่ายทำในบ้านเรามากมายมารับผิดชอบไป ซึ่งการที่ต้องถ่ายด้วยข้อจำกัดอย่างการห้ามตั้งขาตั้งกล้องและใช้ทีมใหญ่ตามข้อตกลงการใช้พื้นที่ ทำให้ภิไธยเลือกใช้เลนส์อนามอฟิกที่ทำให้ได้ภาพกว้างเหมาะกับการถ่ายแบบแฮนด์เฮลด์อีกด้วย
นอกจากนี้ในฉากลองเทคยังได้ สมศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ เจ้าพ่อลองเทคของสหมงคล ที่มีผลงานอย่างฉากลองเทคแอ็กชั่นตึก 4 ชั้นยาว 4 นาทีใน ต้มยำกุ้ง มาช่วยกำกับในฉากต้นเรื่องให้เป็นพิเศษอีก เรียกว่าชื่อชั้นด้านทีมงานน่าจะหายห่วงได้ล่ะ
ไม่พอในด้านบทหนัง ยังเป็นโปรเจคที่ใช้ทีมงานและเวลาฟูมฟักกันมานานกว่า 3 ปีทีเดียว จนได้ผู้กำกับไพรัชมาสรุปท้ายสอดแทรกประสบการณ์ส่วนตัวลงไป เกิดเป็นหนังอย่างที่ได้รับชมกันตอนนี้ หนังเล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนเรียนพิเศษต่างโรงเรียน ที่มีจุดศูนย์กลางเรื่องเล่าอย่าง เมย์ (อุ้ม อิษยา) เด็กสาวหน้าสวยแต่ดันมีนิสัยมั่นดูหยิ่งไม่ค่อยน่ารักนัก ทำให้เพื่อนรอบ ๆ ตัวเธอค่อย ๆ หายไป เหลือเพียง จุ๊บเล็ก (หลิว มรกต) เพื่อนคนสนิทเท่านั้นที่อยู่เคียงข้าง
ดูหนังออนไลน์ ในวันที่เมย์อกหักจาก ปอนด์ (บอน์น มนภัทร) หนุ่มหล่อที่ดันไปหลงรักและพยายามจีบลูกคุณหนูอย่าง เฟิร์น (เหม่เหม ธัญญวีร์) ผ่านแม่สื่ออย่าง มีน (คิ้ว อนงค์นาถ) เพื่อนสนิทของเฟิร์น แต่เฟิร์นเองกลับไปให้ความสนใจหนุ่มเรียบร้อยอย่าง หมูหวาน (ปลื้ม ปุริม) เสียมากกว่า ส่วนอีกด้าน เติร์ก (ภีม ธนบดี) ก็แอบหลงรักเมย์แต่ถูกเมย์เหม็นขี้หน้าตั้งแต่แรกพบ จึงได้แต่ปลอมตัวเป็นไลน์นิรนามคอยคุยให้กำลังใจเมย์มากว่า 1 ปีเต็มอย่างสิ้นหวัง
แต่ในคืนหนึ่ง ที่สยามสแควร์เกิดไฟดับลงพร้อมกัน เมย์กับเติร์กก็ได้พบ นิด (พลอย ศรนรินทร์) เด็กสาวลึกลับ จนเมย์เข้าไปสนิทสนมด้วยความรู้สึกที่เผชิญปัญหาเรื่องเพื่อนคล้าย ๆ กัน ในอีกทางเรื่องเล่าของผีเด็กสาวด้ายแดงที่ถูกลืมเลือนไปกว่า 30 ปีก็ถูกกลับมาเล่าขานอีกครั้งในหมู่เด็กเรียนสยาม ทำให้แก๊งเพื่อนชายสายวิทย์อย่าง ม่อน (เบสท์ ณัฐสิทธิ์), นิวตัน (เอิร์ธ อติคุณ), เติร์ก, และหมูหวาน ต้องออกล่าความจริงผ่านรายการถ่ายเองชื่อ Ghost Your Dad และแค่เพียงครั้งแรกทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ได้เจอดีกันถ้วนหน้า
ข้อดีของหนังเลยคือ ความฉลาดในการเล่า และชั้นเชิงในการเล่าด้วยภาพหลาย ๆ ฉากทำได้สยองแบบขนลุกมาก ๆ แค่ฉากเปิดเรื่องที่โพล่งมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่ากลุ่มเพื่อนนี้กำลังเจอปัญหาต้องสาปที่อาจพาทุกคนไปตายได้ หากจุ๊บเล็กไม่เผยความจริงเรื่องราวที่เธอเจอผีด้ายแดงพร้อมกับเมย์ ก่อนที่จะตัดเรื่องไป 1 สัปดาห์ก่อนหน้าและค่อย ๆ ปูรายละเอียดที่เติมเต็มความสงสัยของเราก่อนหน้า ด้วยปริศนาและความลึกลับที่มากขึ้น ๆ
รีวิวหนังไทย ทำให้เราติดหนึบอยากรู้อยากดูต่อ ๆ ไป คือแบบว่าเหมือนดูหนังที่มันอินเตอร์ ๆ เลยครับ พล็อตมีส่วนผสมทั้งงานสยองของการ์ตูนแบบ จุนจิ อิโตะ และแนวคิดแบบผีญี่ปุ่นหลายอย่างเลย
ยิ่งกลางเรื่องตัวผีก็ยังทำหน้าที่ได้ดีมีมุกการหลอกที่โดดเด่นมากขึ้น มีสถานการณ์ที่ขับเน้นความสัมพันธ์ของตัวละครหลาย ๆ ตัวที่พันกันยุ่งได้แบบเคลียร์มาก ๆ คือไม่มีตัวไหนที่คิดว่าใส่มาให้รกเลย หนังใช้คุ้มมากทุกตัวจริง ๆ พอเริ่มเดินไปท้ายเรื่องหนังก็เริ่มผสมแนวหนังตระกูลอื่น ๆ ลงไปอีกนอกไปจากแนวดราม่าวัยรุ่นแบบซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น และแนวสยองขวัญแบบ The Ring ที่หนังเกริ่นมาแต่แรก
ไอ้แนวหนังอื่นที่ใส่มานี่ล่ะครับ เป็นทั้งจุดดีและจุดด้อยของหนังไปพร้อม ๆ กัน เชื่อว่าคนที่ดูถึงตรงนี้จะเหวอทุกคน และเริ่มปรับมู้ดหนังมาอีกแบบเลยจากเดิมที่น่ากลัวโคตร ๆ อย่างเดียว ซึ่งก็ดีคือโคตรกล้า สร้างอะไรแหวก ๆ ใหม่ ๆ ให้ได้คิดได้สนุก มีคุณสมบัติเป็นหนังปรากฏการณ์เรื่องใหม่ได้เลยนะ แต่ในอีกด้านมันก็โดดพรวดเข้ามาแบบขาดการให้เงื่อนไขหรืออธิบายกฏของเนื้อเรื่องใหม่ ทำให้เรารู้สึกเชื่อได้ไม่เต็มร้อยและการแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างของตัวละครก็ดูไร้ที่มาจนต้องสบถว่า เฮ้ย เอ็งรู้ได้ไงฟระ แต่ก็เป็นเพียงรอยตำหนิเพียงเล็กน้อยครับ เพราะทักษะการเล่าเรื่องของหนังยังเอาคนดูอยู่จนจบ ก็เพียงให้รู้สึกเสียดายว่าหนังน่าจะสมบูรณ์ได้มากกว่านี้
ข้อด้อย มีเล็กน้อยครับ เพราะผู้กำกับเก่ง การกำกับภาพสวย เพลงดนตรีคุมโทนได้ขนหัวลุก เรื่องก็มีพล็อตที่เข้มแข็งและดูอินเตอร์มาก ๆ ดารานักแสดงตัวละครมีสเน่ห์ไม่ได้ใส่มาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แต่อย่างใด หลายคนน่าจะแจ้งเกิดจากเรื่องนี้ได้เลยอย่าง อุ้ม หลิว เหม่เม เอิร์ธ และเติร์ก ที่เด่นมาก ๆ นี่ยังรวมถึง เบสท์ และพลอยที่เล่นดีเสมอต้นเสมอปลายอย่างน่าชื่นชมอยู่แล้วด้วยนะ จุดอ่อนอย่างเรื่องซีจีหน้าผีเละ ๆ ที่ดู ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ค่อย ๆ น่ากลัวน้อยลง ๆ กับเรื่องของเหตุผลแบบแฟนตาซีไร้ที่มาที่ไปที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็เลยดูเล็กน้อยไปมากครับ

อ่อข้อเสียอีกข้อคือ หนังปูทีเซอร์ ปล่อยตัวอย่างยั่วมาอย่างดี แต่มาตายตรงดีไซน์โปสเตอร์ที่ทำเอาไม่น่าดูเท่าไหร่ไปเลย คือตัวหนังดูดี ดูทันสมัยและมีอะไรกว่าในโปสเตอร์เยอะนะ
สยามสแควร์เป็นหนังที่เราอาจทั้งชอบมากและเกลียดมากไปเลย ซึ่งไอ้หนังแบบนี้ล่ะครับที่เขาเรียกว่ามีของ ถึงจะสร้างความรู้สึกรุนแรงกับคนดูหลังหนังจบได้แบบนี้ ไม่ว่าจะชอบจะไม่ชอบแต่สิ่งหนึ่งที่พูดได้คือหนังกล้ามาก ฉลาดมาก น่ากลัวมาก และเป็นหนังที่ตีตั๋วไปเชียร์หนังไทยได้อย่างไม่เสียดายตังค์ครับ
ดูหนัง 4k สยามสแควร์ เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพของ Mary Is Happy, Marry Is Happy และ 36 ของผู้กำกับขวัญใจฮิปสเตอร์ พี่เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
สยามสแควร์ ใช้สยามสแควร์…แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของวัยรุ่นไทย…เป็นฉากหลังของภาพยนตร์ แต่คราวนี้ต่างจาก รักแห่งสยาม ตรงที่เขาจะเล่าตำนานสยองขวัญของสยามสแควร์ เรื่องของเด็กผู้หญิงที่หายไปอย่างลึกลับจากเหตุการณ์ไฟดับเมื่อ 30 ปีก่อน
รีวิวหนัง สยามสแควร์
ดูหนัง อย่างไรก็ตาม หนังเขาก็ไม่ได้ใช้โลเกชั่นสยามสแควร์คุ้มค่ามากมายสมกับที่อุตส่าห์ตั้งชื่อหนังว่า สยามสแควร์ แต่อย่างใดหรอกนะ ประมาณเกือบ 80% ของหนัง เขาก็ถ่ายในห้องเรียนพิเศษเล็ก ๆ ในตึกกวดวิชาเก่า ๆ ก็เท่านั้นแหละ มีเดินไปเดินมาในซอยอื่นบ้าง หรือไปนั่งร้านมิลค์พลัสบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใดมากนัก
ตัวละครหลักมีทั้งหมด 10 คน เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษที่เดียวกัน ได้แก่ เมย์ (อุ้ม อิษยา), จุ๊บเล็ก (ต้นหลิว มรกต), นิด (พลอย จากอาปัติ), เติร์ก (ภีม จากฮอร์โมนส์), ม่อน (เบสท์ ณัฐสิทธิ์ จากตั้งวง, อวสานโลกสวย, MV อ้าว), หมูหวาน (ปลื้ม ปุริม จากเกรียนฟิคชั่น), นิวตัน (เอิร์ธ อติคุณ หรือสมพงษ์ ฮอร์โมนส์), ปอนด์ (บอนน์ มนภัทร), เฟิร์น (เหม่ยเหมย ธัญญวีร์), และมีน (คิ้ว อนงค์นาถ)
ตัวละครทั้งหลายข้างต้นเป็นจุดอ่อนสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะตัวละครมันมีเยอะเกินไปอย่างกับทีม Avengers แล้วหนังก็พยายามจะให้แต่ละตัวมีเส้นเรื่องของตัวเอง จนเกิดเส้นเรื่องที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป เช่น รักหลายเส้าอิรุงตุงนังตามประสาวัยว้าวุ่น

เรื่องรักหรือเรื่องประเด็นวัยรุ่นวัยว้าวุ่นเนี่ย ใส่มาได้นะไม่ผิด ไม่ได้ว่าเลย ดีซะอีกที่ใส่ แต่แค่อยากให้ใส่มาแล้วมันลงตัวกับพาร์ทอื่น ๆ ของหนังมากกว่านี้ ไม่ใช่ทำแล้วเละ ๆ งง ๆ อย่างตอนหนังเรื่อง รุ่นพี่ ที่พลอยชมพูเล่น มันก็ใส่นะ ไม่ได้ดีมากอะไร แต่ก็ยังทำได้ดีกว่า สยามสแควร์ อะ ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะเรื่อง รุ่นพี่ มันยังไม่มากหมอมากความขนาดนี้ด้วยกระมัง
แล้ว สยามสแควร์ เนี่ย มันไม่ใช่แค่มีหลายเส้นเรื่องนะ แต่มันเส้นที่แบบ ดูหนังออนไลน์ 4k…จะผูกมาทำไมก็ไม่รู้ ผูกมาแล้วก็ทิ้ง คือดูจบแล้วก็ไม่รู้ว่า สรุปแก๊ง Ghost Your Dad ของม่อน (เบสท์) ได้ส่งคลิปล่าท้าผีส่งเข้าประกวดหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเฟิร์น (เหม่ยเหมย) จะเล่นเปียโนต่อมั้ย ฯลฯ
มิหนำซ้ำตัวละครอันเยอะแยะมากมายนั้นยังได้รับการเกลี่ยบทบาทที่ไม่เท่ากัน เข้าใจว่าอีเมย์ (อุ้ม) เป็น center ของเรื่องนะ แต่คนอื่นอีก 9 คนน่ะ บางคนแทบไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับอีเมย์ซึ่งเป็น center ของเรื่องเลย ไม่มีความสำคัญกับเรื่องด้วย ประมาณว่าตัดอีนี่ทิ้งไป หนังก็เหมือนเดิมอะ เช่น ดูจนจบแล้ว เราก็ยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าเพื่อนสนิทนางเฟิร์นชื่อมีน ต้องมา Google เอง เป็นต้น แต่ต้องชื่นชม โอปป้าเบสท์ ที่ขโมยซีนและเรียกเสียงฮาได้ทุกช็อตจริง ติอย่างเดียวคือใช้คำหยาบเกินความจำเป็นจนเหมือนพยายามตั้งใจหยาบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
ในส่วนของความหลอนหรือความน่ากลัว หนังเขาดูมีความตั้งใจและพยายามที่จะทำให้หนังออกมาเป็นหนังผีที่ทันสมัย แปลกใหม่ โดนใจวัยรุ่น ซึ่งยอมรับว่าชื่นชมในความกล้าที่จะทำหนังผีแนวนี้ แต่เรื่องราวของตำนานผีสยามและสัญลักษณ์ผีสางทั้งหลายมันควรจะออกมาดีกว่านี้มาก ๆ หากตัดตัวละครและประเด็นยิบย่อยนั่นออกไปซะ และอีกอย่างนึงคือ… เป็นหนังผี จะใช้เทคนิค Jump Scare เราก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่เปลี่ยนซาวนด์หรือลด Volume ของซาวนด์หน่อยเถอะ นี่คือตกใจเสียงซาวนด์ประกอบตุ้งแช่มากกว่าสิ่งที่หนังตั้งใจให้เราตกใจกับมันเสียอีกค่ะ

แต่พาร์ทตำนานผีที่เป็น Untold Story เนี่ย ยังทำออกมาไม่ค่อย convincing สักเท่าไหร่ โลเกชั่นในส่วนของสถาบันกวดวิชานั่นก็ด้วย สภาพโทรมซอมซ่อเกินกว่าจะเรียกได้เต็มปากว่าเป็นสถาบันกวดวิชาย่านสยามสแควร์ สภาพนี่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีผู้ปกครองยอมจ่ายตังค์ให้ลูกหลานมาเรียนได้ ยิ่งค่ำ ๆ ดึก ๆ นี่… อย่าว่าแต่กล้าขึ้นมาผูกด้ายแดงกับเก้าอี้คนเดียว(เพื่อขอให้สอบติด)เลย นี่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเด็กกล้าขึ้นมานั่งเรียนในคลาสค่ำ ๆ มืด ๆ
แต่ถ้าถามว่าโดยรวมดูได้มั้ย… เออ สยามสแควร์ ก็เป็นหนังไทยที่ดูได้อยู่นะ ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก คือก็มีประเด็นวัยรุ่น เช่น เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องความต้องการการยอมรับ ฯลฯ คือก็พอมีอะไรใหม่ ๆ ให้ดู ถึงแม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ที่มั่ว ๆ งง ๆ เป็นต้มจับฉ่ายไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็พอมีรสชาติอยู่บ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยที่สุดดาราเด็ก ๆ หลายคนก็เจริญหูเจริญตา และน้องเบสท์โอปป้าก็มอบความบันเทิงให้เราได้ไม่น้อย
เอาเป็นว่าโดยสรุปคือ มันไม่ใช่หนังดี แต่อย่างน้อย มันยังไม่ใช่หนังที่เราเกลียด และเรายังเห็นความตั้งใจของคนทำหนัง จนเราด่าไม่ลง (แต่อยากให้เอาข้อติติงของเราไปปรับปรุงกับเรื่องหน้า ๆ น้า~)