รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL

เมื่อการรวมตัวกันเล่น “เกมผีออนไลน์” (เกม AR) ของพวกเขาบังเอิญทำให้แตงถ่าย “ภาพติดผี” ได้ที่ตึกร้างแห่งนั้น เธอและคิตตี้จึงรีบส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นๆ รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL ด้วยความท้าทายและคึกคะนองในการแกล้งเพื่อนที่กลัวผี โดยไม่รู้เลยว่าความสยองที่ถูกแพร่กระจายไปในมือถือนั้นอาจจะเล่นงานพวกเขาและคนรอบข้างจนถึงตายได้

หนังผีไทยที่เล่นกับความทันสมัยอย่างโซเชี่ยลฯ มาให้ท้าทายกันอีกแล้ว งานนี้ได้ผู้กำกับหญิงอย่าง มนัสนันท์ พงษ์สุวรรณ ที่เคยทำหนังอย่าง โรงเรียนผี มาถ่ายทอดความเฮี้ยน จริง ๆ ส่วนตัวชอบงานของเธอใน โรงเรียนผีนะ มีหลายอย่างที่ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียวทั้งการปั้นแต่งเรื่องและเมคอัพผีที่หลอนดิบได้ใจดี แม้จะมีหลุด ๆ ในการใส่อารมณ์ตลกมาไม่ค่อยเนียนนัก ก็หวังอยู่ลึก ๆ ว่าเรื่องนี้น่าจะมีความสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากขึ้น ๆ
หนังได้ดาราคุณภาพคลื่นรุ่นใหม่ของวงการมาร่วมหลายคนเลย ทั้ง พลอย ศรนรินทร์  ที่ต้องรับบทนำฝ่ายสาว ๆ คู่กับ จ๋า สุธีธิดา และสมทบด้วยฝ่ายชายอย่าง อ๋อง ธนา และ เบสท์ ณัฐสิทธิ์  ซึ่งรายหลังนี่ได้บทในหนังดี ๆ หลายค่ายแล้วน่าจะเป็นความหวังของวงการหนังไทยได้ในอนาคต ส่วนสาวพลอยนี่ยิ่งตอกย้ำว่าเธอเป็นนักแสดงประสิทธิภาพสูงที่เล่นได้หลากหลายแนวและทำได้ดีเสมอจริง ๆ น่าเสียดายที่เธอควรมีหนังฮิตหนัก ๆ ได้แล้ว ดูหนังออนไลน์
 ซึ่งก็น่าเสียดายอีกที่หนังใช้พลังของพลอยและเบสท์ได้ไม่เต็มศักยภาพนัก โดยเฉพาะความรู้สึกของความเป็นเพื่อนระหว่าง พลอย กับ จ๋า ที่ต้องแบกหนังร่วมกันนั้นรู้สึกได้เบาบางมาก จนหลายฉากเราจะสงสัยว่ามันเป็นเพือนที่สนิทกันจริง ๆ เหรอ พินิจซ้ำเข้าใจว่าหนังเล่นปมกับอารมณ์ที่ต้องโยงฉากนู้นนี้มากไปจนทำให้ไม่สามารถสร้างสถานะของอารมณืในซีนนั้นได้ เหมือนเป็นซีนที่ต้องให้เห็นความสนิทสนมและเป็นเพื่อนตายกันได้
แต่นักแสดงกลับต้องพยายามแสดงปมเบื้องลึกในใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับซีนนั้นอยู่ตลอดเวลา ดูหนัง ทั้งเรื่องอิจฉาครอบครัวเพื่อน หรือคิดว่าเพื่อนชอบเรียกร้องความสนใจ จนซีนง่าย ๆ ที่จะให้คนดูรู้สึกเอาใจช่วยสองคนนี้ก่อนมันหายไป จากซีนง่ายก็กลายเป็นยากโดยไม่จำเป็น ยิ่งหนังพล็อตไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักเลยด้วย
ซึ่งตรงนี้เป็นข้อพลาดร้ายแรงที่หนังไม่สามารถทำให้เราเชื่อในตัวละครเอกได้ พอไม่อิน มันจะนำพาไปเจออะไรก็กลายเป็นเรื่องทะแม่ง ๆ ไปเสียหมด
หนังมีประเด็นสะท้อนสังคมผ่านผี ว่าด้วยเรื่องของการส่ง-รับเทคโนโลยีโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ความแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของข่าวสาร ที่อาจไม่ทันได้ไตร่ตรองและนำภัยมาหาผู้คนที่เล่นเอง ซึ่งทำให้ชวนนึกถึงพวกภาพข่าวโหด ๆ ที่บางคนชอบแชร์ทั้งที่ไม่มีใครร้องขอ
หรือแม้แต่การไลฟ์สดการฆ่าตัวตายหรือความรุนแรงต่าง ๆ เรีกว่าหนังมีจุดตั้งต้นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียวที่จะสะท้อนสังคม จนเป็นชื่อหนังที่สื่อชัดเจนว่า ไวรัล ผีโทรศัพท์ แต่ก็น่าเสียดายที่คำว่าไวรัลไม่ได้ถูกเอามาใช้เลย มีเพียงบทสนทนาสั้น ๆ
ว่าใครได้รับภาพผีไปจะเป็นยังไงหว่า ซึ่งในเรื่องก็ไม่แสดงผลของความใจไวของวัยรุ่นจุดนี้อย่างจริงจังเลย ดูหนังออนไลน์ 4k ตัวละครหนึ่งที่ตายก็ดูเป็นเรื่องความบังเอิญมากกว่าผลของการส่งแชร์ไม่คิด จนแปลกใจที่หนังพลาดประเด็นที่เอามาคิดเป็นพล็อตหนังเองไปได้อย่างไร
แถมหนังยังมีความไม่สมจริงมากมายที่บางครั้งทำเอาต้องหัวเราะในความแฟนของตัวละคร ที่แม้ผีจะออกมาหลอกหลอนขนาดไหนแต่ก็ยังคงใช้กล้องมือถือถ่ายไปอยู่อย่างนั้น ทั้งการเฉลยวิธีปราบผีก็เป็นการคุยกันโดยนึกคิดกันเอาเอง ราวกับอยู่ดี ๆ ก็บรรลุฌานวิเศษกันขึ้นมาแล้วก็บังเอิญเดาถูกเป๊ะเสียอย่างนั้น โดยไม่ได้ใส่คำใบ้ที่เพียงพอจะยอมรับได้ว่าทำไมต้องปราบผีด้วยวิธีนี้
รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL
จุดที่หนังทำได้อย่างยอดเยี่ยมกลับกลายเป็นการสร้างบรรยากาศการเดินหาผีในความมืด ที่ทั้งเสียงภาพ ฉาก ส่งให้ขนลุกเกรียวได้ แต่ก็เหมือนเป็นฉากไม้ตายที่คิดมาแล้วหาทางดันพล็อตมาให้ใช้สถานที่แบบนี้ให้ได้ เราเลยไม่ค่อยอินในการที่ตัวละครจะต้องมาทำอะไรเสี่ยง ๆ ในตึกร้างกันเพียงลำพัง เพราะจริงแล้วมันมีทางออกอื่นอีกมากมายที่หนังเลือกจะข้ามไม่อธิบายว่าทำไมตัวละครเลือกวิธีนี้ทันที จริง ๆ การสร้างเหตุผลกดดันตัวละไล่บี้ให้เหลือทางเดียว และเป็นทางที่เสี่ยงที่สุด น่าจะสร้างความรู้สึกร่วมกับคนดูได้มากกว่านี้ด้วย
การใช้เกมเสมือนจริงในพื้นที่จริง ก็นับว่าแปลกใหม่พอสมควร โดยเฉพาะระบบการเล่นแบบที่ผุ้เล่นคนหนึ่งสร้างบ้านผีและจุดผีหลอก ให้ผู้เล่นอีกคนเข้าไปเล่นและตามหาผ้ายันต์เพื่อจบเกม ก็สามารถสร้างโมเม้นท์การแกล้งหรือทำลายมิตรภาพจอมปลอมของกันและกันได้ไม่ยาก แต่หนังก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้นัก แล้วกลับไปใช้เกมนี้ในแบบที่ทำลายความรู้สึกคนดูเสียด้วยซ้ำ เพราะในแากที่ตัวละครเคลียร์ใจกลับมาสนิทกันแล้ว ดูหนัง 4k แต่ต้องมาเล่นเกมนี้อีกครั้ง ไอ้เพื่อนที่เป็นคนต้องสร้างฐานก็เหมือนลืมไปว่ามาเล่นเพื่อปราบผีไม่ได้กะเอาให้เพื่อนสติแตกตาย พี่ท่านก็ประเคนผีมานับครั้งไม่ถ้วน แถมยังประวิงเวลาให้เพื่อนเดินวนไม่ให้จบเกมทั้งที่ไม่มีความจำเป็นอะไรขนาดนั้นเลย ซ้ำยังหัวเราะคิกคักอีก มันก็กลับไปจุดที่ว่าแล้วจะให้เชื่อได้ไงว่าสองคนนี้มันคือเพื่อนกัน พอมาฉากท้ายเราเลยยิ่งรู้สึกเฉยกับคู่เพื่อนนี้ไปใหญ่
ว่ากันตามตรงหนังมีวัตถุดิบที่น่าสนใจเยอะมาก ทั้งเกมเออาร์ที่มาเจอผี การส่งต่อรูปผีที่ทำให้ผีไปตามหลอกหรือฆ่าตัวละครที่ได้รับ ปมความขัดแย้งระหว่างเพื่อนที่ซ่อนลึก ๆ ในใจของกันซึ่งขยายพล็อตดราม่าได้เข้มข้น นักแสดงระดับชั้นดีที่สามารถเล่นบทบาทอะไรก็ได้ แต่หนังก็พลาดในการสร้างอารมณืร่วมอย่างน่าเสียดาย โดยยังไม่นับเรื่องกราฟฟิกเกมที่คนเล่นเกมมือถือประจำดูยังไงก็ไม่เชื่อ เมคอัปผีที่เคยทำได้ดีมาก ๆ ในโรงเรียนผี มาเรื่องนี้ดูธรรมดาไป
 แถมผียังเดินเตร่ไปทั่วไม่มีทีท่าสนใจจะเข่นฆ่าคุกคามชีวิตตัวละครเลย เหมือนแค่อยากมาให้เห็นเฉย ๆ จนขาดความกดดันไปอีก ผลลัพธ์จากความผิดบาปบทลงโทษคนส่งคนรับที่ไม่ชัดเจน ปมและการเดินเรื่องที่เดาง่ายเกินไป และการตัดต่อที่เหมือนนึกอะไรไม่ออกแล้วใช้เฝดภาพตลอดจนรู้สึกได้ว่ามากไป การตัดต่อเล่าเรื่องที่พยายามจะหลอกช่วงเวลาให้เดาไม่ได้แต่ดันไม่ได้ผลอะไรกับเนื้อเรื่องเลย รมถึงบางฉากการกำกับอารมณ์ดูไม่ปะติดปะต่อ ก็เป็นอีกหลายโจทย์ที่ทำลายตัวหนังเอง
หนังน่าจะตอบโจทย์เด็กวัยรุ่นที่แสวงหาหนังบรรยากาศน่ากลัว ๆ รีวิวหนังไทย สนุกกับการดูตัวละครเข้าไปหาที่ตายเอง และไม่ชอบความซับซ้อนต้องคิดอะไรมากมายนัก ถือว่าทำเจาะกลุ่มนี้ได้โอเคครับ
ผีโทรศัพท์ viral ภาพยนตร์ไทยในแนวสยองขวัญ ที่ได้นำเอาความลี้ลับมาพ่วงไว้กับเครื่องมือสื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันจะเป็นช่องทางนำพาวิญญาณให้มาเจอมาพบกับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือได้อย่างไม่คาดคิด จนทำให้เกิดเรื่องราว และเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่น่าแปลกประหลาดใจ ว่าทำไมอะไรคือเหตุผลที่วิญญาณตนนั้น ต้องการสื่อสารหรือจะบอกอะไรบางอย่างกับเราผีโทรศัพท์
รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL
เรื่องราวต่าง ๆ เริ่มต้นมาจากการนัดรวมตัวของเพื่อนซี้ 3 คนคือ แตง ( พลอย ศรนรินทร์ ) คิตตี้ ( จ๋า สุธีธิดา เกียรติกิจเจริญ ) และ ไตเติ้ล ( อ๋อง ธนา ) นัดกันไปเล่นเกมจับผีเพื่อไปอำลาตึกเก่า ที่เคยเล่นกันในช่วงตอนวัยเยาว์ ก่อนที่ตึกนี้จะโดนทุบทิ้งไป ทำให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับแตง ที่บังเอิญไปถ่ายรูปผีจริง ๆ ได้เข้าให้ และก็ส่งรูปนั้นให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ดู คิตตี้ได้เห็นรูปผีก็เลยแกล้งส่งรูปผีนั่นให้กับ วิทย์ ( เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ )
 แฟนของเธอดูด้วย โดยเล่าว่าแตงถ่ายรูปนี้ได้เอง  แตงกับวิทย์ได้รู้จักกัน จนทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันระหว่างเพื่อนรัก ที่เกี่ยวกับวิทย์เป็นต้นเหตุ ทำให้แตงกับคิตตี้แตกคอกัน จนไตเติ้ลมาตายไป แตงเชื่อว่าใครเห็นรูปผีนั่นจะต้องตายแล้วใครจะเป็นรายต่อไป แตงและคิตตี้กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง และร่วมมือกันที่จะหาความจริงว่าวิญญาณในรูปที่มือถือ เธอต้องการอะไรกันแน่
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้นะครับ ตามความรู้สึกของผู้เขียนเองรู้สึกชอบในส่วนของโลเคชั่น ที่เป็นตึกร้างมาก ๆ เพราะมันทำให้รู้สึกว่าเวลาที่ดูแล้วได้ลุ้นไปตามกับนักแสดงได้ดี บรรยากาศมืดวังเวง และน่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว และอีกอย่างต้องขอชมเลยว่าหนังเรื่องนี้มี Sound ประกอบที่สุดยอดตื่นเต้น ให้เสียงดีมาก ทำให้คนดูได้รับความตื่นเต้น และตกใจไปพร้อมกับเสียงประกอบแทบจะทุกซีน แต่ก็มีส่วนน่าเสียดายเกี่ยวกับบทสรุปของหนังนิดหน่อย
เพราะเป็นหนังที่สั้นและจบไว ทำให้ความกลมกล่อมมันขาดหายไปนิดนึง คือมันยังไม่ค่อยสมบูรณ์กับเนื้อเรื่องที่ให้เพื่อนมาแตกคอกัน กับแค่การเข้าใจผิดนิดหน่อยเท่านั้น แต่ดูอีกฝ่ายกับแก้แค้นกันรุนแรงแบบนี้เชียว ไม่เหมือนกับเป็นเพื่อนกันเลยนี่คือส่วนที่ขัดใจในเรื่องเขียนบท แต่ซีนตื่นเต้นหนีผีนี่เรื่องนี้ทำดีใช้ได้ผีโทรศัพท์

รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL

การแสดงของนักแสดงในเรื่องนี้ ก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมายนัก เล่นไปตามบทบาทที่ได้รับ เพราะหนังแนวสยองขวัญมักจะเน้นฉากที่ตื่นเต้นที่ต้องหนีผีมากกว่า เลยทำให้ไม่ค่อยจะมีฉากดราม่า หรือซีนอารมณ์สักเท่าไหร่ นักแสดงจึงไม่ต้องโชว์ศักยภาพทางการแสดงอะไรมากมาย แต่โดยรวม ๆ แล้วก็ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไร ก็แสดงได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียวในหนังเรื่องนี้ผีโทรศัพท์
ภาพยนตร์เรื่องผีโทรศัพท์นี้ก็เป็นภาพยนตร์สยองขวัญ ที่น่ากลัวอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวแม้หนังจะสั้นไปนิดรายละเอียดของเนื้อเรื่องจะน้อยไปสักหน่อย แต่ก็ได้รับอรรถรสในเรื่องของความตื่นเต้นความน่ากลัวตกใจได้ดีเลย ใครที่ชอบหนังแนวผีแบบสะดุ้งโหยง ผีโผล่ออกมาทีตกใจจนหัวใจแทบวายอะไรประมาณนี้ ผู้เขียนขอแนะนำลองไปหาดูกันได้นะครับเรื่องนี้ กับภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเรื่อง ผีโทรศัพท์
ภาพยนตร์ไทยสยองขวัญเรื่องล่าสุดของผู้กำกับหญิง “มนัสนันท์ พงษ์สุวรรณ” เล่าเรื่องราวของแก๊งเพื่อนซี้ “แตง” (พลอย ศรนรินทร์), “คิตตี้” (จ๋า สุธีธิดา), “ไตเติ้ล” (อ๋อง ธนา) พร้อมด้วย “วิทย์” (เบสท์ ณัฐสิทธิ์) แฟนหนุ่มของคิตตี้ ที่แม้จะมีฐานะแตกต่างกัน แต่พวกเขาต่างก็เติบโตและใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อวันหนึ่งสถานที่ที่พวกเขาผูกพันกำลังจะถูกรื้อทำลาย ทั้งหมดจึงนัดกันไปรำลึกความหลังกันเป็นครั้งสุดท้าย
แต่แล้วความทรงจำที่พวกเขาหวังจะได้เก็บมันไว้เป็นที่ระลึก กลับแทนที่ด้วยความหลอนระทึกที่ยากจะลบมันทิ้งไปจากชีวิต เมื่อการรวมตัวกันเล่น “เกมผีออนไลน์” (Ghost Hunt) ของพวกเขาบังเอิญทำให้แตงถ่าย “ภาพติดผี” ได้ที่ตึกร้างแห่งนั้น เธอและคิตตี้จึงรีบส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นๆ ด้วยความท้าทายและคึกคะนองในการแกล้งเพื่อนที่กลัวผี โดยไม่รู้เลยว่าความสยองที่ถูกแพร่กระจายไปในมือถือนั้นอาจจะเล่นงานพวกเขาและคนรอบข้างจนถึงตายได้
รีวิวหนัง ผีโทรศัพท์ VIRAL
ส่วนแรกคือทีมงานที่ใกล้ชิดกันส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ทุกคนจะติด “มือถือ” และเล่นเกมตลอดเวลา จนตีสามมันก็ไม่หลับไม่นอน แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่แต่วัยรุ่นหรอก พวกเราทุกคนล้วนติดมือถือด้วยกันทั้งนั้น จนมันแทบจะเป็นยิ่งกว่าอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ถ้าแบตหมดหรือโทรศัพท์หายนี่นับเป็นความหายนะมากๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็มีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีมันติดตัว แต่สมัยนี้ไม่ได้เสียแล้ว…
อีกส่วนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติในหนังเรื่องนี้คือเรื่องผี “การถ่ายติดภาพผี” ซึ่งส่วนนี้เป็นประสบการณ์ตรง ตอนที่ถ่ายทำเรื่อง “โรงเรียนผี” เมื่อสองปีก่อน ในช็อตที่โก๊ะตี๋วิ่งลงบันไดมากับเจ้าด๊อง-หมาคู่ใจ ปลายเฟรมจะถ่ายติดคนใส่เสื้อสีส้มแขนยาว ซึ่งตอนถ่ายเราไม่เห็น ตากล้องไม่เห็น ไม่มีใครเห็นเลย จนตัดเสร็จก็ส่งไปที่คนทำซีจี แล้วนั่งดูด้วยกัน เขาเห็นคนแวบๆ ใส่เสื้อสีส้ม เราก็ตกใจ มาดูกันอีกทีก็เป็นคนที่เราไม่คุ้นหน้า ไม่ใช่ทีมงาน และยืนอยู่ในจุดที่ทีมงานไม่มีทางมายืน เพราะมันคือส่วนหนึ่งของเฟรมที่ถ่าย และคนนอกก็ไม่มีทางมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะกลางคืนปิดตึกถ่าย
จากนั้นก็เริ่มมี “การส่งภาพ” นี้ไปตามทีมส่วนต่างๆ ซึ่งสงสัยว่าเป็นช่างไฟ แต่ทางทีมไฟก็ปฏิเสธกลับมาว่า ไม่มีทีมไฟหน้าตาแบบนี้แน่นอน ก็เลยคิดว่าคงไม่ใช่คนแล้วล่ะนะ แต่ระหว่างที่ส่งรูปนี้ไปยังคนอื่นๆ เพื่อเช็กว่า “มันเป็นคนหรือผี” เราก็ไม่กล้าที่จะเก็บภาพนี้ไว้ในเครื่อง เพราะมีความกลัวเหมือนกัน เราก็เลยลบภาพทิ้งไป
ตรงนี้เลยเป็นที่มาของกติกาในหนัง “ผีโทรศัพท์” ว่า ถ้าเรายัง “เก็บภาพผี” นี้ไว้ ผีจะมีโอกาสออกมา “หลอก” เราได้มั้ย เพราะมันมี “มีเดีย” แล้วเป็น “เครื่องโทรศัพท์” นั่นเอง
สองส่วนนี้เมื่อมารวมในหนัง ผนวกกับที่เราชอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิท ที่คิดว่าหลายคนก็น่าจะมีประสบการณ์ร่วมอยู่ นั่นคือ “ความสัมพันธ์แบบ Love–Hate Relationship” ที่เพื่อนสนิทมักจะเป็นกัน มันมีทั้งความรักและความชังผสมกันอยู่
หลังจากที่ทำหนังผีมาแล้ว 2 เรื่อง ทุกเรื่องเราพยายามที่จะทำสไตล์ให้มันแตกต่างกันอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับ Mood and Tone ของหนัง อย่างใน “บองสรันโอน” (2558) จะออกแนวมินิมอล ส่วนใน “โรงเรียนผี” (2559) ตั้งใจให้เป็นวินเทจ ขณะที่ใน “ผีโทรศัพท์” (2561) ก็จะออกมาอีกสไตล์หนึ่งเลย ในแง่ของการเคลื่อนกล้องและการถ่ายทำ Movement และ Pacing ของงานด้านภาพ