รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป

บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อป” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง สงครามแอปที่จะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะลงเอยอย่างไร แล้วคู่แข่งธุรกิจกับความรักจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ต้องติดตาม

หนังจากค่าย T Moment ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นค่ายหนังความหวังหนึ่งของคอหนังไทยเลยนะ โดยเฉพาะกับหนังระลอก 2 ที่ค่ายนี้เตรียมปล่อยโดยเริ่มที่หนังเรื่องแรกคือ App War นี่เอง หนังเป็นผลงานกำกับของ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร ที่เคยกำกับหนังไทยที่ได้ใจไปแบบม้ามืดในปี 2558 เรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ ของ ค่ายโมโนพิคเจอร์ ก่อนที่จะมารวมกับ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์  ก็นับว่ามารอบใหม่ยังคงเก็บจุดเด่นในเรื่องภาพเท่ ๆ สวย ๆ เนื้อหามัน ๆ เข้าใจง่าย ๆ เข้าอกเข้าใจวัยรุ่นวัยเรียนเช่นเคย ส่วนที่พัฒนาขึ้นคงเป็นการกล้าที่จะเล่าเนื้อหาใหม่ ๆ ไม่อิงความนิยมเดิม ๆ แบบนอสตัลเกียอย่างเรื่องก่อน เพราะสตาร์ทอัปถึงจะเป็นคำฮิตที่ได้ยินบ่อยในช่วงไม่กี่ปีนี้ แต่เอาเข้าจริงเด็กไทยก็ไม่ได้สนใจหรืออยากจะเข้าใจอะไรไปมากนัก ตรงนี้ทำให้ App War มีจุดสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้หนังไทยอย่างที่ ฉลาดเกมโกง เคยทำไว้เช่นกัน หนังที่กล้าสร้างเทรนด์ที่ดีให้สังคมแบบนี้จึงเป็นอะไรที่ต้องสรรเสริญ ไม่ใช่แค่ชื่นชมเลยครับ
คู่เพื่อนที่จะกลายเป็นผู้กำกับนำวงการหนังไทย บาส จากฉลาดเกมโกง และ เสือ จาก App War
หนังใช้ดาราหน้าใหม่เป็นตัวหลัก แม้เราจะคุ้นหน้าจากงานโฆษณา หรือเอ็มวีมาบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฐานแฟนคลับยังไม่ใช่ขนาดตัวเรียกเงินทองได้ ดังนั้นค่ายก็ต้องมั่นใจในฝีไม้ลายมือกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ตรงนี้ก็ขอพูดรวบทีเดียวเลยว่า กลุ่มนักแสดงตัวหลักทั้งฝั่งพระเอก และนางเอก นั้นมีเสน่ห์น่าสนใจ แต่การแสดงนั้นอยู่ในกรอบมาตรฐานที่ดี ยังไม่ได้โดดเด้งจนจดจำนัก
อย่างพระเอก ณัฏฐ์ กิจจริต ในบท บอมบ์ โปรแกรมเมอร์เทพก็ถูกนำเสนออย่างเด็กเนิร์ดจัดที่มีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตามเนื้อเรื่องก็ทำให้ไม่ได้โชว์ฝีมือการแสดงได้จะแจ้งจนไปตัดสินได้ ฝั่งนางเอกอย่าง จูน ที่แสดงโดย วริศรา ยู แม้จะทำได้ดีในบทปะทะอารมณ์และบททั่ว ๆ ไป แต่ในโมเม้นท์เขินอายเข้าพระเข้านางก็ยังมีจังหวะแปลก ๆ ที่เห็นชัดว่าเคมียังไม่เข้ากันกับพระเอกดีนัก แต่ก็เป็นฉากสั้น ๆ ที่อาจปล่อยผ่านไปก็ได้ล่ะนะ
ด้านเพื่อนพระเอกนางเอก ก็มีความชัดเจนดี ตัวละครฝั่งจิตใจด้านมารของทั้งสองทีมอย่าง ตัวละคร ฝ้าย (ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์) และ บิ๊วท์ (อภิวิชญ์ เรียร์ดอน) ก็แสดงด้านเทาที่ความต้องการชนะอยู่เหนือความถูกต้อง ทำให้เรื่องขับไปข้างหน้าได้สนุก เพราะมันเป็นทั้งฝั่งตัวเอกที่เราอยากเอาใจช่วยแต่มันก็มีจุดหลงผิดที่เราอยากห้ามเหมือนกัน เป็นพวกเทา ๆ ที่น่าสนใจ ส่วนอีกตัวละครเพื่อนพระเอกอย่าง ไต๋ (สิราษฎร์ อินทรโชติ) คาแรกเตอร์อาจใกล้กับบอมบ์มากไปนิด แต่ ทู-สิราษฎร์ ที่เริ่มเชี่ยวชาญงานแสดงก็หาจุดน่าจดจำของตัวละครนี้ได้ เรียกว่าเอาตัวรอดเก่ง
ความเซอร์ไพร้ส์และต้องยืนปรบมือให้รัว ๆ กลับเป็น 2 นักแสดงสมทบที่ได้พื้นที่และเวลาของตัวเองแบบพอดีมาก ๆ ไม่ล้นจนอวยและไม่น้อยจนไม่รู้จะใส่มาทำไม แถมการแสดงของทั้งสองคนก็ทำให้หนังสนุกขึ้นมาก ดีขึ้นมากด้วย และคนแรกก็คือ เอ็ดดี้ เสือร้องไห้ ในบทรุ่นพี่แก๊งยิงเลเซอร์ ที่ต้องบอกว่าขโมยซีนได้โคตรเก่ง ฉากของเขาเรียกสีสันความฮาได้มาก แล้วยังทำให้ตัวละครอื่น ๆ
อย่างพระเอกนางเอกดูเล่นได้ตลกเข้าขามากขึ้นด้วย คือเป็นอาวุธลับที่สุดยอดมากของหนังสำหรับเอ็ดดี้ ส่วนอีกคนคงเป็นคนที่หลายคนจับตามองนั่นก็คือ อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ หรือ อรอุ๋ง แห่ง BNK48 นั่นเอง ที่ต้องบอกว่าแม้จะเป็นการแสดงครั้งแรกก็ฉายเสน่ห์ออกมาได้อย่างไม่เก็บเม้มกันเลย คือเราโดนตกกันผ่านการแสดงของเธอจริง ๆ ทั้งบทอ้อน และบทดราม่า คือน่าประทับใจจริง ๆ
ซึ่งอรได้ถามเหล่าแฟน ๆ ให้คอมเม้นท์อย่างตรงไปตรงมาถึงการแสดงของเธอเพื่อให้เธอตัดสินใจอนาคตการแสดง ก็ขอวิจารณ์ตรง ๆ ตามเนื้อผ้านะครับว่า มีหลายช่วงที่เราเห็นการแสดงแบบเล่นตามแพทเทิร์นและยังไม่ค่อยลงตัว แต่ก็รู้สึกแค่ช่วงแรก ๆ ของหนัง เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าอรเล่นได้เนียนขึ้น อาจเพราะบทใกล้กับวัยตัวเอง จนฉากที่เธอต้องดราม่านั่นล่ะครับ เราเชื่อได้ว่าอรต้องเป็นนักแสดงที่ดีได้แน่ ๆ แต่ก็ต้องขอให้เก็บประสบการณ์และฝึกฝนด้านการแสดงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เพราะยังต้องลดจุดบกพร่องในการเล่นแนวตามสูตรและสมาธิความนิ่งในจังหวะที่รอบทเล่นให้มากขึ้นด้วย
โดยสรุปหนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังไทยที่ภาพเท่มาก ๆ คอสตูมดีไซน์ต่าง ๆ คิดมาอย่างมีรสนิยม เนื้อเรื่องมีการนำเทรนด์ทางปัญญาให้เด็ก ๆ มีฝันในยุคแห่งนวัตกรรม และยังให้เห็นอุปสรรคชีวิตจริงว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาง่าย ๆ ไม่ฟุ้งลอยเกินไปด้วย ในขณะเดียวกันแม้ข้อคิดและสาระจะมากมี แต่ก็สมดุลกับความบันเทิงที่มีเรื่องของมิตรภาพและความรักเป็นพื้นได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน
หนังอาจไม่เด็ดขาดอย่างหนังแนวธุรกิจแบบเดียวกันของฝรั่ง หรือเข้มข้นระทึกขวัญขนาดฉลาดเกมโกง แต่ก็มีความดีงามไปอีกทางหนึ่งที่หนังเรื่องที่กล่าวมาไม่อาจนำเสนอได้ คือจากใจเลยคือมองว่าสำหรับช่วงปีสองปีนี้หนังเป็นรองแค่ ฉลาดเกมโกง เท่านั้นเอง ดังนั้นเชื้อเชิญอย่างยิ่งเลยให้ทุกคนไปดูครับ ดูหนัง
บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง

รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป

ทั้งบอมบ์และจูนได้เจอกันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะคู่แข่ง เมื่อต่างคนต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นเจ้าของไอเดียแอปนี้ และไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่าย “ก๊อบ” แถมเวลาของการแข่ง Startup ครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึง และครั้งนี้มันคือการเดิมพันด้วยอนาคตของทั้งสองทีม โดยมีการระดมทุนระดับร้อยล้านเป็นเดิมพัน ทั้งสองทีมต่างต้องเอาตัวรอด พวกเขาเริ่มคิดวิธีตุกติก ยิ่งเวลาดำเนินไป แผนการล้วงลับแอปคู่แข่งของทั้งสองต่างก็เริ่มเลยเถิด และอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้นทุกขณะ
เนื่องจากในปัจจุบันนั้นการที่จะประกอบกิจการอะไรแล้วประสบผลสำเร็จนั้นก็มีหลายสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ถ้าจะพูดถึงในวงการ Programmer หรือคนทำโปรแกรม หรือ App นั้นๆ คำว่า Startup ค่อนข้างมีอิทธิพลอย่างมากเพราะ มันคือธุรกิจที่สร้างจากกลุ่มคนไม่กี่คนจนสามารถเติบโตได้อย่างมหาศาล (คงไม่ต้องยกตัวอย่างเพรามีเยอะมากในปัจจุบัน) และแน่นอนว่าทุกคนต่างมีไอเดียต่างๆมากมายที่อยากทำ หรือทำผลงานออกมาในรูปแบบของโปรแกรมหรือแอป แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินทุนทำมันได้
ดังนั้นเงินทุนจึงจำเป็นอย่างมากในการสร้างสรรค์ผลงานออกมา ไม่ว่าจะต้องใช้ไปกับการจ้างคนออกแบบ จ้างคนเขียนโปรแกรม หรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายเพื่อเป็นสื่อในการโปรโมท ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีกิจกรรมหรืองานอีเวนท์เกี่ยวกับ Startup อยู่บ่อยๆ โดยภายในงานเหล่านี้แหละที่จะเป็นโอกาสให้คนที่มีไอเดียแต่ไม่มีเงินทุน สามารถออกมานำเสนอไอเดียของตนเอง เพื่อชิงทุนต่างๆจากผู้ประกอบการต่างๆ หรือจากบริษัทต่างๆได้
จากเนื้อเรื่องนั้นในส่วนของทีม Inviter นั้นมี Co-Founder ทั้งสามคนที่เริ่มคิดไอเดียและสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาซึ่งแต่ละคนก็มีความถนัดกันแต่ละอย่างอยู่แล้ว โดยในส่วนของ บอมบ์ เป็นคนเขียนโปรแกรมหรือที่เรียกสั้นๆว่า เขียนโค๊ด และจากที่สังเกตบอมเองก็เป็นคนตัดสินใจต่างๆภายในทีมมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเลือกสี เลือกดีไซน์ หรือรวมไปถึงแผนการทำงานต่างๆ ดูหนังออนไลน์
ทางด้าน ไต๋ เป็น Designer โดยงานที่ไต๋ทำนั้นก็ค่อนข้างเฉาะเจาะจงอย่างเห็นได้ชัด และ บิ๊ว เป็นนักการตลาดและเป็นคนคอยนำเสนอผลงานในงานต่างๆ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับความเป็นจริงก็ค่อนข้างจะตรงพอสมควรเพราะการที่จะสร้างผลงานแอปขึ้นมาหนึ่งแอปนั้น บางครั้งมันก็ไม่ใช่ว่าจะทำคนเดียวได้หมดทุกอย่าง หรืออาจจะทำคนเดียวได้แต่ก็ต้องแข่งกับเวลา บางครั้งก็ต้องแบ่งหน้าที่กับคนอื่น บางครั้งก็ต้องจ้างคนเข้ามาในทีมเพื่อสร้างสรรค์ผลงานต่างๆให้ตรงตามเป้าหมาย ตรงตามเวลา
และในบางครั้งงานที่ทำ งานที่ออกแบบหรือจินตนาการก็ไม่สามารถมีสิทธิ์มีเสียงในที่นั้นๆได้ เหมือนดั่งเช่นที่ ไต๋ เคยเสนออะไรใหม่ๆให้บอมบ์ แต่ถูกบอมบ์ปฏิเสธ แน่นอนมันเป็นความผิดหวัง มันเป็นความน้อยใจและเสียใจในระดับพอสมควร และถ้ามันเป็นแบบนั้นบ่อยๆขึ้น พอได้มีโอกาสที่จะได้พบเจอคนใหม่ๆ ได้เจอคนที่มองผลงานเราว่ามันว๊าว
มันเจ๋ง เราก็มักดีใจและมีใจให้กับอีกสิ่งใหม่นั้นแน่นอน ซึ่งมันเป็นธรรมดาอยู่แล้วเหมือนที่ไต๋ได้รับคำชมจากจูนที่อยู่ทีม Amjoin
ในชีวิตจริงมีหลายครั้งที่เราทุกคนมักตั้งคำถามกับตัวเองและกับสิ่งที่ทำอยู่จนเกิดคำถามตามมามากมาย เหมือนดั่งเช่นที่ บอมบ์ พระเอกของเรื่องได้ลาออกจากการทำงานประจำเพื่อมาสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง หลายๆครั้งที่คนที่มีความคิดแบบบอมบ์ เช่น เราจะอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้, เรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่, เราทำอะไรแล้วใครก็ไม่สนใจเราเลย, เราสำคัญจริงๆหรอ ซึ่งสุดท้ายแล้วคนส่วนใหญ่นั้นเมื่อคิดได้แบบนี้ ก็มักจะวกกลับมาที่จุดเดิมคือ Comfort Zone คืออยู่แบบนี้ไม่ลำบากก็พอแล้ว มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะกล้าทำจริงๆเหมือนที่บอมบ์ทำ
และไม่ว่าจะเป็นทีมไหน ทั้ง Inviter หรือ Amjoin ก็ตาม หนังเรื่องนี้ออกมาบอกให้เห็นว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จในวงการ Startup นั้น ไม่ได้มีกันบ่อยและไม่ได้มีกันเยอะ มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราคิดว่าไอเดียของเรานั้นมันเจ๋งแค่ไหน ผูกขาดตลาดแค่ไหน ดีแค่ไหนในสายตาคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อนเรา เหมือนดั่งคำพูดที่ได้กล่าวไว้ในหนังคือ 90% จะล้มเหลว 8% ก็ไม่รู้ว่จะไปรอดหรือเปล่า และจะมีเพียงแค่ 2% เท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จในวงการนี้
รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป
รีวิวหนังไทย ถ้าจะให้พูดจริงๆในความเห็นส่วนตัวนั้น 2% ของการประสบความสำเร็จนั้น ถ้าเรามองว่ามันมี “แค่ 2%” เราก็ไม่มีทางสำเร็จตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถ้าเราพยายาม ไม่ย่อท้อ แล้วมองว่ามันมี “ตั้ง 2%” สำหรับใครหลายๆคนแล้วก็ประสบความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้ว ในวงการของ IT นั้น งานพวกนี้ต้องใช้ใจทำเป็นอย่างมาก รวมถึงความคิดที่ทันต่อโลก ความคิดสร้างสรรค์ และความอดทน เพราะนอกจากจะต้องแข่งเพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้แล้ว ยังต้องคอยแข่งกับคู่แข่งที่มีแนวคิดคล้ายๆเราอีกหลายครั้ง
ในส่วนของเนื้อเรื่องของหนังนั้นเป็นเนื้อเรื่องที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเห็น เคยคุ้นจากเรื่องอื่นที่มีความคล้ายกันมาก่อนแล้ว คือมีตัวละครสองฝ่ายพยายามจะเอาชนะกันด้วยบางสิ่งที่พวกเขาทำเหมือนกัน คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องทั่วไปก็ตาม แต่ในเรื่อง App War นั้นได้พยายามทำหนังให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นโดยการพยายามพาผู้คนไปรู้จักกับธุรกิจในวงการไอทีให้มากขึ้น ในที่นี้หนังก็จะโฟกัสไปในเรื่องของการทำ Application ซึ่งแน่นอนว่าโดนใจชาวเขียนแอปทุกคนไม่มากก็น้อย
รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป
หนังค่อนข้างมีศัพท์เฉพาะทางโปรแกรมเมอร์พอสมควร แต่ก็ไม่ได้เยอะมากเกินไปจนคนทั่วไปดูไม่รู้เรื่อง โดยแก่นของหนังที่ต้องการจะสื่อจริงๆนั้นคือโมเดลการทำธุรกิจต่างๆของคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่อยากทำงานออฟฟิซ จึงต้องมาเริ่มทำกิจการของตัวเอง รวมถึงการเสื่ยงเพื่อที่จะทำตามฝันของตัวเอง ทำตามเป้าหมายของตัวเอง สุดท้ายแล้วก็รวมไปถึงความสำเร็จและความผิดหวังต่างๆนานา ที่คนในยุคปัจจุบันนั้นต่างขวนขวายจะทำมัน
ซึ่งสิ่งนี้แหละมันจะสะท้อนให้คนยุคก่อนๆเห็นว่าคนยุคนี้เค้าพยายามจะทำอะไรกัน เพื่ออะไรกัน และหลายๆครั้งที่สิ่งที่คนยุคนี้ทำนั้นมันเป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ว่า ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบแผนของคนยุคก่อนเสมอไปดั่งเช่นที่จูนพยายามจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าคนยุคนี้เขาทำอะไรกัน
มาในด้านของงานการออกแบบและโปรดักชั่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงาน โลเคชั่นรวมไปถึงการออกแบบเสื้อผ้าหน้าผมเป็นอะไรที่ตรงกับคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการใช้ชีวิต ความคิด ตรรกะต่างๆที่พยายามจะสื่อให้เห็นว่านี่คือยุคปัจจุบันแล้วนะ มันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนๆแล้ว ซึ่งถือว่าชอบมากๆตรงส่วนนี้
รีวิวหนัง APP WAR แอป ชน แอป
และที่ชอบที่สุดคือในด้านความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เจาะลึกลงไปว่าในบางครั้งเรารู้สึกว่าเราอาจเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่เป็นแบบนี้ ชอบแบบนี้ ทำแบบนี้  กินแบบนี้ แต่เมื่อเราได้ลองเปิดใจหรือได้เจอคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน กินอะไรเหมือนๆกัน ไปที่ไหนเหมือนๆกัน มันจะสามารถเปลี่ยนมุมมองของเราไปได้มากมายแค่ไหน และยังรวมไปถึงแรงผลักดันต่างๆ แต่ในทางกลับกันสิ่งเหล่านี้ก็อาจสร้างศัตรูให้เราได้ในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงการต่อสู้กับจิตสำนึก ความถูกผิด บวกกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่ถูกสถาณการณ์บีบให้แคบเรื่อยๆ จากใสๆ กลายเป็นเทาๆ ดำดิ่งไปสู่ความหมองและอึดอัด ดูหนังออนไลน์ 4k
นอกจากความความสัมพันธ์ที่ว่ามาแล้วนั้นหนังยังเพิ่มความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนเข้ามาด้วย เพราะในการทำงานต่างๆนั้นความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำงาน เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะขัดแย้งกันแค่ไหน ไม่เข้าใจอะไรกันแค่ สิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จไม่เฉพาะแต่แค่ในวงการนี้เท่านั้น คือการมีคนร่วมทางหรือเพื่อนที่ดี เพราะคนเหล่านี้จะคอยพยุงเราและเคียงข้างเราไปจนสำเร็จได้ ดูหนัง 4k
เป็นหนังที่มีคุณภาพมาก ในแง่ของบท การนำเสนอ การสร้างคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนสุดๆ หนังนำพาเราไปรู้จักกับธุรกิจ Startup โดยผ่านมุมมองของตัวละคร ทำให้เราได้เห็นถึงปัจจัยในการอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ความคิดของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ความเสี่ยงเมื่อต้องแลกกับบางสิ่งที่ดีอยู่แล้ว รวมไปถึงความยากลำบากในการสร้างสรรค์ผลงานแอปขึ้นมาแอปนึงว่ากว่าจะออกมาได้นั้นต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง
โดยหนังก็ไม่ทิ้งส่วนของความสัมพัธ์ของตัวละครเช่นกันว่าบางครั้งความรู้สึกของคนเมื่อเราได้เจอคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ได้พบปะพูดคุยกับคนใหม่ๆนั้น มันเป็นอย่างไร มันสามารถทำให้เรามีแรงบัลดาลใจทำอะไรได้ตั้งมากมายมหาศาล รวมไปถึงก็อาจทำให้เราสร้างศัตรูได้ในเวลาเดียวกัน และที่ดีที่สุดเลยหนังยังบอกถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนด้วยกันเองเป็นอะไรที่ดูแล้วชอบมากในตรงนี้