รีวิวหนัง ผู้สาวขาเลาะ เดอะมูฟวี่อินดี้

หนัง Poo-Sao-Ka-Lor หรือชื่อไทยว่า ผู้สาวขาเลาะ เดอะ มูฟวี่ อินดี้ ลำไยกับอาม เป็นเพื่อนรักวัยเรียนระดับม.ปลาย และเพราะฐานะที่ยากจน ทำให้ยามค่ำคืนอามต้องไปร้องเพลงในร้านอาหารเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยมีแก้มใสกับพวกเป็นอริอยู่กลาย ๆ ด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว หาทางกลั่นแกล้ง 2 เพื่อนรักอยู่เนือง ๆ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที หลายครั้ง ผลกรรมก็ตกมาสู่แก้มใสกับพวกซะเอง อามแอบชอบเนม เพื่อนนักเรียนชายร่วมชั้น ที่เป็นดาวดังประจำโรงเรียน เพราะเสียงดีและมีงานร้องเพลงบนรถแห่ที่เหล่าวัยรุ่นอีสานคลั่งไคล้เป็นอย่างมาก รีวิวหนัง ผู้สาวขาเลาะ เดอะมูฟวี่อินดี้ ทุกคนต่างเตรียมลีลาการเต้น”เด้งเด้า”ไว้ประชันกันเมื่อยามมีงาน ไม่เว้นกระทั่งลำไย-อามและพรรคพวก

ที่ขนาดแอบหนีโรงเรียนไปร่วมสนุกสนานกับงานรถแห่ในวันหนึ่ง จนโดนครูใหญ่จับได้และลงโทษด้วยการตีก้น จากการฟ้องครูของแก้มใสนั่นเอง แต่ลำไยซะอย่าง เรื่องเอาตัวรอดไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด วันหนึ่งหลังร้องเพลงที่ร้านประจำจบลง มีชายหนุ่มหน้าตาดีนามว่ามอส มายื่นข้อเสนอจะนำงานไปให้ทางบริษัทพิจารณา ขอให้ทำเพลงที่แต่งเองเตรียมไว้ เพื่อให้เจ้านายขึ้นมาดูสดๆ กับตา ลำไยปิ๊งปั๊งในตัวมอสแทบจะทันที และรีบรับคำโดยไม่สนใจเลยว่าอามจะทำได้หรือทันไหม แถมยังขอร้องให้เพื่อนรักช่วยแต่งเพลงโจ๊ะ ๆ สนุก ๆ ให้อีกด้วย โดยมีเจ้าอีส อีสานพาสวบ มาร่วมวงในฐานะผู้ให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาจุกๆ จิกๆ ให้กับทั้ง 2 สาว
ทางด้านแก้มใสและพวก ได้ที่ปรึกษาด้านการแกล้งคนอย่างน้าถึกทะลุฟ้ามาเป็นกุนซือให้ ดูหนังออนไลน์ ซึ่งแต่ละแผนที่แนะนำมา ดูหนัง 4k ถ้าไม่ล้มเหลว ก็ผิดพลาด ส่งผลกับคนลงมืออย่างแก๊งแก้มใสแทบจะทุกทีไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางสลอด การยุแหย่ให้ลำไยกับอามแตกคอกัน จนถึงขั้นขโมยมาสเตอร์งานเพลงที่ลำไย-อามเตรียมไว้ให้ค่ายเพลงจากกทม. ซึ่งแผนสุดท้ายนี้เอง สร้างความโกลาหลให้กับทุกคนจนต้องมาลุ้นกันว่า เรื่องราวจะลงเอยกันเช่นไร ยังมีเรื่องของเจ้าเนมอีก
ที่วันหนึ่งเกิดสิ้นหวังท้อแท้อย่างรุนแรง เพราะการร้องประชันบนรถแห่ครั้งใหญ่ ไม่มีใครมาดูเขาเลย เพราะทุกคนไปรุมล้อมรถซุปตาร์รถแห่ตัวจริงอย่างออย แสงศิลป์กันหมด มาพบกับบทสรุปในทุกปัญหา พร้อมความสนุกสนานประสาบ้าน ๆ แต่จริงใจ ได้ในภาพยนตร์ “ผู้สาวขาเลาะ เดอะมูฟวี่อินดี้” วันที่ 29 มีนาคม 2561 พร้อมกันทั้งประเทศเด้อพี่น้อง
พอได้ยินข่าวประกาศสร้างก็รอดูมาตลอดว่าผู้สร้างจะเอาเพลงผู้สาวขาเลาะมาเล่าแบบไหน  แล้วพอทางผู้สร้างปล่อยภาพนิ่งก็ยังพอลุ้น แต่พอเห็นโปสเตอร์ตัวจริงที่คอมโพสดูยำๆ สีทื่อๆ ไดคัตดูรีบๆ จนทำให้หลายคนไม่เชื่อว่าเป็นโปสเตอร์ตัวจริง และบลาๆๆ หลังจากนั้นก็ได้แต่นั่งปลง จนกระทั่งมีข่าวว่า อุเทน ศรีริวิ  (ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้ | 2014) ที่ถูกวางตัวให้กำกับได้ถอนตัวเนื่องจากมีปัญหากับผู้สร้าง จากข่าวนี้ส่วนตัวก็นึกเป็นห่วงว่าหนังเปลี่ยนมือผู้กำกับแล้วจะออกมาเละหรือเปล่า และแล้วไม่กี่วันก่อนที่หนังจะเข้าโรงก็ได้มีโอกาสได้ชมตัวอย่างหนังแล้วก็ต้องนั่งถอนหายใจตั้งแต่มุกแรกที่ปล่อยมา ก็ได้แต่พูดว่าเอาอย่างงี้จริงๆ เหรอ!!!
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องราวที่หนังต้องการจะเล่าคือมิตรภาพและเส้นทางที่มาที่ไปของการกำเนิดเพลงผู้สาวขาเลาะตามชื่อเรื่องและความสำเร็จของเพลงนี้และเพลงอื่นๆ นั้นดีงามด้วยตัวต้นเรื่องของมันเอง แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เลือกมาใช้เล่าทุกชีวิตที่ดำเนินไปนั้นกลับลดค่าทุกอย่างลง รู้สึกว่าชีวิตของตัวละครเหล่านี้ที่ส่วนหนึ่งนำเค้าโครงมาจากชีวิตจริงมันสามารถทำให้ดูมีคุณค่ากว่านี้ได้น่า หนังล้มเหลวแทบทุกองค์ประกอบทางภาพยนตร์ที่จะสามารถเป็นหนังที่ดีได้ ทั้งบทหนังที่เลือกสถานการณ์ต่างๆ มาเล่าเรื่องราวได้ไร้มิติสุดๆ มุกตลก งานสร้าง โดยเฉพาะการกำกับ  การกำกับภาพ
และดนตรีบวกซาวด์เอฟเฟ็กต์ประกอบความพยายามตลกที่ไม่ตลกและโคตรรกหูน่ารำคาญที่ทำให้หนังทั้งเรื่องพังพาบไปทุกอณู มีเพียงนักแสดงเท่านั้นที่สามารถพาเรื่องราวไปต่อได้บ้าง ถึงแม้จะล้มลุกคลุกคลานไปตามเส้นเรื่องที่เฉิ่มเชยสะเปะสะปะและแบนราบ แต่ก็ต้องชื่นชมที่นักแสดงและนักร้องเหล่านี้สามารถสร้างความบันเทิงได้ตามบทบาทที่ต้องรับผิดชอบไปจนถึงมุกเห่ยๆ ที่ต้องแบกรับ (สุดของที่สุดคือมุกลื่นเปือกกล้วย)
เส้นเรื่องที่ควรจะดีกลับขาดๆ เกินๆ และอ่อนด้อยที่สุด พวกตัวละครที่ปกติมักจะรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของหนังอย่าง น้าถึก ทะลุฟ้า กับ อีส อีสานพาสวบ กลับช่วยสร้างความบันเทิงมากยิ่งขึ้น
รีวิวหนังไทย น่าเสียดายจริงๆ ที่หนังซึ่งน่าจะมีต้นทุนกลุ่มคนดูตามมาจากผลงานเพลงที่หลายร้อยล้านวิวซึ่งโด่งดังในทุกกลุ่มพื้นที่ฐานะอาชีพทั่วประเทศจะต้องเดินทางมาได้แค่นี้ ซึ่งจะไม่ถือสาก็ไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นหนังที่ทำให้คนดูทั่วไปจดจำภาพหนังเรื่องนี้เหมารวมหนังไทยส่วนใหญ่ไปแล้วว่าหนังไทยมันแย่ หนังไทยมันห่วย
จนพาลไม่ไว้ใจที่จะตีตั๋วดูหนังไทยต่อไป และการที่แฟนเพลงได้เห็นศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบในหนังที่เละเทะแบบนี้ ก็น่าจะถอนหายใจปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กันอยู่ไม่น้อย และถ้าจะมาพร่ำบอกว่าหนังไทยดีๆ มีให้ดูทุกปี ก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะอุตสาหกรรมหนัง การตลาด และโรงหนังบ้านเราไม่เอื้อให้คนไทยได้มีโอกาสได้เข้าถึงและทำความรู้จักกับหนังดีๆ ที่หลากหลายได้อย่างทั่วถึงเลย ก็ได้แต่ถอนหายใจ (อีกครั้ง)
ผู้สาวขาเลาะ เดอะ มูฟวี่ หนังที่มีชื่อเดี่ยวกับเพลงอินดี้ยอดคนดู 336 ล้านวิว ที่เป็นกระแสแรงในช่วงปี 2559 ของศิลปิน ลำไย ไหทองคำ หนังผู้สาวขาเลาะ ได้รวมศิลปินทั้งในโลกโซเชียลและศิลปินตัวจริงแห่งแดนอีสานไว้มากมายหลายคน เช่น ลำไย ไหทองคำ , อาม ชุติมา , เนม วงปิโป้ , มอส สายสัมพันธ์ , ออย แสงศิลป์ , หม่ำ เมืองผล , ตูน เจมส์ไมเนอร์ , มาย ณัฐเบญจภัค , แป้ง ภัคฐิราภร , แก้มใส ไหทองคำ , แอน มาริษา , ป๊แบ ปภาดา , ตั๋ง ชลธิชา ขอแนะนำ ดาว ชลิตา , พระมหาสมปอง , แคนตี้ รากแก่น , เสก โลโซ , แขต ด๊อกเตอร์แคน , กานต์ ทศน. , ไอซ์ หลวงพระเนตร , อีส ชำนาญ อีสานพาสวน
ดูหนังออนไลน์ 4k  อีกภาพยนตร์ที่พุ่งเข้าชนปัญหาดราม่ามาตั้งแต่สิ้นปีก่อนหน้าที่ผ่านมา สำหรับ “ผู้สาวขาเลาะ เดอะอินดี้มูฟวี่” โดย ไหทอง Production หนังเรื่องแรกของลูกทุ่งสาวที่สมัย “ลำไย ไหทอง” ข้างหลังมีดราม่าสลับตัวผู้กำกับ จนกระทั่งในที่สุดมาได้ สุกิจ นรินทร์ ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากหนัง “เพศหญิง 5 บาป” มารับหน้าที่ควบคุมแทน และก็ได้เข้าโรงฉายไปเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนวันที่ 29 เดือนมีนาคมก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดีได้มีดราม่าในโลกโซเชียลที่วิจารณ์หนังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโปสเตอร์หนังที่ใช้โปรดมต ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก จนกระทั่งตัวปัจจุบัน เรียกว่าชาวเน็ตได้ด่าทอกันอย่างเยิน หมดทั้งตัวโปสเตอร์ที่คล้ายกับงานตัดติด เก็บเงียนไม่ละเอียด ในช่วงเวลาที่บางข้อคิดเห็นกล่าวว่า โปสเตอร์หนังสั้นที่เด็กมหา’ลัยทำยังดูดีกว่านี้อีก
เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนชาวอีสานที่มี ลำไย (ลำไย ไหทองคำ) และ อาม (อาม ชุติมา) สองเพื่อนสนิท ทุกกลางคืนอามจะต้องออกไปทำงานร้องเพลงเนื่องจากครอบครัวของเธอมีฐานะยากจน แต่นั้นกลายเป็นว่าทำให้อามเป็นที่สู้ชีวิตและมีพื้นที่ให้แสดงพรสวรรค์ตัวเอง อามแอบชอบเด็กนักเรียนชายเนมและก็ต้องถูก แก้มใส (แก้มใส ไหทองคำ) และพวกๆ คอยกลั่นแกล้งอยู่ตลอดแต่ดูหนังผู้สาวขาเลาะเดอะมูฟวี่เป็นหนังตลกจึงทำให้แก้มใสและพวกจะต้องกลายเป็นกลุ่มต้องซวยซะเองแทบทุกครั้ง

รีวิวหนัง ผู้สาวขาเลาะ เดอะมูฟวี่อินดี้

แต่เรื่องวุ่นๆสไตล์ผู้สาวขาเลาะและหนุ่มอีสานยังไม่จบ ลำไย ก็ได้เจอกับนักเรียนชายอีกคนมอส ลำไยตกหลุมรักมอสทันทีที่พบ และได้ให้โอกาสนำผลงานเพลงที่ลำไยแต่งเองไว้มาแสดงให้กับเจ้านายบริษัทเพลงได้ดูด้วยตาตัวเอง ลำไยตกลงกับข้อเสนอนั้นทันที จึงเป็นหน้าที่ของแก้มใสที่จะคอยขัดขวางโดยมีน้าถึกทะลุฟ้าเป็นแกนนำในการขัดขวางครั้งใหญ่นี้ และสองสาวก็ได้ อีส ชำนาญ อีสานพาสวน เป็นคนที่คอยดูแลและแก้ไขข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้น บทสรุปของผู้สาวขาเลาะเดอะมูฟวี่จะจบลงอย่างไรติดตามดูหนังผู้สาวขาเลาะวันที่ 29 มีนาคมนี้
ขอบอกก่อนเลยว่าพยายามปรับจูนและทำความเข้าใจว่ามันเป็นหนังเฉพาะกลุ่มที่อาจจะเป็นแฟนเพลง ลำไย ไหทองคำ ที่ตัวเพลงมันดันเอาท์ไปเรียบร้อยแล้ว หนังมันก็ดันเพิ่งเข้ามาฉายแบบผิดที่ผิดเวลา เราไปดูในโรงที่ค่อนข้างจะกลางเมือง แต่เราพยายามยังไง เราก็ไม่รู้ว่าควรจะโทษหนังหรือโทษตัวเอง ที่เข้าไปในที่ๆไม่ใช่ของเรา ดังนั้นที่ไหนที่มันไม่ใช่ของเรา เราจะรุ้สึกว่าเราไม่มีตัวตนที่นั่น ในแง่ของตัวหนังที่ดูจนจบเราก็ไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไร
และในแง่คุณภาพงานสร้าง งานกำกับ มันทำให้เราสงสัยว่าทำไมคุณสุกิจ นรินทร์ ผู้กำกับหนังที่ผันตัวเองมาจากการเป็นนักวิจารณ์ถึงยังกล้ากำกับหนังอยู่ เค้าได้ดูหนังของตัวเองบ้างไหม ก่อนนีผลงานเค้าคือ ผู้หญิงห้าบาป ผีกะเทย ตัว้เค้าได้ดูหนังที่ได้มาตรฐานมาก่อนไหม ไม่ต้องหนังออสการ์หรอก เอาแค่หนังพชร์ก็พอ เค้าต้องการอะไร ในฐานะผู้กำกับควรรับผิดชอบต่องานบ้างก็ยังดี
.
ดูหนังออนไลน์ ผู้สาวขาเลาะเดอะอินดี้มูฟวี่อินดี้ คือเรื่องราวของลำไย ไหทองคำ กับอามเพื่อนสนิท พวกเธอเรียนมัธยม แต่ก็อีกนั่นแหละ สภาพนักเรียนมัธยมที่หน้าไปไกลมากแบบ 30 up กับการแต่งหน้าหนาเตอะเหมือนเอาช่างแต่งหน้ามาจากร้านเสริมสวยชานเมืองมาแต่งให้นักเรียนทาตาสีฟ้าบ้างเขียวบ้าง ปัดแก้มแดงเป็นตูดลิง มันเลยพาลทำให้นึกถึงหนังพี่จอนแว่น พี่แสงตะวัน ที่ชอบเอาดาราในสังกัดมาแต่งหน้าหนาๆผูกเปียแล้วใส่ชุดนักเรียนบ้าง ชุดเลขาและชุดสารพัดอาชีพไปแสดงในหนังของเค้า เนื้อหาหนังและมุขตลกเหมือนพยายามคารวะมุขตลกสมัย ST วิดีโอ ที่เอากล้องไปตั้งไว้ในคาเฟ่ แล้วปล่อยให้มันแสดงไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นมุขโยนเปลือกกล้วยให้นางเอกลื่นหกล้ม มุขเอาสลอดใส่น้ำหว่านแล้วตัวร้ายเผลอไปดื่มเอง มุมกล่องยืนแถวกระดานเรียงสามแล้วคุยกับผู้ชายเหมือนโฆษณาน้ำมัไดเกียว มุขมันเชยเราก็เหลือจะทนแล้ว คุณภาพของหนังคือต้องใช้คำว่าพังอย่างแท้จริง ซีนเดียวกัน ตัดไปทางนึงเป็นสีสรรสดใส ตัดไปทางตัวร้ายกลายเป็นหนังมืดย้อมเขียว มองในแง่ดีคือผู้กำกับต้องการคารวะจางอี้โหมวในการที่พยายามย้อมสีหนังตัดสลับไปมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์รึก็ไม่แน่ใจ หรือผู้กำกับใช้เทคนิคเดียวกับ Ready Player One ที่พยายามเอามุขย้อนยุคไปช่วง 80-90 เพื่อให้คนดูหาอีสเตอร์เอ้กของปริศนาผู้สาวขาเลาะ อันนี้ไม่แน่ใจเลย
.
ตัวหนังนี่บอกโต้งๆว่าน่าจะเป็นการทำหนังเพื่อทริบิวท์ให้ลำไย ไหทองคำ แต่ตัวละครเด่นดันไปตกอยู่กับเพื่อนของลำไยที่ชื่ออาม และพระเอกของเรื่องมันก็ไม่ค่อยชัดเจนว่าเป็นใคร ไม่แน่ใจว่าถูกผู้กำกับที่เข้ามาเขียนบทเองด้วยเปลี่ยนบทหรือเปล่า แต่อยากจะบอกว่า มาริโอ เมาเรอร์ ยูพลาดแล้วที่ไม่ยอมเล่นหนังในตำนานเรื่องนี้ เพราะมั่นใจมากกกกกกกกกกก ว่าถ้ามาริโอมาแสดงเรื่องนี้ อาจจะโดนคนด่าว่ามาเล่นทำไม แต่มั่นใจมากกกกว่าโลกจะต้องจำชื่อมาริโอไปจนวันสุดท้ายของมารีโอ้เลยว่าครั้งหนึ่งมาแสดงในหนังเรื่องนี้
.
การนำเอาศิลปินที่โคตรเอาท์อย่างพี่โป่งหินเหล็กไฟ กับ เจี๊ยบพิสุทธิ์ มาเป็นนักแสดงรับเชิญเพื่อเซอไพรส์คนดูนี่ถามจริงๆ ผ่านกระบวนการคิดมาแล้วเหรอ ถ้าหาคนที่เซอไพรส์ไม่ได้จริงๆก็ตัดไปเลย มุขตลกนี่ถามจริงๆ หลายครั้งที่ปล่อยออกมาเราต้องถามตัวเองว่า หน้าที่คนดูที่ตีตั๋วเข้ามาดูแล้ว กูต้องหัวเราะไหม อยากจะบอกมากกกกกว่า ไปดูละครลิงตลกกว่า และเอาจริงๆ ไม่ต้องฉายหนังเรื่องนี้หรอก เอาหนังตัวอย่างมาฉายให้คนดูล้วนๆบังเทิงกว่า หรือเอาง่ายๆนะ เปิด MV ลำไย ไหทองคำให้คนดูไปเลย ผมว่าคุ้มกว่า
.
ดูหนัง ตัวหนังกระโดดสลับไปสลับมา พร้อมกับมุขตลกสมัยพระเจ้าเหาอย่างที่บอก ไหนจะเอาตัวแสดงมาปะแป้งขาววอกเหมือนพวกตลกคาเฟ่ จนเราดูไปก็สมเพชตัวเองไปว่า กูเข้ามาทำอะไรอยู่วะ หนังบางเรื่องเนี่ยต่อให้มันห่วยเราก็ยังรู้สึกว่าเราได้มาดูงานของคนที่เค้าตั้งใจทำงาน แต่สำหรับ ผู้สาวขาเลาะเดอะอินดี้มูฟวี่อินดี้ นี่เราคิดว่าเค้าอยากขายชื่อลำไย แล้วเอาเอนเกจเมนต์จากคนดูคลิป 300 กว่าล้านวิวที่แห่มาดูหนังมากกว่า เหมือนหนังสักๆแต่จะถ่ายไปให้มันจบๆ
ไม่มีความปราณีต ไม่มีความพถัพิถันเลย เราไม่เข้าใจว่า ถ้าต่อให้คนกำกับหนังไม่เป็นมากำกับหนังออกมา แล้วเค้ายังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ผมมั่นใจว่าเค้าจะต้องดู ดู และก็ดู เหมือนอย่างมาสเตอร์เชฟที่สอนผู้เข้าแข่งขันว่าต้อง ชิม ชิม และก็ชิม ถ้าดูแล้ว ผมอยากถามผู้กำกับมากว่า เค้าคิดว่าเค้าจะเอางานอย่างนี้ความยาว 105 นาที มาเข้าโรงเก็บตังคนดู 180 ซึ่งค่าตั๋วเท่ากับ Ready Player One ความยาว 140 ที่กำลังฉายพร้อมกันอยุ่นี้จริงๆเหรอวะ
.
นี่คือบ่นอย่างเป็นงานเป็นการเลยนะ เมเจอร์ เอสเอฟ เลือกหนังเข้าโรงหน่อยเถอะ อย่าเอาอะไรที่มันไม่รับผิดชอบคนดูแบบนี้มาเข้าฉายเลยครับ ผมไม่สามารถให้คะแนนหนังเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่คะแนนเดียว ผมทรมานมากกกกก ด้วยความที่ว่าเราจำเป็นต่องเขียนรีวิว เราจะหลับก็ไม่ได้ เราจะเดินออกก็ไม่ได้ มันเป็นการไม่ซื่อสัตย์ต่อคนดูจริงๆ และผมพยายามอยากหาคะแนนจากอะไรมาปะให้สักคะแนนครึ่งคะแนนก็ไม่ได้
 ตอนแรกกะจะเอาคะแนนของดิจิตัลซาวด์เชคมาให้สักครึ่งคะแนน แต่คิดไปคิดมา ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับคนดูอยู่ดี เอาเป็นว่าใครรักลำไย อยากจะไปดูก็ลองดู แต่ส่วนตัวแนะนำให้เปิดเพลง ผู้สาวขาเลาะใส่หูฟังแล้วนอนฟังในห้องนอนขำขำน่าจะมีความสุขกว่า 0/10 อ่ะครับ ขี้เกียจเสกคะแนนให้มันไม่แฟร์กับคนอ่านเพจผมเลย สุดท้ายอยากจะบอกว่าเสียดายตังมากกกกกกกก ตั๋วหนัง 180 นี่เอาไปซื้อไก่สดได้สองสามตัวเลยนะ