รีวิวหนัง มะลิลา MALILA

โดยหน้าหนังที่อาจทำให้เราเข้าใจ มะลิลา ในมิติแคบๆอย่างการเป็นหนังเกย์ที่สอดแทรกเรื่องราวความงามของการทำบายศรี แต่จากหลักฐานเชิงประจักษ์แล้ว แก่นแกนของ มะลิลา กลับเล่นท่ายากได้อย่างมั่นอกมั่นใจ ด้วยว่ารสมือของคนทำหนังถึงพร้อมในการปรุงแต่งรายละเอียดที่เข้าขั้นประดิษฐ์ประดอยบนพลอตเรียบน้อยได้อย่างงดงาม และตราตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง รีวิวหนัง มะลิลา MALILA

โครงเรื่องอันเรียบง่ายของมะลิลา อย่างการบอกเล่าความสัมพันธ์ของสองหนุ่ม เชน (ศุกลวัฒน์ คณารศ) และ พิช (อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ) อดีตคนรักที่กลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้งในวันที่ฝ่ายแรกบอบช้ำจากการสูญเสียลูกสาว และฝ่ายหลังสูญเสียแม่และกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง หนังให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีทั้งความเร่าร้อนที่ต่างตักตวงจากร่างกายของกันและกันอย่างร้อนแรง และคำสัญญาอันหอมหวานที่ว่า พิช จะทำบายศรีอย่างสุดฝีมือให้ เชน ในวันบวช  แต่แน่นอนว่าความรักและชีวิตอันงดงามก็มีเวลาที่จำกัดของมันไม่ต่างจากบายศรีที่ดอกมะลิลา จะโรยราเมื่อต้องลมแดดและการเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา

รีวิวหนัง มะลิลา MALILA

 รีวิวหนังไทย ในยุคที่สื่อบันเทิงต่างบอกเล่าเรื่องราวของรักหลากเพศกันทั่วบ้านทั่วเมือง บ้างก็ทำมาเอาใจสาววายให้ได้จิ้น- ฟินกันไปเมื่อเห็นหนุ่มหล่อสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง บ้างก็ทำมาตีตลาดกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ  ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ  หากคาดหวังความฟินจากการเห็นชายหนุ่มสองคนรักกัน หนังเรื่องนี้มีครับแต่นั่นแค่ 20% ของเรื่อง เพราะสิ่งที่อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับเลือกบอกเล่าคือการนำสัจธรรมของชีวิตมาตีแผ่โดยนำศิลปะการทำบายศรีมาเป็นกุศโลบาย
(หรือที่ภาษาฝรั่งอาจเรียกเก๋ๆว่า กิมมิค) ในการสื่อถึงความจริงอันแสนเจ็บปวดที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญทั้งความสุขจากความรักที่เป็นดั่งดอกไม้สวยงามสดชื่น และความทุกข์จากการสูญเสียและการจากลา ดั่งบายศรีที่ถูกบรรจงร้อยมาลัยเย็บปักให้สวยงามอย่างยากลำบาก เพียงเพื่อรอเวลาเหี่ยวเฉาร่วงโรยเมื่อหมดวันหรือหมดหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมของมันได้อย่างคมคาย
อนุชา บุญยวรรธนะ เลือกบอกเล่าเรื่องราวด้วยจังหวะแช่มช้าทว่าอ่อนช้อยงดงามจนคนดูได้ซึมซับบรรยากาศทั้งหมดทั้งมวล ซึ่งความสมบูรณ์แบบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากคนทำหนังดำเนินงานอย่างสุกเอาเผากิน โดยจากที่ได้ฟังช่วงตอบคำถามหลังหนังจบในรอบสื่อมวลชน อนุชา ยอมรับว่าเธอบรรจงเลือกสรรทุกสิ่งตั้งแต่สถานที่ถ่ายทำที่เธอเรียกร้องให้มีดอกไม้ทุกชนิดที่เธอจินตนาการไว้ในบทภาพยนตร์  งานถ่ายภาพที่อนุชา กำชับให้ผู้กำกับภาพจับแสงธรรมชาติเพื่อถ่ายทอดความงามของชีวิตและความน่าสะพรึงกลัวของความตายและการสูญเสีย สอดรับกับงานออกแบบเสียงที่เธอได้กลับมาร่วมงานกับ ณพวัฒน์ ลิขิตวงศ์ จาก วันคูลซาวด์ ที่เคยพาให้ อนธการ กลายเป็นมาสเตอร์พีซของงานเสียงในหนังไทยได้น่าจดจำมาแล้ว จนทำให้ภาษาภาพยนตร์ของ
มะลิลา สามารถนำพาผู้ชมเข้าสู่บรรยากาศที่หนังโอมล้อมคนดูได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพจนเหมือนได้เดินเคียงข้างตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบก็มิปาน
รวมถึงนักแสดงที่ต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดทั้ง อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ที่สามารถถ่ายทอดความอ่อนช้อยในบทศิลปินนักทำบายศรีผู้ผ่านความเจ็บปวด ผิดหวังจากความรัก และความสูญเสียออกมาได้อย่างหมดจดแม้หนังแทบไม่มีฉากย้อนอดีตใดๆเลย สอดคล้องกับปากคำของผู้กำกับที่เลือกอนุชิต มาเพื่อถ่ายทอดความซับซ้อนทั้งเพศสภาพที่ต้องระมัดระวังไม่ให้ ‘ออกสาว’ และจิตวิญญาณของนักทำบายศรีที่เลือกเยียวยาโรคภัยด้วยการรังสรรค์บายศรีอันสวยงามก่อนที่ความรักครั้งเก่าจะเข้ามาสะกิดแผลใจ
ดูหนังออนไลน์ 4k จนเกิดวัฏสงสารแห่งชีวิตและความรักร่วมกันกับ เชน เจ้าของสวนมะลิอดีตคนรัก ซึ่งนักแสดงหนุ่มที่ทิ้งห่างจาก โหมโรง ภาพยนตร์ดนตรีไทยในตำนานไปร่วม 10 ปีก็กลับมาสร้างผลงานได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทุกความเคลื่อนไหวและภาษากายของอนุชิตคือความงามที่ควรค่าให้กล้องได้ถ่ายทอดออกมาทั้งมือที่บรรจงร้อยมาลัยได้อย่างชดช้อยงดงาม การงุ้มมือเก็บมะลิอย่างถนุถนอม ซึ่งกิริยาที่เหมือนไม่สำคัญกลับเปี่ยมความหมายอย่างมหาศาลเมื่อผ่านการถ่ายทอดของอนุชิต  สพันธุ์พงษ์ จนน่าจะได้เข้าชิงรางวัลด้านการแสดงแน่ๆในปีหน้า
สำหรับ ศุกลวัฒน์ คณารศ ยอมรับเลยว่าหากมองผิวเผินนี่คือการเลือกนักแสดงบิ๊กเนมมาทำให้หนังน่าสนใจ เพราะจากผลงานที่ผ่านมาทั้งละครและโฆษณา เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความหล่อ ของเขาได้บดบัง จนฝีมือและทักษะการแสดงหลุดจากโฟกัสของผมไปพอสมควร และจากปากคำหลังหนังรอบสื่อที่ศุกลวัฒน์ บอกความรู้สึกหลังบทหนัง มะลิลา ถูกยื่นมาให้ก็คงต้องขอบคุณที่เขาเลือกตอบรับและเดินหน้าไปกับความท้าทายครั้งใหม่ ทั้งภาพลักษณ์ที่คนดูละคร ชาวบ้านร้านตลาดคงต้องเอาทาบอกว่า พี่เวียร์ของพวกเขามาเล่นหนังเกย์ และทั้งพื้นที่ใหม่ๆที่การแสดงของเขายังไม่เคยเดินทางไปถึง เชื่อว่าหลังแสงจากโปรเจคเตอร์ได้ฉายภาพชีวิตของ เชน เจ้าของสวนมะลิชีวิตแหลกเหลวที่กลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับ พิช ศิลปินนักทำบายศรีคนรักเก่าจนชีวิตได้พานพบทั้งความผลิบานและร่วงโรยแล้ว
ดูหนัง 4k ทุกสายตาคงเห็นพ้องต้องกันและพร้อมจะยกย่องในฝีมือของเขาได้อย่างปราศจากข้อกังขา ศุกลวัฒน์ สามารถสลัดความเป็น ‘ พี่เวียร์’ ของสาวๆกลายร่างเป็น เชน หนุ่มวัยกลางคนผู้ผุพังจากความสูญเสียที่ชีวิตต้องการใครสักคนมาแผ้วถางเพื่อพร้อมเพาะปลูกความสุขครั้งใหม่ และยิ่งหนังถูกออกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน การแสดงของศุกลวัฒน์ จึงไม่อาจหลีกหนีสปอตไลต์ได้เลย ทั้งบทบาทอันร้อนแรงและเจ็บปวดในเรื่องราวส่วนแรก และการเผชิญหน้ากับความน่าสะพรึงกลัวของความตายและเรียนรู้ที่จะปล่อยวางในครึ่งหลัง ที่เขาสามารถถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละคร และส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนของชะตากรรมตัวละครถึงคนดูได้อย่างสวยสดงดงามจนสมแล้วที่เขาได้เข้าชิงรางวัลด้านการแสดงระดับเอเซีย ซึ่งอาจยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาถึงความ .’เวิร์ลคลาส’ ของผลงาน
ด้วยสิ่งละอันที่ประกอบสร้างมาทำให้ มะลิลา คือหนังที่เปี่ยมคุณค่าทางศิลปะทั้งในเชิงภาษาภาพยนตร์และการถ่ายทอดวัฒนธรรมได้อย่างคมคายไม่ยัดเยียด สอดรับทั้งการแสดงที่ลุ่มลึกและงานเทคนิคที่รับใช้เนื้อหาได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ จนอาจบันทึกไว้ได้เลยว่านี่คือหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์หนังไทยที่เราได้มี มะลิลา เป็นสมบัติของชาติที่เราพร้อมประกาศก้องให้ชาวโลกได้ดูหนังไทยระดับมาสเตอร์พีซ ได้อย่างไม่อายใคร
ถึงคิวฉายในประเทศไทยกันแล้ว สำหรับภาพยนตร์รักโรแมนติก มะลิลา Malila The Farewell Flower ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ที่เคยฝากภาพยนตร์ที่พาทุกคนดำดิ่งมาแล้วใน อนธการ (2015) มาในปีนี้ได้นำ มะลิลา มาฝากแฟนหนังให้รับชมกันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะ มะลิลา ได้ไปกวาดรางวัลจากต่างประเทศมามากมาย สร้างความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
มะลิลา Malila The Farewell Flower ว่าด้วยเรื่องราวของความรักความอาลัยของผู้ที่จากไป ซึ่งเป็นเรื่องราวของ เชน เจ้าของสวนมะลิผู้มีอดีตอันเจ็บปวด และ พิช ศิลปินนักทำบายศรี อดีตคนรักของเชนในวัยเด็กที่กลับมาพบกันอีกครั้ง ทั้งคู่พยายามเยียวยาบาดแผลในอดีตและรื้อฟื้นความสัมพันธ์ผ่านการทำบายศรีอันงดงาม
ถือว่าการรอคอยของแฟนหนังชาวไทยกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อท้ายที่สุด มะลิลา ก็ได้ฤกษ์ฉายในไทย 15 กุมภาพันธ์นี้ ต้อนรับวันแห่งความรักเลยทีเดียว จากกระแสตอบรับที่ดีจากคอหนังต่างชาติ จนได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน ด้วยคำชื่นชมจากนักวิจารณ์จึงทำให้มีความคาดหวังค่อนข้างสูงกับหนังเรื่องนี้ พอได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบแล้วพบว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

จากพล็อตเรื่องของ มะลิลา จะเห็นว่าไม่ได้มีความพิเศษหรือแตกต่างจากหนังรักเรื่องอื่นๆ มากนัก หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ต้องมาร่วมรักษาจิตใจและรื้อฟื้นความรักที่เคยมีร่วมกัน แต่ที่มีความพิเศษกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ก็คือวิธีการเล่าเรื่อง ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง หากใครเป็นแฟนหนังของ นุชี่ อนุชา ก็น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะทุกองค์ประกอบของหนังมีลายเซ็นของเขาอยู่

ดูหนังออนไลน์ การดำเนินเรื่องของ มะลิลา จะออกแนวเนิบช้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเอื่อยจนน่าเบื่อกลับทำให้เราค่อยเสพเรื่องราวอย่างค่อยเป็นค่อยไป งานภาพ-งานเสียงกลายเป็นจุดเด่นและเป็นสิ่งที่ชอบมาก เชื่อว่าหากใครที่ได้ดูหนังเรื่องแล้วจะทำให้ได้ใคร่ครวญชีวิตของตัวละครและของตัวเราเอง เสมือนได้ไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานก็มิปาน ความละเอียด ละเมียดละไมจากหนังนั้นแฝงไปด้วยความร้าวราน ความเจ็บปวดจากความรักและชีวิต ซึ่งไม่ได้เกิดแค่กับตัวเอก
แต่เกิดขึ้นกับทุกชีวิต ยิ่งได้การแสดงอันลุ่มลึกของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ โอ อนุชิต ยิ่งทำให้หนังมีเสน่ห์เป็นตัวของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าผู้กำกับจะสามารถดึงเอาศักยภาพของนักแสดงที่มีอยู่มากมายออกมาได้อย่างคาดไม่ถึง จากตัวอย่างหนังหลายคนคงคาดหวังไว้กับฉากเลิฟซีนแน่นอน ซึ่ง เวียร์ และ โอ ได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เป็นธรรมชาติและภาพที่ออกมาไม่ได้เหมือนการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย แต่เห็นการสื่ออารมณ์รักของมนุษย์ที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกเพศ ถือเป็นซีนที่ตราตรึงใจมาก
หากบอกว่าองค์ประกอบของหนังทั้งหมดทำออกมาดีมากก็คงไม่ผิดนัก เพราะหนังได้รวมเอาประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนาและความรักมารวมไว้ได้อย่างลงตัว ไม่แปลกใจเลยที่ได้รางวัลมามากมาย ด้วยอารมณ์ของหนังที่มีความเนิบช้าอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรเร็วๆ หากลองเปิดใจดูก็จะพบสิ่งมีค่าซ่อนอยู่มากมายในหนังเรื่องนี้
มะลิลา หนังของผู้กำกับ นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ซึ่งเพียงแค่เห็นชื่อนักแสดงทั้ง 2 คนนี้ เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ โอ อนุชิต นั้นก็สร้างความสนใจให้กับคนดูอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อ เวียร์ พลิกบทบาทมารับบทชายรักชาย ครั้งแรก เรื่องราวใน มะลิลา เป็นการเล่าถึงชาย 2 คน เชน (เวียร์ ศุกลวัฒน์) ชายหนุ่มติดเหล้าผู้สูญเสียลูกสาวไป  และ พิช (โอ อนุชิต) ชายหนุ่มที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง และใช้การทำบายศรีเป็นที่พึ่งของจิตใจ เขาทั้ง 2 คนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และกลายเป็นคนรักกัน แต่แล้ว พิช ก็เสียชีวิตไป เชน จึงตัดสินใจบวชธุดงค์ จึงได้พบกับแก่นแท้ของสัจธรรมโลก
ขอชื่นชมผู้กำกับ นุชี่ ที่ได้คัดเกลาบทหนังเรื่องนี้กว่า 7 ปี จนทำให้เกิดเป็น มะลิลา เนื้อเรื่องมีความสวยงาม ที่แฝงไปด้วยความลึกซึ้งความพุทธศาสนา การตีความในมุมมองของคนดูอาจจะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันออกไป แต่แล้วมันก็คือบทสรุปของทุกชีวิต ที่ต้องเป็นไปตามทางการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นุชี่ ได้ดึงความสวยงามของการทำบายศรี มาใช้เปรียบเทียบในหลักพระพุทธศาสนาที่ว่า สังขารไม่เที่ยง ทุกสิ่งย่อมมีการจากไป ซึ่งในจุดนี้คือความละเอียดของหนังที่น่ายกย่องมากๆ
อีกส่วนที่ นุชี่ ตั้งใจขยายให้เห็นถึงสัจธรรมที่แท้จริงเลยคือ การดึงเรื่องราวของ พระเชน ที่ตัดสินใจบวชหลังจากที่ พิช เสียชีวิต มีการถ่ายทอดเรื่องราวการธุดงในป่า จนถึงการเพ่ง อสุภะ ที่ล้วนแล้วทุกชีวิตไม่ว่าจะคนสวยคนหล่อก็ต้องพบเจอ คือเมื่อร่างกายหมดลมหายใจ เราทุกคนก็ต้องกลายเป็นซากเน่าผุพัง มีหนอนขึ้น ซึ่งในฉากนี้เชื่อว่าหลายคนคงต้องจิกเท้าดู จนถึงขึ้นปิดตาเพราะอาจจะรับไม่ได้ มันเหมือนจริงมากๆ
ดูหนัง ย้อนไปถึงฉากเลิฟซีนกันบ้าง เชื่อว่าสิ่งแรกที่ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจเข้าไปดูเลย ก็เพราะเป็นหนังชายรักชาย ซึ่งไม่แปลกที่จะมีการจับตามองของฉากความสัมพันธ์อย่างเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้อง การถ่ายทอดออกมาในฉากนี้นั้น ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย มันเป็นการแสดงที่ลึกซึ้ง ที่ออกมาดูสวยงาม แต่ก็ทำให้เราอดจิกเบาะไม่ได้ เพราะมันเรียลมากๆ
ในด้านของการแสดงของนักแสดงนำ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ที่เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างความท้าทายให้กับเขา ต้องขอปรบมือให้เลย เพราะ เวียร์ แสดงดีมากๆ ถ่ายทอดออกมาให้เราดูแล้วไม่คิดว่าเขาคือ เวียร์ แต่เขาคือ เชน ตัวละครตัวนั้นจริงๆ ซึ่งส่วนตัวคนเขียนนั้นชอบมาก เราได้เห็นการแสดงของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ที่ไม่ใช่การแสดงแบบละคร แต่มันเป็นการแสดงที่มีชีวิตในอีกมิติ เขาได้ก้าวสู่การถ่ายทอดให้คนดูเข้าใจแบบภาพยตร์จริงๆ ซึ่งมีความสดความสมจริง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เวียร์ ศุกลวัฒน์ ถึงไปคว้ารางวัล  Face of Asia Award จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน มาครอบครองได้สำเร็จ ส่วนนักแสดงนำอีกคนหนึ่ง โอ อนุชิต ที่เรื่องนี้เขาลงทุนลดน้ำหนักเพื่อให้สมจริงกับคนที่เป็นโรคมะเร็ง โอ อนุชิต แสดงออกมาได้ดีมาก ซึ่งฝีมือของเขานั้นขึ้นชื่อดีอยู่แล้ว เขาสามารถทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็น พิช ชายผู้หลงรักในการทำบายศรีจริงๆ แต่ความสุดยอดของ เวียร์ และ โอ นั้นอยู่ที่สายตามนการมองสื่อสารกัน คือมักเป็นอะไรที่สุดมาก
ภาพ และซาวด์ประกอบใน มะลิลา มีความสวยละมุน โลเคชั่นที่คัดสรรมาในแต่ละฉากนั้นมีความสมจริงของธรรมชาติ ซึ่งแต่ละที่เราไม่คุ้นตา แต่มันทำให้องค์รวมของหนังนั้น สมบูรณ์แบบจนไม่มีที่ติเลยทีเดียว