รีวิวหนัง ไบค์แมน 2
เป็นหนังคอมเมดี้ที่คิดเร็วทำเร็วได้จริง หลังจากไบค์แมนภาคแรกออกฉายเมื่อปีที่แล้ว ทำรายได้จากทั่วประเทศทะลุ 100 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมรายได้ที่ขายสิทธิ์ให้ไปอีกหลายประเทศด้วยนะ ทำให้ “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในช่วงหลัง ๆ ของค่าย รฤก โปรดั๊กชั่น ของ ยอร์ช ฤกษ์ชัย เพราะเรื่องล่าสุดที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ค่ายก็ต้องย้อนไปถึง “คุณนายโฮ” ปี 2555 นู่น รฤก โปรดั๊กชั่น ก็รีบคลอด ไบค์แมน2 ตามติดในปีต่อมา มอบหน้าที่ให้ พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับจากภาคแรกมาสานต่อความสำเร็จ รีวิวหนัง ไบค์แมน 2
ใน “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” ทิ้งฉากจบไว้ให้คนดูได้จิ้นกับความรักของ ศักดิ์ กับ จ๋าย ที่ดูเหมือนจะลงเอยกันด้วยดี หลังจากผ่านความยุ่งเหยิงมาตลอดทั้งเรื่อง เหตุจากศักดิ์หลอกที่บ้านว่าเป็นหนุ่มแบงก์ ทั้งที่ตัวเองทำงานเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมทั้งหลอก จ๋าย เพื่อสาวที่ศักดิ์หมายปองมาตั้งแต่เด็กอีกด้วย มาถึงภาคนี้เรื่องราวของหนังก็สานต่อ ที่ยังคงจับประเด็นหลักเรื่องภารกิจพิชิตใจจ๋าย หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างหนัง ด้วยการเน้นตัวละครใหม่อย่าง “เต๋า สมชาย” ให้มาเป็นคู่ปรับตัวฉกาจกับ “ลุงปรีชา” บทของน้าค่อม

รีวิวหนัง ไบค์แมน 2
รีวิวหนังไทย ในหนังจริงก็เปิดเผยตัวว่า เต๋า สมชาย คือ “ศักดา” พ่อของจ๋าย เป็นพ่อจอมเฮี้ยบ ปัจจุบันเป็นเจ้าของเหมืองแร่อยู่ในต่างจังหวัด ประเด็นของเรื่องก็คือ ศักดาเป็นพ่อที่เจ้ากี้เจ้าการชีวิตลูกสาว อยากให้ลูกสาวมีแฟนที่ดี ก็เลยจะจัดการหาผู้ชายมาให้จ๋ายดูตัว จ๋ายรำคาญก็เลยบอกพ่อว่า “ศักดิ์” คือแฟนของจ๋าย ศักดาต้องการรู้จักว่าที่ลูกเขยอย่างจริงจัง จึงบอกให้ศักดิ์พาครอบครัวมาพักผ่อนที่บ้านของเขา เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักครอบครัวของศักดิ์ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความบันเทิง เมื่อแก๊งก๊วนป่วนฮาในภาคแรกได้เดินทางมาบ้านของศักดาด้วยกันหมด ทั้งแม่สุรีย์ ลุงปรีชาที่พานรสิงห์ลูกชายติดไปด้วย พี่หลง มอไซค์วินก็ตามไปสมทบอีกด้วย แถมยังมีพี่เอ แฟนเก่าตามไปง้อถึงที่อีกด้วย รอบนี้ตัวละครหลักก็เลยมารวมกันอยู่ที่เดียว ไม่ต้องเดินทางไปมาระหว่างเรื่องอีกแล้ว

หนังหยิบเอาสูตรสำเร็จจากภาคแรกมาใช้เพียบ อย่างประเด็นที่ว่าด้วยเรื่อง “การโกหก” รอบนี้ทั้งก๊วนแก๊ง ต้องแต่งเรื่องโกหกว่า จ๋ายกับศักดิ์ เป็นแฟนกันจริง ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกแก๊งที่ต้องช่วยกันแต่งเรื่องมาหลอกศักดาคุณพ่อของจ๋าย ศักดิ์เองก็เล่นตามน้ำไปซะยังงั้น ทั้งที่ในใจเขานั้นอยากเป็นแฟนกันจริงไม่ต้องมาโกหกแบบนี้ หนังก็เลยได้มุกแต่งเรื่องโกหกแบบภาคแรกมาประยุกต์ใช้อีกรอบ เมื่อตัวละครหลักมารวมกันอยู่หมด การจะเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ทำได้ง่ายขึ้น หนังก็เลยมีฉากเรียงเสียงฮาได้ถี่ ๆ ดูหนังออนไลน์ 4k ตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที หนังเรียกเสียงฮาได้จริง แต่พลังความฮายังด้อยกว่าภาคแรกนัก ฉากเด็ดที่สุดในภาคนี้ก็น่าจะเป็น “ฉากงูเห่า” นั่นแหละ
ในขณะที่หนังทำการบ้านมาดี รู้ว่าคนดูชอบอะไร และไม่ชอบอะไรจากภาคแรก ทีมเขียนบทก็เลือกเน้นในสิ่งที่คนดูชอบ และเลือก “ตัด” ในสิ่งที่คนดูไม่ชอบ ในภาคนี้เราก็เลยเห็น ศักดิ์เอ่ย”คำคม”เพียงแค่ครั้งเดียว

ผู้ที่รับภาระหนักในภาคนี้ก็ยังคงเป็น “น้าค่อม” เช่นเคย การใส่บท “ศักดา” เข้ามาในฐานะคู่ปรับ ก็เหมือนกับเปิดช่องทางให้น้าค่อมตบมุกได้อีกมาก ด้วยภาพลักษณ์นักเลงของเต๋า สมชาย จึงทำให้เต๋ามักได้บทแนวโหดดุอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่เต๋าเอ่ยเสียงขึ้นมาเมื่อไหร่ พลังความเข้มมันตกฮวบเสียทุกที ถ้าเต๋าผ่าตัดกล่องเสียงตั้งแต่ยังหนุ่ม น่าจะรุ่งกว่านี้นะ เสียงเต๋าดูอ่อนนุ่มขัดกับภาพลักษณ์อย่างมาก แต่ด้วยภาพลักษณ์หนวดเครารุงรังก็ดูเหมาะกับบทเจ้าพ่อเหมืองแร่ ขอชื่นชมการทำหัวล้านบาร์โค้ดด้วย เป็นงานเมคอัปที่ดูแนบเนียนเหมือนจริงดี
ในขณะที่หนังเดินหน้าไปด้วยเส้นเรื่องหลัก ว่าด้วยการสร้างสัมพันธ์ของ 2 ครอบครัว เส้นเรื่องรองก็คือเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างศักดากับเจ้าพ่อที่ต้องการซื้อเหมืองแร่ของศักดาในราคาต่ำ ก่อให้เกิดความอลหม่านยุ่งเหยิงในฉากท้ายเรื่อง ดูแล้วชวนให้นึกถึงสูตรสำเร็จแบบที่ แฟรนไชส์ “บุญชูสระอูยาว” ชอบใช้ในทุกภาค สร้างสถานการณ์ให้ตัวละครมารวมกัน เขียนบทให้หยอดมุกฮาเรี่ยไร่รายทางไปเรื่อย แล้วจบด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง แล้ววกเข้าแฮปปี้เอนดิ้งในตอนจบ ไบค์แมน2 ก็มาด้วยสูตรนี้แบบเป๊ะ ๆ แต่ด้วยเหตุที่ว่านี่คือหนังชื่อ “ไบค์แมน” พระเอกของเรื่องคือหนุ่มผู้รักความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นก็ต้องมีฉากให้ศักดิ์ได้โชว์ความสามารถในการขี่มอเตอร์ไซค์ ก็ถือว่าทีมงานหาทางใส่ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ให้ศักดิ์เข้าไปในเรื่องราวได้อย่างลงตัว ดูหนัง 4k
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าแม้จะเป็นสูตรสำเร็จ แต่ฉากจบด้วยบรรยากาศกุ๊กกิ๊กของ ศักดิ์และจ๋ายก็ทำให้ดูแล้วอดยิ้มตามเสียไม่ได้ ฝน ศนันธฉัตร ยังทำหน้าที่สีสันความสดใสเพียงหนึ่งเดียวของเรื่องได้อย่างดี อยากฮาก็ได้ฮาอยู่นะ แต่ก็ไปได้ไม่เท่าภาคแรกครับ
ไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึก ถือเป็นหนึ่งในหนังไทยที่ทำเงินถล่มทลายในปี 2561 แบบเหนือความคาดหมาย เมื่อสิ้นสุดการฉาย หนังสามารถทำรายได้ทั่วประเทศได้เกิน 100 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสหนังไทยเรื่องอื่นๆที่ถือได้ว่าซบเซาอย่างหนักและหลายเรื่องก็เข้าขั้น “ขาดทุน”

พล็อตของไบค์แมนภาคแรก ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่าการที่ศักรินทร์ (พชร จิราธิวัฒน์) หนุ่มหน้าตาดีที่ทำงานเป็นวินมอเตอไซค์รับจ้างในกรุงเทพฯ เขาโกหกที่บ้านว่าตัวเองทำงานอยู่ในธนาคาร ทุกเช้าศักรินทร์จะแต่งตัวใส่เชิ้ตผูกเนคไทค์เพื่อนั่งรถไฟเข้ามาทำงาน แต่เมื่อถึงปลายทางเขาก็เปลี่ยนชุดและกระโดดไปคร่อมมอเตอไซค์เพื่อหาเงิน สิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังภาคแรกที่ทำให้ไบค์แมนฯ เป็นมากกว่าหนังตลกโปกฮาขายเสียงหัวเราะ
คือการที่หนังได้ใส่ประเด็นการแบกรับความคาดหวังของคนหนุ่มสาวจากบรรดาผู้ใหญ่ ในการกลายเป็นคนในวัยทำงานอีกทั้งยังพยายามทำตามความฝันของตัวเองโดยไม่ย่อท้อ หนังยังเผยให้เห็นถึงความล้มเหลวของตัวเอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และชี้ให้เห็นว่าหลายครั้งโอกาสและจังหวะเวลาในชีวิตก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกเช่นกัน
ไบค์แมน 2 ในปี 2562 สานต่อ เรื่องราวหลังจากตอนจบของภาคแรกไม่นานนัก เมื่อศักดา (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) พ่อแท้ๆของจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร) กำลังสงสัยว่าลูกสาวกำลังจะมีแฟน ทำให้ฉากเปิดเรื่องของหนังภาคนี้ถูกเล่าด้วยอารมณ์ตลกขบขันว่า จ๋ายให้ศักรินทร์ขี่รถมอเตอไซค์หนีพ่อของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีนตลกโปกฮาขายขำ แต่เมื่อมองลึกไปกว่านั้น นี่ถือเป็นซีนที่จัดได้ว่า จ๋ายกำลังทำให้พ่อของตัวเองและคนที่ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุด้วยความไม่มีสติของคนหนุ่มสาว
เส้นเรื่องในหนังภาคนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ศักดาต้องการจะทำความรู้จักครอบครัวของศักรินทร์ ด้วยการเชิญพวกเขามาที่บ้านต่างจังหวัด แต่แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อเหล่าแก๊งตูดหมึก ทั้ง ปรีชา(ค่อม ชวนชื่น ) หลง (โรเบิร์ต สายควัน) รวมไปถึงสุรีย์(เจนนิเฟอร์ คิ้ม) แม่ของศักรินทร์ ต้องไปเผชิญหน้ากับศักดา จนกลายเป็นที่มาของความปั่นป่วน ดูหนัง
น่าเสียดายที่หนังภาคนี้ เรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครไม่มีอะไรคืบหน้านัก ตัวละครศักดาเป็นตัวละครที่อ้างอิงมาจากคาแรกเตอร์ในชีวิตจริงของเต๋า สมชาย ยิ่งไปกว่านั้นแนวคิดแบบคลุมถุงชนของตัวละครศักดา ก็ดูเป็นตัวละคร “คุณพ่อหัวโบราณ” ในละครไทยช่วงเอาซะเหลือเกิน ยิ่งเมื่อเราพิจารณาว่าเขาทำงานในระดับเป็นเจ้าของเหมืองหินแล้ว หนังก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผลในแง่ระบบความคิดความอ่าน และเหมือนออกแบบตัวละครนี้มาเพื่อเอาไว้รับใช้การใส่ฉากแอ็คชั่นโครมครามในช่วงท้ายเรื่องเสียมากกว่า
ยังคงรักษามาตรฐานความสนุก และตลกได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่รู้สึกขัดข้องใจเมื่อดูต่อจาก “ศักรินทร์ ตูดหมึก” ซึ่งเป็นภาคที่ 1 แม้เส้นเนื้อเรื่องจะต่างออกไป มีการขี่มอเตอร์ไซด์ซึ่งเป็นจุดเด่นของภาคที่ 1 น้อยลง แต่ในภาคนี้จะเน้นหนักไปที่แอคชั่นมากกว่า โดยจะมีฉากขับหนีการตามล่า หรือขับฝ่าระเบิด ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งของหนังชุดนี้ อย่างไรก็ตามจุดเด่นของเรื่องก็ยังคงเป็นความตลกขบขัน ที่มักจะเรียกเสียงฮาได้เกือบตลอดทั้งเรื่อง โดยนักแสดงทุกคนแสดงออกมาได้ดี และเข้าถึงอารมณ์ของเรื่อง ส่งให้เรารู้สึกอินตามไปกับเนื้อเรื่อง การที่เน้นหนักไปที่ความรักของพ่อ และลูก อาจทำให้หลาย ๆ คนคิดถึงพ่อ หรือแม่ หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบก็เป็นได้ครับ
สำหรับหนังเรื่องนี้ จุดด้อยของตัวเรื่อง คือบทละคร ที่ไม่มีความซับซ้อน สามารถคาดเดาได้ง่าย ซึ่งอาจจะขัดใจผู้ชมบางคนที่เสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการที่ตัวหนังเป็นหนังตลกแนวครอบครัว ซึ่งจุดประสงค์หลักของเรื่อง คือการเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชม จึงอยากจะให้ทุก ๆ คนมองข้ามจุดด้อยนี้ไปครับ
หลังจากภาคแรกน่าจะเป็นหนังม้ามืดของปี 2018 เพราะจากหนังที่คนแทบไม่มีใครสนใจในช่วงปล่อยตัวอย่าง แต่หลังจากกระแสหนังแบบปากต่อปาก กับความฮาที่ทุกคนโหยหาจากหนังไทยมานาน มันก็ทำให้หนังเรื่องนี้ สามารถประสบความสำเร็จและทำรายได้มากเกิน 100 ล้านบาท ( ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า ผมชอบภาคแรกมาก จำได้ว่าตอนไปดูไม่คิดว่ามันจะฮา แต่พอดูไปเท่านั้นแหละ ฮาแบบไม่เกรงใจคนข้างๆ เลย ) ดูหนังออนไลน์
ซึ่งหลังจากที่ตัวหนังประสบความสำเร็จ มันก็ไม่แปลกที่ทางค่ายจะรีบเข็นภาคสองออกมาอย่างรวดเร็ว ตอนแรกที่ดูก็คิดว่า หนังมันคงสู้ภาคแรกไม่ได้หรอก อาจมีฮาบ้างนิดๆ แต่หลังจากดูเสร็จ คือไม่ใช่.. เพราะแม่งฮาไม่มีตกเลย กราบในความท็อปฟอร์มของน้าค่อมอีกแล้ว รักน้ามากก
ผมชอบในความสร้างจักรวาลของหนังเรื่องนี้มาก คือไบค์แมน ภาค 1 กับ ภาค 2 เป็นหนังที่เนื้อเรื่องมันต่อกันเลย เส้นชีวิตของศักรินทร์กับจ๋ายก็เล่ากันต่อ ว่าพวกเขาเป็นไงบ้าง หลังจากจบภาคแรก โดยภาคนี้แค่เปลียนจากครอบครัวศักรินทร์ กลายเป็นครอบครัวของจ๋ายแทน
โดยความสนุกของไบค์แมน 2 ผมจัดมันอยู่ในหนังป๊อบคอร์นดูได้ทั้งครอบครัว ดูเอาสนุกไม่คิดอะไรมาก จ่ายตังเสร็จรับความบันเทิงจากตัวหนัง ไม่ต้องไปปวดหัวกับตรรกะมากมายกับตัวละคร หรือเส้นเนื้อเรื่องที่ดูน่าติดตามจนอะไรเยอะไปหมด เข้าไปฮาและเพลินของเหล่านักแสดงตลกเป็นพอ
ซึ่งความฮาหลักๆของหนังเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นน้าค่อม ที่จัดหนักจัดเต็มมากกว่าเดิม เหมือนผู้กำกับเขาเห็นว่า คนดูชอบน้าใช่ไหม ได้!! พี่จัดน้าค่อมให้สาสมใจกันเลย…
น้าค่อมแกสามารถเก็บความฮาได้ทุกเม็ดจริงๆ ซีนไหนที่น้าออกมา ฉากไหนแม่งฮาทุกซี่น แถมการเสริมเติมแต่งพี่เต๋า สมชายที่ภาคนี้เป็นคู่กัดของน้า รวมถึงนักแสดงตลกสมทบอย่างพี่โรเบิร์ต สายควัน มันก็ทำให้หนังมีสีสั่นและฮาแบบไม่เบื่อเลยแต่ถึงกระนั้น แม้หนังจะมีความแปลกที่ไม่เหมือนภาคแรก ตัวละครสมทบดูดีทุกคน แต่หากเทียบกับภาคแรก หนังก็จะดีกันคนละส่วน ส่วนที่ด้อยกว่าภาคแรกชัดเจนมันคือ เส้นเรื่องของตัวละครหลักอย่าง
ศักรินทร์กับจ๋าย ที่ดรอปจากภาคแรกไปพอสมควร หนังอาจสามารถเรียกน้ำตาคนดูในพาร์ทของจ๋ายได้ช่วงจบ แต่หากเทียบกับภาคแรก ตรงส่วนนี้ คิดว่ายังชอบภาคแรกมากกว่า แค่นั้น