รีวิวหนัง Homatagia อัตภาวกาล

เด็กหนุ่มผู้ยืนระหว่างรอยร้าวของครอบครัว รีวิวหนัง Homatagia อัตภาวกาล และในวงเวียนวัฒจักรชีวิตของเขาทั้งผู้คนรายล้อมและหลากหลายเหตุการณ์ว่ายวนดั่งสายน้ำตั้งแต่ ตาและยายที่ต้องดูแลกันในวัยไม่ใกล้ฝั่ง พ่อที่ห่างเหินกับการเดินทางไปเพื่อค้นพบทั้งเศษซากของครอบครัวและความทรงจำที่กระจัดกระจาย และในขณะที่เรื่องเล่าอันเติมแต่งไหลเวียนไปเหมือนชีวิตที่ยังไม่เจอจุดบรรจบ รีวิวหนังไทย

รีวิวหนัง Homatagia อัตภาวกาล

กลับถูกต่อเติมด้วยเรื่องราวสารคดีในชีวิตของปลื้มทั้งความเป็นมาตั้งแต่เกิด บ้านยาย บ้านที่พ่อแม่สร้าง จนความล่มสลายที่กลายเกิดเป็นบ้านหลังปัจจุบัน บ้านที่เขาเลือกกลับไปเล่ามันอีกครั้งพร้อมทบทวนถึงรอยร้าวและความเป็นมาที่สร้างให้เกิดตัวตนของ ปลื้ม ชนสรณ์ ชัยกิตติภรณ์

มีคำกล่าวว่าหนังก็คือตัวตนของผู้สร้างที่ถูกเติมแต่งรสชาติให้ถูกใจคนดู แต่คำกล่าวนั้นคงนำมาจำกัดความ Homatagia ได้ไม่เต็ม 100% นัก เพราะสิ่งที่ ชนสรณ์ ชัยกิตติภรณ์ หรือ ปลื้ม เลือกนำมาบอกเล่ากลับกลายเป็นเรื่องราวของครอบครัวของเขาแบบที่ทำให้เราเข้าใจตัวตนและความคิดของเด็กหนุ่มจากอุตรดิษฐ์คนนี้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และจริงอยู่ว่าการแบ่งเรื่องราวเป็น 2 ส่วนทั้งเรื่องแต่งและสารคดีจะไม่ใช่ของใหม่

WHAT THE FACT รีวิว Homatagia

แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นอีกก้าวที่กล้าและบ้าบิ่นของปลื้มในการเปิดเปลือยตัวตนและครอบครัวที่คนส่วนใหญ่มักเก็บงำและปิดล็อกกุญแจมันไว้ในบันทึกส่วนตัว และแม้เรื่องราวที่ถูกเล่าจะไม่ได้เอาใจคนดูทั่วไปนักแต่ด้วยจังหวะและความน่าสนใจของงานภาพและเสียงก็ทำให้เราไม่อาจไถ่ถอนจากอาการจมดิ่งสู่วังวนของครอบครัวอันแตกร้าวและการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งหลังการสูญเสียได้อย่างสัมผัสหัวจิตหัวใจคนดู

ในส่วนของเรื่องเล่าในครึ่งแรกของหนัง คงเดาไม่ยากว่า ป. ก็คือตัวแทนของปลื้ม และตัวละครรายล้อมก็ถูกเล่าแทนบุคคลรอบด้านในชีวิตจริงของปลื้ม เพียงแต่เรื่องราวในส่วนนี้มันกลับถูกบอกเล่าในลักษณะห้วงคำนึงเสียมากกว่า และตามธรรมชาติของการเป็นหนังนักศึกษาที่จะขอทดลองและถ่ายทอดเรื่องเล่าตามอัตวิสัยของตน แน่นอนละสิ่งที่เล่ามันอาจไม่ได้เอาใจคนดูนักทั้งซีน ป. อาบน้ำแล้วสำเร็จความใคร่เป็นเวลานาน

หรือภาพซ้อนแบบ Double Exposure ที่ทำให้ภาพสองภาพ 2 เหตุการณ์ซ้อนกันเป็นหนึ่งเดียวแบบแทบจะไม่ได้เล่าเรื่องราวให้คืบหน้า ดูหนังหรือกระทั้งการกำกับฉากดราม่าที่อาจยังไม่คมมากนัก แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดจริง ๆ ก็คือในเรื่องเล่าที่เหมือนไม่ปะติปะต่อในส่วนของหนังเล่าเรื่องกลับไปเติมเต็มช่องว่าง หรือตอบปริศนาแบบแยกเฉลยคำตอบไว้ เพื่อรอให้เราไปพบโจทย์และข้อข้องใจของคนทำหนังในเรื่องราวสารคดีส่วนที่สอง

สำหรับการกำกับในส่วนนี้ต้องยอมรับว่าปลื้มเองก็เพลย์เซฟด้วยการนำนักแสดงประกอบมืออาชีพมารับบทสำคัญทั้งคุณตา ที่ได้ วัลลภ เถียรทอง ที่เราได้เจอในหนังไทยกับบทประเภทนักการเมืองโฉดอยู่เสมอ หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพธรรมชาติเป็นภาพอินเสิร์ตแทรกเข้ามาเป็นระยะเพื่อคั่นช่วงระหว่างเรื่องราวตัวละครหนึ่งไปบอกเล่าเรื่องราวอีกหลายตัวละคร ดูหนังออนไลน์ 

ซึ่งข้อดีคือมันทำให้เรื่องราวกระจัดกระจายเป็นเอกภาพด้วยไอเดียแบบปรัชญาทั้งภาพสายน้ำที่เชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวส่วนที่ 2 หรือ ต้นไม้ที่ไหวตามกระแสลมก็แทนการยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ดี และหากเรามองให้พ้นเหนือความบกพร่องในงานกำกับที่ยังไม่คมพอที่จะใช้งานภาพเชิงกวีมาใช้กับนักแสดงได้ หรือ การร้องเพลง พรหมลิขิต ของตาแล้วเกิดดราม่าตัวละครร้องไห้แต่กลับยังไม่นำพาอารมณ์คนดูนัก ก็ถือได้ว่าเรื่องราวที่เป็นส่วน Fiction คือการทดลองอันบ้าบิ่นดีแต่เหนืออื่นใดมันคือชิ้นส่วนความทรงจำที่ถูกปรุงแต่งโดยคนทำหนังที่เราต้องไปสานต่อกับเรื่องราวส่วนที่สองเอานั่นเอง

เมื่อเรื่องเล่าได้ผ่านไปแบบไม่ได้ให้คำตอบหรือปิดม่านเรื่องราวให้สมบูรณ์นัก อยู่ดี ๆ คนดูก็ถูกพามาสู่จังหวัดอุตรดิษฐ์ บ้านเกิดของปลื้มและบุคคลแรกที่ปลื้มพาเราไปพบคือ คุณยายที่มาบอกเล่าเรื่องราวความรักความผูกพันกับตาที่เพิ่งจากไป ซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเล่าประเภทความรักอันหวานชื่นเสียทีเดียว เรื่องราวการทะเลาะเบาะแว้ง เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก

ได้กลายเป็นความทรงจำอันแสนหวานขมและมันยังเป็นเหมือนข้อคิดเตือนใจถึงทัศนคติชีวิตคู่ของคนรุ่นเก่าที่ต่อให้ร้ายต่อกันแค่ไหนสุดท้ายความผูกพันธ์ก็ยังอยู่เหนือความโกรธเกลียดและวาระสุดท้ายที่คุณยายดูแลคุณตาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นคงของความรักคนรุ่นก่อนและลูกก็ยังเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ครอบครัวยังเป็นครอบครัวแม้ว่าลูกบางคนจะนำความเดือดร้อนให้แม่แต่แม่ก็ยังเลี้ยงดูและแบ่งเบาทุกข์ให้เสมอ ที่สำคัญคือภาพของคนเก่าแก่รุ่นเบบี้บูมที่สุดแสนขยันยังทำให้เรา ๆ ในยุคไถสมาร์ตโฟนต้องหน้าชาไม่น้อยเลยทีเดียว

และแน่นอนว่ามันจะเป็นสารคดีส่วนตัวไม่ได้เลยหากขาดบุคคลสำคัญในชีวิตของปลื้มคือคุณแม่ ซึ่งนอกจากใบหน้าอ่อนเยาว์จนเราแทบไม่เชื่อว่าเธออายุเลยหลัก 50 มาแล้วยังรวมถึงทัศนคติและการตอบคำถามลูกแบบไม่มีอะไรปิดบังทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับพ่อ จนถึงชีวิตคู่ในวัยปัจจุบันที่มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาร่วมทาง และแม้เราจะรับรู้เรื่องพ่อจากปากของแม่ปลื้มในลักษณะความเห็นข้างเดียว

แต่โดยส่วนตัวแล้วเรื่องราวในส่วนฟิกชันน่าจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นที่ขาดนี้ได้ดี แม้เมื่อนำมาต่อกันแล้วเราจะยังพบว่าชิ้นส่วนมันไม่พอดีกัน แต่อย่างน้อยเรื่องราวของพ่อ ป. ที่บอกเล่ามาในเรื่องราวส่วนแรกก็ทำให้เราไม่มองเขาในแง่ร้ายมากเกินไปนัก และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ Homatagia เป็นงานส่วนตัวที่พยายามปรับสมดุลระหว่างบทบันทึกครอบครัวกับความทรงจำในลักษณะเรื่องเล่าที่ปรุงแต่งได้อย่างมีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว

หนังมีจุดบกพร่องประปรายตามประสาหนังนักศึกษาดั่งที่กล่าวมาแล้ว แต่ด้วยความโดดเด่นในการกล้าเล่าเรื่องครอบครัวแบบ Up Close and Personal จนน่าตกใจและการเติมความเห็นผ่านงานภาพที่ประดิษฐ์มาได้อย่างบ้าบิ่นและไม่ประนีประนอมก็ทำให้ Homatagia โดดเด่นด้วยตัวมันเองและการชมหนังในโรงภาพยนตร์คือคำแนะนำเดียวในการดูหนังเรื่องนี้จริง ๆ

WHAT THE FACT รีวิว Homatagia

‘อัตภาวกาล’ เจ้าของรางวัลวิจิตรมาตรา ของมูลนิธิหนังไทย ปีล่าสุด ผลงานธีสิสของ ชนสรณ์ ชัยกิตติภรณ์ ที่หยิบเรื่องครอบครัว มาสร้างเป็นหนังยาวอันเป็นส่วนผสมของสารคดีครอบครัวกับหนังฟิกชั่นสะเทือนอารมณ์ที่ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้สร้างอย่างหมดจด

ในความเปราะบางของต้นไม้ ความแข็งแกร่งของสายน้ำ ในการกลับมาของลูกชาย การตายของพ่อ การเดินทางไปพบพ่ออีกครั้ง ในความทรงจำของผู้หญิงสองคน

หญิงชราผู้หนึ่งใช้เวลาทั้งหมดเพื่อดูแลสามีที่ป่วยด้วยโรคร้ายและกำลังจะตายในอีกไม่นาน ลูกสาวของพวกเขาต้องตามน้องชายที่หนีออกจากบ้านไปหลายปีให้กลับมาบ้านก่อนที่พ่อจะจากไป ในขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยหลานชายของพวกเขาใช้เวลาในวันหยุดยาวเพื่อเดินทางไปหา ปิยะ พ่อของเขาที่ไม่ได้เจอกันมานานหลังจากที่แยกห่างจากครอบครัวไป

1 ) หนังแนว Docufiction หนังความทรงจำที่ปลูกสร้างเพื่อบรรเทาจิต
Docufiction หรือแนวสารคดีที่มีบางส่วนเล่าเรื่องเพื่อเสริมแต่ง ตามนัยยะของผู้สร้าง คาดว่าน่าจะเป็นแนวนิยม ณ เวลานี้ จากที่สังเกตในปี 2019 ในบ้านเรามีหนังแนวนี้ออกฉายอยู่ถึง 3 เรื่องได้แก่
1.1 หนังยาวเรื่อง นคร-สวรรค์ ของ พวงสร้อย อักษรสว่าง เล่าเรื่องส่วนหนังด้วยเรื่องหญิงสาวกลับบ้านช่วงงานศพแม่และความเป็นไปในอนาคต ตัดสลับไปมากับฟุตเตสสารคดีตอนแม่มีชีวิต เพื่อบันทึกและระทึกภาพความทรงจำแสนรวดร้าวของเธอ
1.2 หนังสั้นชิงรางวัลช้างเผือก หนังชิงรางวัลสำหรับระดับอุดมศึกษา เรื่อง จาโบ้วเกี้ย ของ กุลภัทร กล้าธนกาญจน์ ที่ฝั่งหนังเล่าเรื่อง ซึ่งเล่าในช่วงครึ่งแรกของหนัง จะเกี่ยวกับความขัดแย้งในครอบครับเชื่อจีนในครอบครัวเธอสายตาของผู้กำกับ ตัดกับส่วนครึ่งหลังของหนังด้วยการเล่าแบบสารคดีในมุมความอบอุ่นจากแม่เธอ นำพาหนังและเรื่องเล่าความขัดแย้งเป็นเพียงฝันร้ายในความทรงจำเธอเท่านั้น

1.3 กรณีของ Homatagia อาจพิเศษหน่อยตรงที่เป็นหนังส่งจบแบบ จาโบ้วเกี้ย แต่มันมีขนาดยาวเหมือนนคร-สวรรค์ (ไม่นับที่ผู้กำกับเป็นผู้ชายคนเดียวในสามคนนี้) ซึ่งส่วนหนังเล่าเรื่อง จะเล่าถึง 2 ช่วงเวลาชีวิตของ ปอ เด็กหนุ่มที่เติบโตในครอบครัวที่แตกสลาย ช่วงแรกเล่าถึงวัยมัธยมที่ต้องกลับมาบ้านเกิด ณ อุตรดิตถ์ เพื่อมาดูใจตาที่กำลังป่วยหนักในโรงพยาบาล แถมได้มาเจอกับ อาโน อาผู้ลงใต้ทำการเกษตร ผู้ไม่เคยกลับบ้าน ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง

อีกช่วงเวลาหนึ่งเล่าในวัยมหาลัยปี 2 ปอมีโอกาสไปเยี่ยมพ่อ ซึ่งอยู่ในช่วงวางแผนลามืองานที่ทำ ซึ่งทำให้เขาไร้ถิ่นปักฐาน ในโลกที่เศรษฐกิจตกต่ำเต็มไปด้วยที่ดินร้าง อันสะท้อนตัวตนของพ่อว่าเป็นนักสร้างบ้าน แต่ไม่ใช่คนที่อยู่กับบ้าน
ในส่วนของสารคดีจะเล่าสัมภาษณ์ประวัติศาสตร์ชีวิตของยายและแม่ของตัวเองถึงภาวะเหตุการณ์แตกสลายของครอบครัวตนเอง

มาถึงตรงนี้แล้ว เราว่า Homatagia มีรูปแบบการนำเสนอเรื่องจะคล้ายกับ จาโบวเกี้ย ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนังเล่าเรื่องก่อน แล้วค่อยเล่าส่วนสารคดีทีหลัง และ การนำเนื้อหาสารคดีมาสร้างเป็นหนังเล่าเรื่องและแต่งเติมมุมมองใหม่ลงไปเอง แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Homatagia เป็นหนังที่แคร์เรื่อง”ป่า”สูงมาก ดูหนัง 4k

2 ) Homatagia หนังว่าด้วยเรื่องความอ่อนแอของความเป็นชายและความแข็งแกร่งของผู้หญิง
หลังจากที่ดูมากกว่า 1 รอบ เราพบว่าหนังเรื่องนี้มีลักษณะคล้ายไขเกมปริศนา ต่อจิ๊กซอว์ข้อเท็จจริงภายในหนังอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากพอดูส่วนแรก(หนังเล่าเรื่อง)จบ ในส่วนที่สอง(เล่าแบบ)สารคดีก็จะพูดถึงข้อมูลจริงและพาคนดูนึกย้อนว่ามีส่วนใดในช่วงแรกถูกปรับและแก้บ้าง

เราพบว่าวิธีการดูแบบนี้ก็ทำให้ดูหนังสนุกขึ้น เนื่องจากมีบางส่วนถูกปรับแก้ เพื่อให้เข้ากับความต้องการที่ผู้กำกับนำเสนออย่างซื่อตรงต่อจิตใจโดยบริสุทธิ์
ขอเล่าในส่วนหนังเล่าเรื่องก่อo
ส่วนที่เราชอบได้แก่ ส่วนของอาโน และ พ่อ ผู้มีความร้างเชิงสัมพันธ์ในการกลับบ้าน ต่างยืนอยู่ในพื้นที่โล่งและร้างของตัวเอง และยังสะท้อนอาชีพของตัวเองค่อนข้างดี (อาโน อาชีพทำสวนยืนดูน้ำคลำและสูบบุหรี่ / พ่อทำงานอาชีพรับเหมา ยืนอยู่บนพื้นที่ลูกค้า-ที่จ้างทำบ้าน- ยืนสูบบุหรี่) พอ ปอ มีลักษณะเดียวกับผู้ชายในตระกูลนี้ (ยืนสูบบุหรี่ในพื้นที่ส่วนตัว โดยสูบในโรงเรียนกึ่งร้าง) มันสะท้อนความช้ำอย่างชัดเจนว่า”อาถรรพ์ความต้องการอยู่ไกลบ้าน”มีอยู่ในผู้ขายทุกคนเสมอด้วยความรู้สึกผิด เพียงแต่ใครเล่าจะกล้าเผชิญกับความจริงที่เกิดขึ้น ดูหนังออนไลน์ 4k

อีกฉากที่ชอบมาก ได้แก่ฉากคุณตาอยู่ในพื้นที่วัดร้าง ก่อนจะเข้าไปในกุฏิที่ปิดอยู่และร้องไห้อยู่หน้ากรง หนังก็ถ่ายฉากในลักษณะนี้กับพ่อ ผู้ซึ่งอยู่หน้ากรงเช่นกัน แต่เป็นโรงเรียนและไม่ได้ร้องไห้ด้วย เขาเลือกที่จะเดินเข้าไปดั่งตัดความสัมพันธ์ที่ไม่ใยดี เราเลยคิดว่าพื้นที่ความสัมพันธ์ของผู้ชายกับครอบครัวในเรื่อง มันช่างบอบบางและเย็นชามาก

ในส่วนของสารคดี เราจะชอบมากตอนที่คนที่ถูกสัมภาษณ์มีเพียง ยาย และ แม่ ผู้เล่าถึงบทบาทผู้หญิงที่โดนกระทำจากผู้ชาย ไม่ว่าจะด้วย เหล้า ยา ผีพนัน ใช้ความรุนแรง รวมถึงการควงชู้ พาให้บ้านแตกสาแหรกขาดกัน ดั่งส่งไม้หากัน หน่ำซ้ำเราชอบมากที่บ้านของผู้กำกับเองมีความ LGBT ด้วยแม่ผู้มี Love Interest กับผู้หญิง ซึ่งดูอ่อนหวาน สวยและนิ่มนวลกว่าผู้ชาย

เราว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ และ วัยวุฒิที่ใช่ สำหรับ ปลื้ม ชนสรณ์ ชัยกิตติภรณ์ ถือเป็นคนทำหนังไฟแรง มีความกล้าที่จะนำเสนอความรู้สึกและความทรงจำออกมาให้เกิดรูปธรรม เพิ่มเติมคืออาจต้องใช้เวลาและต้นทุนไม่ว่าจะเงิน หรือ ประสบการณ์ อีกสักนิดในการขัดหนังให้มีความคมชัดในประเด็น หนังจะออกมาดีงาม สุดยอดมากขึ้นไปอีก
สำหรับเรา หนังแนว Docufiction ที่นำเรื่องครอบครัวมาสู่สายตาคนดู เราว่าเป็นความกล้ามากที่อยากจะแชร์เรื่องในบ้านให้ดูและถ่ายทอดมันออกมาด้วยความจริงใจและสัมผัสได้ ถึงหนังจะมีแผลเป็นจากการนำเสนอจากการทดลองเล่า ทดลองตัด แต่ยอมรับว่าคนที่เลือกถ่ายทอด มันต้องมีไฟและบ้าบิ่นเท่านั้น ถึงจะปรากฎหนังลักษณะนี้ออกมาได้