รีวิวหนัง โกสต์แล็บ ฉีกกฎทดลองผี
รีวิวหนัง โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี การทดลองเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายกลับพลิกผัน เมื่อกล้ากับวี หมอเพื่อนคู่หูเกิดเห็น ‘ผี’ ด้วยตาตัวเองเป็นครั้งแรก การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องการค้นหาคำตอบเรื่องผีและข้อพิสูจน์เกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย การหมกมุ่นยึดติดเพราะอยากรู้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังทำให้พวกเขาถลำลึกจนกู่ไม่กลับ ดูหนังออนไลน์ และอาจทำให้ทั้งคู่ต้องสูญเสียมิตรภาพและคนที่ตนรักไปหลังจากที่ปลายปีที่แล้ว GDH ได้จัดงานแถลงข่าว GDH Xtraordinary 2021 LINE UP เพื่อเผยไลน์อัป 5 โปรเจกต์หนังใหม่ที่จะเข้าฉายในปี 2563-2564 ซึ่งในปีทีแล้ว ‘อ้ายคนหล่อลวง’ (2563) หนังเรื่องแรกของโปรแกรมนี้ก็ได้เข้าโรงฉาย และเอาเข้า Netflix เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รีวิวหนัง โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี
ถึงทีของหนังเรื่องที่ 2 ของโปรเจกต์นี้อย่าง ‘GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี’ ที่คราวนี้ GDH ขอหวนคืนสู่ รีวิวหนังไทย อีกครั้ง (หลังจากห่างหายจากแนวนี้ไปสักพัก) โดยผู้กำกับ ‘กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ ที่ผ่านผลงานทั้งหนังผี-หนังไม่ผีทั้งหลาย ตั้งแต่ ‘บอดี้ ศพ19’ (2550), ‘สี่แพร่ง’ ตอน “ยันต์สั่งตาย” (2551) , ‘ห้าแพร่ง’ “หลาวชะโอน” (2552) ตอน “หลาวชะโอน” และ ‘รัก 7 ปี ดี 7 หน’ ตอน “14” (2555) นอกจากจะเป็นการหวนสู่หนังผีของ GDH แล้ว หนังเรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ Netflix Original เรื่องแรกของ GDH ที่ฉายเฉพาะใน Netflix ด้วย ซึ่งนอกจากว่าจะมีข้อดีตรงที่ชมได้ทั่วโลกแล้ว ดูหนัง 4k ส่ิงที่หนังเรื่องนี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ การดันเรตติงขึ้นไปถึง 18+ ทั้งภาพโหด ๆ และภาพความรุนแรงต่าง ๆ ใส่ในหนังแบบจัดเต็มได้กว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ของ GDH ที่เคยมีมา จริง ๆ พอได้ยินจั่วหัวว่าหนังเรื่องนี้เป็น “หนังผีสายวิทย์” แค่ทีเซอร์ก็น่าสนใจแล้วแหละ บวกกับความเป็น GDH ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเคี่ยวกรำบทหนังแบบเข้มข้น รวมถึงการเจอกันครั้งแรกของ 2 นักแสดงแห่งนาดาวอย่าง ‘ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร’ ในบท ‘หมอวี’ หมอสุดเนิร์ดที่มีปมบางอย่างในใจ ‘ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ ในบท ‘หมอกล้า’ หมอมาดเท่ที่มีโปรเจกต์ลับที่อยากจะทดลองอะไรบางอย่างเกี่ยวกับวิญญาณและโลกแห่งความตาย และ ‘ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์’ กับการเล่นหนังครั้งแรกในบท ‘ใหม่’ แฟนหมอกล้า
เพราะเป็นการล้ำเส้นคนเป็นล้อเล่นกับความตาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการนำเอาวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์เข้ามาร่วมกันสร้างความน่าสะพรึงกลัวแบบใหม่ ซึ่งสร้างความน่าสนใจในการรับชมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เป็นหนังผีแนวใหม่ที่พยายามสำรวจความเชื่อเหนือธรรมชาติให้ลึกซึ้งมากขึ้นภายใต้การตั้งคำถามว่าความเชื่อเหล่านี้สามารถใช้วิทยาศาสตร์ในการช่วยพิสูจน์ได้และโลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริงไหม หน้าตามันเป็นอย่างไร
ผีมีจริงไหม ตายแล้วไปไหน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราเข้าไปสู่คำตอบที่หลายๆ คนนั้นสงสัยด้วยการทดสอบจากวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ ด้วยเนื้อหาเรื่องราวของภาพยนตร์นี้อาจจะทำให้เรากระตุ้นและไตร่ตรองการสอดแทรกการใช้ชีวิตของตัวเราเองมากขึ้นอีกด้วย
เรื่องย่อตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่อง Ghost
เป็นที่น่าเสียดายที่ถึงแม้หนังไทยหลายเรื่องจะมีไอเดียแปลกใหม่แค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ไปไหนหรือแป้กในตอนจบ เพราะมันมักจะวนกลับมาที่ความนิทานก่อนนอนแทรกคติสอนใจหรือรายการสไตล์คนเมืองพุทธ
เปิดเรื่องมาด้วยความฝัน ความมุ่งมั่น และความทะเยอทะยานของตัวเอกที่อยากจะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าผีมีจริงและตนเองได้ขึ้นปกนิตยสารวิทยาศาสตร์ระดับโลก เช่นเดียวกับซีรีส์ ของเกาหลีที่ตัวเอกมีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่ดูเหมือนจะลม ๆ แล้ง ๆ ในช่วงเริ่มต้น ในขณะที่หนังหรือซีรีส์ของต่างประเทศพยายามผลักดันให้คนดูหรือผู้คนในประเทศทำตามความฝันหรือเดินหน้าเพื่อความสำเร็จนั้น หนังไทยของเรา ณ ที่นี้ก็คือ กลับเบรคจินตนาการของคนดูว่า เป็นไปไม่ได้หรอก พอเถอะ เลิกหมกมุ่นกับความฝันตัวเองเถอะ กลับไปดูแลครอบครัวคุณเถอะ… โดยครึ่งหลังนี่เห็นได้ชัดเลยว่า พระพุทธศาสนาเริ่มเข้ามาครอบงำละ ไหนจะแม่ของหนึ่งตัวเอกคร่ำครวญเรื่องบาปแห่งการฆ่าตัวตายบ้างล่ะ ดูหนังออนไลน์ 4k หรือความตั้งใจใส่พระองค์โตทองอร่ามเข้ามาในซีนที่ตัวเอกเดินผ่านบ้างล่ะ ฯลฯ
และการอธิบายอธิบายเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ว่า “ผีมีจริงไหม?” “ถ้าผีมีจริง มีอะไรที่จะวัดได้ไหม” และ “ถ้าผีมีจริง จะปรากฏตัวได้อย่างไร เพราะหนังเรื่องนี้คงให้คำตอบได้ “ประมาณหนึ่ง” เท่านั้นล่ะนะครับ
เรื่องนี้มีองค์ประกอปที่น่าสนใจหลายอย่างมากๆ อย่างแรกคือ big idea เรื่องนี้ค่อนข้างแปลกใหม่มาก ในการตั้งคำถามเรื่องผีกับวิทยาศาตน์และการทดลองต่างๆ ไหนจะ line up นักแสดง ทั้งต่อ ธนภาพ ที่เป็นนักแสดงขายฝีมืออยู่แล้ว, ไอซ์ พาริซ, ณิชา นางเอกช่อง3 รวมทั้งการโปรโมทที่จริงจังมากถึงขนาดโฆษณาบนตึก จากองค์ประกอปที่ได้พูดมา ก็ทำให้ผมคาดหวังกับหนังเรื่องนี้ค่อนข้างมากอาจจะมากกว่าเรื่อง อ้ายคนหล่อลวง หนัง GDH เรื่องที่แล้วด้วยซ้ำ ก่อนดูคิดว่าหนังน่าจะนำเสนอผีในมุมการทดลอง วิทศาสตร์ สมุติฐานต่างมากๆ มากกว่าพลังวิเศษหรือเห็นผีเป็นตัว
แต่เมื่อได้ดูจริงๆแล้ว (ช่วงครึ่งแรก)
เปิดเรื่องมาหนังเล่าเรื่องได้น่าสนใจและตรึงผมได้อยู่หมัด ไม่มีช่วงที่รู้สึกน่าเบื่อเลย คือดำเนินเรื่องเร็วมีการสอดแทรกมุกตลกพอให้ยิ้มมุมปาก (ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเครียดทั้งเรื่องซะอีก) มันก็เลยทำให้เรื่องดูกลมกล่อมขึ้น มีการเล่าปูมหลังของสองตัวละครหลักที่ว่าทำไมถึงสนใจเรื่องผี ในฝั่งของกล้า(ไอซ์) ทำได้ดีนะ แต่ในส่วนของหมอวี(ต่อ ธนภพ) เข้าร่วมการทดลองง่ายไปหน่อย คิดตามนะครับ เป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีเพราะวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ขนาดเจอผีก็ยังแทบจะไม่เชื่อคิดว่าหลอนแต่ก็ยังดูไม่ได้สนใจหรืออยากทดลองแบบกล้า พอก็เล่าเรื่องพ่อให้ฟังก็เลยอยากร่วมด้วย?? คือถ้าอธิบายเหตุผลของวีมากกว่านี้อีกนิดจะดีมาก เขียนบทให้แม่ตายเลยอยากร่วมทดลองด้วยยังจะเมคเซนส์กว่าอีก (แต่เป็นจุดสงสัยเล็กๆ ที่ไม่ได้อะไรมาก)
ช่วงครึ่งหลัง
เนื้อเรื่องเริ่องเริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่กล้าเป็นคนจะไปโลกฝั่งนู้นเอง มีการสับขาหลอกแล้วก็โป้ง!! ในช่วงที่วีพยายามสื่อสารกับกล้าด้วยวิธีต่างๆอันนี้สนุกมาก ตอนจะตัดนิ้วนี้ลุ้นตามเลย หนังเล่นกับอารมณ์ตื่นเต้น เจ็บแทนได้ แบบอินกับมันจริงๆ ประหนึ่งเป็นนิ้วตัวเองไปวางอยู่ตรงนั้น ปัญหาหนึ่งที่เริ่มเห็นชัดขึ้นคือ การไม่ปูแรงจูงใจของตัวละคร ทั้งวีที่เริ่มบ้าทดลองยอมทำร้ายคนอื่นล้ำเส้นที่ไม่ควรล้ำ ที่พอตัดนิ้วก้อย+ทะเลาะกับกล้าในลิฟปุ๊ป ตัดมาอีกทีคือจะข่มขืนแฟนของกล้า ผีกล้าก็โกรธเกินเบอร์มาก ถึงกับพังข้าวของจะฆ่าวี ถ้าแค่สั่งสอนให้เจ็บตัวเต็มที่แขนขาหักก็ยังรับได้ นี้คือเล่นใหญ่มากแม่ (เข้าใจว่ากล้าโกรธจนพลั่งมือฆ่าไปแล้ว แต่ได้สติเลยปั๊มหัวใจวี) ฉากกล้ากลับเข้าร่างนี้แฟนตาซีไม่ไหว
สรุป
โดยรวมถือว่าเป็นหนังไทยที่ดูสนุกแต่ไม่ได้ดีมากเท่าที่ควรหนัวมีแผลพอสมควร ก่อนดูคิดว่าหนังคงเล่นกับการทดลองผีด้วยวิธีต่างๆ (เพราะเรื่องย่อก็เกริ่นประมาณนั้น) มีหลักการนู้นนี้ คืออย่างน้อยๆน่าจะให้ความสำคัญลงลึกแต่ละหลักการในการทดลอง หลักทางวิทยาศาสตร์ ทฤษฎีอ้างอิงมากกว่านี้ มากกว่าจะมาเจออะไรเหนือธรรมชาติแบบช่วงสุดท้าย คือไม่รู้ว่ามันมีวิจัยจริงๆมากน้อยแค่ไหนแต่ทฤษฎีที่หนังเรื่องนี้เล่าก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากที่คนรู้อยู่แล้วเลย “คือผีจะมีพลังมากจากความรู้สึกห่วงหรือแค้น” แค่นี้??? กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้มีเพียงแค่ big idea เท่านั้นที่ดูวิทยาศาสตร์ เนื้อในก็แตะเรื่องการทดลองเพียงผิวเผิน ไม่ได้ต่างจากหนัง Horror ที่เคยมีมาเท่าไหร่ ไหนความวิทยาศาสตร์? หนังดำเนินเรื่องเร็วเลยทำให้ไม่เบื่อแต่หลายครั้งก็ดูรีบเล่าเกินไป เลยทำให้เราไม่อินกับ motivation ของตัวละครแต่พอประติดประต่อได้ว่าเพราะอะไรถึงทำ ถ้าค่อยๆเล่าตอนที่ตัวละคร turn ไปสู่ด้านมืดอาจจะอินกับสิ่งหมอวีทำมากกว่านี้ ในช่วงสุดท้ายอะถ้าเล่นใหญ่อะถูกแล้วระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่แค่รู้สึกว่าแค่นี้ฆ่าเพื่อนเลยหรอมันดูเหมือนยัดเยียดไปหน่อย อารมณ์เหนือนแพลนไว้ว่าตอนจบจะเล่น climax ใหญ่ๆแต่นึกไม่ออกว่าจะให้มันทะเลาะอะไรกันดี แล้วยิ่งตอนที่วีได้เจอกล้าในฝันอันนั้นเหมือนเฉลยว่า จริงๆที่วีทำมาทั้งหมดแค่อยากทำสัญญาที่ให้กับกล้าเป็นสำเร็จ มันขยี้ได้อีกนะ ดูหนัง
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือมุมกล้องสวยดี ได้เห็นเมืองในแบบหม่นๆ ต่อคือเอาบทนี้ได้อยู่หมัดจริงๆทั้งท่าทางการขยับเเว่น การพูด น้ำเสียง เหมือนเป็นคนอีกคนนึงไปเลย ส่วนไอซ์ก็ทำได้ตามาตรฐานนะ แต่บทไม่ได้ว้าวอะไรเหมือนเล่นเป็นตัวเอง แต่ในซีนอารมณ์ก็ทำได้ดีทั้งคู่ ชอบซีนที่ทั้งคู่ตัดสินใจว่าใครจะไปเป็นผีทดลอง วิธีการทดลองที่แหวกแนวดี สรุปก็คือดูเอาสนุกได้ครับ แต่ไม่ถึงขนาดดีเยี่ยมอะไร
ทำไมแอบรู้สึกว่า ตอนท้าย ที่กล้าบีบคอวี ส่วนนึงเพราะความหึงหวงแฟน อีกส่วนก็แอบคิดว่า เพราะสื่อสารไม่ได้แล้วรึเปล่า ข้อความที่ส่งมาแต่ละครั้งจะเป็นคำสั้นๆ (เคยได้ยินว่า ถ้าวิญญาณอยากสื่อสารกับคนเป็น จะต้องเอาบุญมาแลก ยิ่งถ้าไม่ค่อยมีบุญ ก็สื่อสารแทบไม่ได้) เลยตั้งใจให้วิญญาณวีออกจากร่าง จะได้คุยให้เข้าใจ พอคุยเสร็จก็ช่วยกลับมา