รีวิวหนัง สยองขวัญ ปริศนารูหลอน
รีวิวหนัง สยองขวัญ ปริศนารูหลอน เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่
จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว
รีวิวหนัง สยองขวัญ ปริศนารูหลอน
มาในเรื่องนี้บทหนังเป็นฝีมือของ อภิเษก จิรธเนศวงศ์ ซึ่งเท่าที่ทราบคือไม่มีผลงานหนังยาวก่อนหน้าให้พอเห็นฝีไม้ลายมือเลย และอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังมีผู้ร่วมเขียนบทหลายคนรวมถึงตัวผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ที่ต้องลงมาร่วมเขียนบทด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นลักษณะทีมเขียนบทแต่แรก หรือการเข้ามาแก้ไขบทในภายหลังเพื่อแก้ปัญหา ดูหนัง 4k เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดของหนังคือปัญหาของบท ที่ตั้งใจเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียและพยายามหลอกผู้ชมด้วยการหักมุมไปมา แล้วทำให้คนดูตกตะลึงกับความจริงหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันสักด้านธีมของเรื่องหนังของวิศิษฏ์ในยุคหลังมีความจิกกัดสังคม และในเรื่องนี้ก็ว่าด้วยความจริงอาจมีหลายชั้น เปลี่ยนไปตามวัยของผู้มอง และบางทีความจริงที่แท้ก็โป้ปดหลอกลวงและปรากฏแก่หน้าเรามาแต่แรกเพียงแต่เราไม่ได้สนใจจะมองเห็นมัน ซึ่งสาระนี้มีนัยของการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในบางแง่มุมอยู่ และใครที่ชอบค้นชอบคุ้ยคิดวิเคราะห์สัญญะในหนังน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงงานก่อนหน้าของวิศิษฏ์อย่าง ‘สิงสู่’ (2561) ที่ซ่อนข้อความแรง ๆ อยู่ไม่น้อย
ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก
ปริศนารูหลอน
ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว
ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย
ปริศนารูหลอน
ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว ดูหนังออนไลน์ แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้และบางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และมันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว
และเมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดงและทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุกและไม่น่าเชื่อถือนี้ได้
เข้า Neflix ไปแล้วเมื่อวานนี้ กับกระแสตอบรับในโลกออนไลน์อย่างถล่มทลาย กับ หนังไทยออริจินัลเรื่องล่าสุดอย่าง “The Whole Truth ปริศนารูหลอน” ภาพยนต์ความยาว 125 นาที ตีแผ่เบื้องหลังความรับอันสยองขวัญหลัง “รู” ที่ปรากฎบนผนังบ้าน ที่จะส่องให้เห็นความลับดำมืดชวนสยองขวัญ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนต่างคาดหวังในความยอดเยี่ยมของบท และความสยองของ ปริศนารูหลอน คือชื่อชั้นผู้กำกับ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่สร้างผลงานหนังผีไทยระดับตำนานอย่าง “เป็นชู้กับผี” และหนังผีไทยแนวใหม่อย่าง “รุ่นพี่” เมื่อคนได้ชมปริศนารูหลอนแล้ว เสียงรีวิวจากคนดูจึงแตกออกเป็นสองฝ่ายระหว่างชอบกับไม่ชอบ ดูหนัง
หากถามว่า สนุกไหม? รีวิวหนังไทย
ตอบได้เลยว่า สนุก หากปล่อยใจเพลินไปกับหนัง ค่อย ๆ รู้พร้อมกับตัวละคร 2 พี่น้อง พิม กับ พัท ที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านตายาย หลังจากแม่ประสบอุบัติเหตุนอนไม่ได้สติอยู่โรงพยาบาล
รีวิว The Whole Truth ปริศนารูหลอน
จุดเด่นของหนังคือด้านงานภาพที่เนียบ ดุดัน เล่นมุมกล้องที่ค่อนข้างผาดโผน ช่วยตรึงให้เราอยู่กับหน้าจอได้ตลอดต้นจนจบเพื่อลุ้นว่า อะไรอยู่หลังรูนั้น ขณะเดียวกัน สิ่งที่ดูจะเป็นจุดอ่อนของหนังก็เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องคือ “บท”
บทหนัง มีซับพลอตหลายเรื่อง เลือกใส่เข้ามาจนระหว่างทางบทบังเส้นเรื่องหลักเป็นระยะ แล้วพอถึงจังหวะที่เปิดม่านให้ปมหลักของเรื่องเฉลย ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตกตะลึงขนาดนั้น ตัวหนังพยายามหยิบเครื่องมืออุปกรณ์มาเล่าเรื่องให้มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ตัววัตถุดิบที่นำมาใช้ยังคงเดิม ๆ เหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เราเคยดูมาแล้ว
อีกหนึ่งอย่างที่เป็นแผลเห็นชัดคือ การกระโดดของอารมณ์ตัวละคร บางฉากเป็นซีนต่อเนื่องกัน แต่อารมณ์ของตัวละครไม่คอนทินิว จนทำให้อารมณ์ของคนดูสะดุดไปด้วย เพราะต้องมาฉุกคิดว่าปัญหาเป็นที่การแสดงของนักแสดง หรือเป็นการออกแบบอย่างตั้งใจให้สื่อสารออกมาเป็นแบบนั้น
ปริศนารูหลอน เป็นหนังที่ดูได้เพลิน
โดยรวม The Whole Truth ปริศนารูหลอน เป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ สำหรับคนต้องการหาความบันเทิงดูยามว่าง ไม่ต้องใช้พลังงานเยอะในการเสพ
แต่ “ความจริง” จะเป็นเช่นรีวิวนี้หรือไม่ ตัวคุณเองต้องเป็นคนพิสูจน์ สำหรับการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ผมมองว่ามันยังคงเป็นจุดที่หนังพยายามจะขายให้เป็นจุดเด่นของหนังมากที่สุด เพราะหนังจะมีการเล่าเรื่องแบบพลิกแพลงไปมาให้คนดูเกิดคำถามและเอะใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนังก็ทำได้ดีพอสมควร แต่จุดที่ทำให้อาการเอะของคนดูมันจางลงก็คือการที่หนังปูปมปริศนาเอาไว้หลายเรื่องหลายปม แต่หนังก็ไม่ได้เอาปมเหล่านั้นมาขยายความหรือต่อยอดอะไรใดๆ นอกจากแค่เรื่องของความลี้ลับที่อยู่ในรูแค่นั้น ดูหนังออนไลน์ 4k
ซึ่งตอนแรกเหมือนรูนั้นจะมีปริศนาอะไรออกมาให้ติดตามและลุ้นว่าจะมีอะไรหักมุม แต่พอรูค่อยๆ เปิดเผยความลับออกมา มันเหมือนทุกอย่างมันคาดเดาง่ายไปหมด จนแทบไม่มีอะไรเซอร์ไพร์ส รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่หนังเหมือนกับจะเอาทุกประเด็นมาประกอบรวมร่างกันให้เกิดเป็นการหักมุมที่เซอร์ไพร์สเล่นใหญ่ตอนท้าย ก็กลายเป็นเฉลยแต่ละประเด็นแบบกระจัดกระจายไปจนเซอร์ไพร์สกร่อยไปหมดเลยซะอีกต่างหากนักแสดงในเรื่องเอาจริงๆ เหมือนแต่ละคนพยายามจะเล่นใหญ่โอเวอร์แอ็คติ้งจนมันดูเหมือนมันปลอมเกินไป ทั้งๆ ที่ถ้าตัวหนังเองมันลึกลับซับซ้อนอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องแอ็คติ้งขนาดนั้นก็ได้ ดูแล้วมันขัดๆ กับอารมณ์หนังยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก บวกกับการเอาทฤษฎี “รูหนอน” มายัดใส่คนดูตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วทฤษฎีนั้นคืออะไรก็ไม่รู้ หนังก็ไม่ได้ขยายความ มีแค่ตัวละคร พัท เท่านั้นที่พูดถึงตลอดเวลา ซึ่งมันก็เลยกลายเป็นจุดที่คนดูถูกยัดให้เชื่อว่ามันคือปริศนาหลักของเรื่องราวทั้งหมด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับทฤษฎีนั้นเลย
กับเรื่องของการแต่งหน้าของสิ่งที่อยู่ในรูให้มันดูหน้ากลัว และน่าสงสาร แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะสาเหตุอะไร แค่แต่งให้ดูน่ากลัวไปงั้นๆ อีกเรื่องคือเรื่องของ CG ที่ยัดเข้ามาจนทำให้ความน่ากลัวกลายเป็นความตลกไปเลย ซึ่งถ้าเอาจริงๆ แค่การแต่งหน้าให้น่ากลัวก็ดูโอเคอยู่แล้ว แล้วใช้ special effect ทำเอาจากวัสดุอุปกรณ์ก็น่าจะดี ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเอา CG มาใส่ให้มันดูลอยๆ ขนาดนั้น นับว่าเป็นหนังของ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง อาจจะเพราะด้วยความหวังที่จะได้ดูหนังสยองขวัญหลอนหักมุมตามที่เคยประทับใจมาแล้วในเรื่องก่อนหน้า แต่เหมือนเรื่องนี้ทุกอย่างมันดูยัดเยียดให้คนดูเชื่อ และยังไม่มีบทสรุปอะไรที่ลงตัวเท่าไหร่
หนังที่แปะยี่ห้อของผู้กำกับ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง แทบจะทุกเรื่องต้องมี Gimmick ในการเล่าเรื่องที่มีความคมคายน่าจดจำอยู่เสมอ หนังแนวหลอนสยองขวัญหักมุมเรื่องที่โด่งดังมากๆ ของเขาคือ “เป็นชู้กับผี” ในปี 2549 ที่มี ห้องเกียรติ โขมศิริ เขียนบท ก็ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้ มาปีนี้ หนังของ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง มาฉายใน Netflix ซึ่งจากเรื่องราวดูแล้วน่าจะมาแนวเดียวกับ “เป็นชู้กับผี” แต่อาจจะพลิกแพลงนิดหน่อย เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย